สูตรสำเร็จ SABUY อ่านเทรนด์ธุรกิจอนาคต-วางเป้าหมายพัฒนาผลิตภัณฑ์

SABUY เป็นบริษัทเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่มีความชัดเจนในแง่ของการวางกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย รวมไปถึงวางเป้าหมาย และพัฒนาธุรกิจตามเทรนด์ในอนาคตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในแง่ของการออกแบบแพลตฟอร์มยังสามารถทำให้ลูกค้าและพันธมิตรเข้าถึงระบบเพื่อใช้งานได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการให้ความสำคัญกับปัจจัยเหล่านี้ทำให้พวกเขามีการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว นำมาสู่รางวัลประเภท ‘กลุ่มอุตสาหกรรมบริการยอดเยี่ยม’

คุณชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY กล่าวว่า กลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจของ SABUY อยู่ที่การวาง Position ของกลุ่มลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน รวมถึงวางแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับเทรนด์ของธุรกิจ โดยที่ SABUY มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่เกี่ยวกับ e-Commerce ธุรกิจ Payment ธุรกิจ Merchandising & Solutions และธุรกิจ Financial Inclusion และได้นำเอา Innovation จากผลิตภัณฑ์ที่มีเข้าไปเสริมความแข็งแกร่งโดยเฉพาะการเข้าไปร่วมกระบวนการในการดำเนินชีวิต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้วันนี้ SABUY ได้ก้าวไปสู่การสร้างประสบการณ์ที่ครอบคลุมในชีวิตประจำวันของมหาชนจนได้รับการยอมรับจากลูกค้า และพันธมิตรเป็นอย่างมาก

นอกจากการได้รับการยอมรับจากลูกค้าและพันธมิตรแล้ว ในแง่ของผลประกอบการของ SABUY เป็นตัวการันตีความสำเร็จได้อย่างดี โดยกำไรสุทธิในช่วงปี 2562 มาจนถึงปี 2564 เติบโตอย่างก้าวกระโดด และผลงานไตรมาส 1 ของปี 2565 ก็ยังสามารถเติบโตเป็นเท่าตัว ในส่วนของรายได้เติบโต 102% ขึ้นมาอยู่ที่ 734 ล้านบาท และกำไรสุทธิเติบโต 219% ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 107.3 ล้านบาท

“ในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมาผลประกอบการของเราเติบโตค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในธุรกิจ e-Commerce ซึ่งเราได้จับเทรนด์ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสังคมไร้เงินสด (Cashless Economy) ดังนั้นเมื่อเรามีเทคโนโลยีที่เพียบพร้อมมันเหมือนกับการสร้างขึ้นมาเพื่อรอใช้งาน เมื่อเทรนด์เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปทำให้เราสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดี และมีพันธมิตรหลายรายต้องการเข้าร่วมกับเรา”

ขณะที่ คุณชูเกียรติ คาดการณ์ว่าภาพรวมในปี 2565 รายได้รวมทั้งปีของ SABUY จะเติบโตขึ้นจากระดับ 2,300 ล้านบาท เป็น 4,600 ล้านบาท หรือเติบโตได้เท่าตัว ซึ่งตัวขับเคลื่อนการเติบโตธุรกิจคือเทรนด์ธุรกิจ E-Commerce และช่องทางการขายและบริการ นอกจากนี้ SABUY จะมุ่งเน้นไปสู่ธุรกิจการให้บริการทางการเงิน และยังขยายการลงทุนไปในธุรกิจ Call Center เพราะมองว่าในโลกยุคปัจจุบันหลายองค์กรต้องการลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด ซึ่งวิธีลดต้นทุนก็คือเรื่องของ Operation ซึ่งการที่ SABUY สามารถเพิ่มฐาน Operation ให้กว้างมากขึ้นจึงทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่เข้ามาพร้อมกับมีพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาเพิ่มขึ้น และจะนำไปสู่การสร้างความได้เปรียบในเชิงแข่งขันมากขึ้น (Competitive Advantage)

สำหรับทิศทางของธุรกิจการให้บริการทางการเงิน SABUY ได้ตั้งภารกิจด้านการปล่อยสินเชื่ออย่างชัดเจนว่าจะต้องเป็นสินเชื่อสำหรับคนที่เข้าไม่ถึงการกู้เงินจากธนาคาร โดยที่ธุรกิจดังกล่าวมีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ และคาดการณ์ว่าสัดส่วนรายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ของรายได้รวมภายในปี 2566 จากปัจจุบันธุรกิจการเงินมีสัดส่วนรายได้ราว 5%

นอกจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว SABUY ถือเป็นบริษัทที่มีความก้าวล้ำ และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดตัวเหรียญดิจิทัล 2 เหรียญ ประกอบด้วยเหรียญ Speedkub หรือ CRM Token เพื่อใช้ในธุรกิจสะดวกส่ง Transportation และ e-Commerce ภายใต้ SABUY Ecosystem และเหรียญ FIIT Token ซึ่งเป็น Community Token จากการออกกำลังกาย และทำกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ โดยในช่วงที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากพันธมิตรทางธุรกิจ และประชาชนเป็นอย่างดี ขณะที่ในอนาคต SABUY ต้องการที่จะพัฒนา DATA Analysis ให้ดียิ่งขึ้น โดยอาศัยการเก็บข้อมูลจากช่องทางที่หลากหลายเพื่อนำมาพัฒนาองค์กร

ออกแบบแพลตฟอร์มตามหลัก Customer Segmentation
สำหรับการออกแบบแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของ SABUY จะมุ่งเน้นไปที่การใช้งานง่าย โดยมองย้อนกลับมาว่าผู้ใช้งานต้องสามารถทำความเข้าใจกับระบบได้ง่าย แพลตฟอร์มและบริการจะต้องไม่ทำให้มีความรู้สึกว่าเทคโนโลยีเข้าถึงยาก นอกจากนี้การออกแบบให้สอดรับกับกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญ โดย SABUY ออกแบบโดยคำนึงถึงพื้นฐานของ Customer Segmentation อย่างเช่น ตู้เติมเงินจะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับล่าง ซึ่งจะต้องเน้นที่การเข้าถึงง่าย และทำให้สามารถจดจำระบบได้ง่าย ส่วนแพลตฟอร์ม SABUY Money จะเป็นลูกค้าที่ทันสมัย ดังนั้น User Interface จะถูกออกแบบให้สวยงาม ทันสมัย

“มีพาร์ตเนอร์หลายรายเข้ามาติดต่อเราเพื่อที่จะขอเข้าไปอยู่ใน Ecosystem ของเรา สาเหตุเป็นเพราะเราสามารถโชว์ศักยภาพ และความพร้อมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ระบบ Ecosystem ของเรายังถูกออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย สบาย ๆ โดยที่เรามีทีมงานด้านเทคโนโลยีหลากหลายทีม ซึ่งแต่ละทีมจะมีความรู้ความเข้าใจ และเชี่ยวชาญในสินค้าและบริการของตัวเองที่แตกต่างกัน”

ดำเนินธุรกิจควบคู่ความยั่งยืน
SABUY เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการทำ ESG (Environmental, Social and Governance) โดยเน้นไปที่เรื่องของสิ่งแวดล้อม และการช่วยเหลือสังคม ซึ่ง SABUY ถือเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นพัฒนาพนักงาน พันธมิตร และลูกค้า รวมไปถึงตอบแทนผู้ถือหุ้นด้วยการดำเนินธุรกิจให้ดีที่สุด และสร้างธุรกิจเพื่อแบ่งปันด้วยการให้ทุกคนสามารถเข้ามาแบ่งปันโอกาส และทรัพยากรจาก SABUY ได้ ซึ่งการดำเนินธุรกิจด้วยความแบ่งปันนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ใน Ecosystem สามารถเข้าถึงโอกาส และนำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

“ความท้าทายของอุตสาหกรรมต่อจากนี้ คือการพัฒนาบุคลากร เนื่องจากงานทางด้านเทคโนโลยีเป็นงานที่ค่อนข้าง Challenge ดังนั้น สิ่งที่จะทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จได้คือความพร้อมของบุคลากร นอกจากนี้ เรื่องของระยะเวลายังเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่จะต้องใช้ในการพัฒนา เพื่อให้เราสามารถแข่งขันกับทุกคนได้ โดย Business Model ของเราคือการแข่งกับเวลา และพัฒนาบุคลากร เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ขึ้น” คุณชูเกียรติ กล่าวในตอนท้าย

ที่มา : การสัมภาษณ์พิเศษ

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #TQM