RS ผนึกกำลัง Grammy สร้างปรากฏการณ์ต่อยอดธุรกิจเพลง เฮียฮ้อ ประกาศพร้อมจับมือพาร์ทเนอร์ทั้งในและต่างประเทศ ดันธุรกิจโตก้าวกระโดด

RS Music (อาร์เอส มิวสิค) ธุรกิจในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ผู้ขับเคลื่อนวงการเพลงไทยมากว่า 40 ปี ประกาศการจัดตั้งกิจการร่วมค้า อะครอส เดอะ ยูนิเวิร์ส (ACROSS THE UNIVERSE JOINT VENTURE) กับ Grammy Music (แกรมมี่ มิวสิค) ผนึกกำลังจัดคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ ผ่านกลยุทธ์การตลาดที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกนึกถึงอดีต (Nostalgia Marketing) ตอบรับเทรนด์ 90s – Y2K นอกจากจะเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ให้กับวงการเพลงไทยและมอบความสุขสุดพิเศษให้กับแฟนๆ แล้ว ยังสะท้อนกลยุทธ์สำคัญทางธุรกิจของ RS Music ที่เปิดโอกาสและพร้อมร่วมงานกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศที่มีศักยภาพ ทั้งนี้ อาร์เอส มิวสิค ยังมีอีกหนึ่งดีลใหญ่ที่จับมือกับพันธมิตรต่างชาติและใกล้เปิดเผยในเร็วๆ นี้เช่นกัน ซึ่งเป็นไปตามความตั้งใจของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นต่อยอดสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงสนับสนุน ผลักดัน และยกระดับวงการเพลงไทยให้แข่งขันได้ในระดับนานาชาติ

ด้วยกระแส 90s และ Y2K ที่ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง จากแฟชั่นของเซเลบริตี้ระดับโลก ประกอบกับศักยภาพของโซเชียลมีเดียที่ทำให้เกิดกระแสการแชร์ต่ออย่างแพร่หลายบนโลกออนไลน์ ส่งให้เทรนด์เติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งในวงการแฟชั่น วงการเพลง และวงการอื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงคนไทยเองก็กลับมาสนุกกับเทรนด์นี้เช่นกัน ค่ายเพลงชั้นนำของไทย อย่าง RS Music จึงคว้าโอกาส รวบรวมศิลปินในแต่ละยุคมาจัดคอนเสิร์ตสุดพิเศษ โดยดึงกลยุทธ์การตลาด Nostalgia Marketing ตอบสนองความต้องการของผู้คนที่โหยหาความสุขในอดีต ซึ่งบทเพลงและท่าเต้นที่เคยโด่งดังกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถดึงความสนใจและสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) จากผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี

คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาร์เอส ถือเป็นไอคอนทางดนตรีที่บุกเบิกวัฒนธรรมเพลงวัยรุ่นของไทยมาอย่างยาวนาน โดยเมื่อต้นปีนี้ ทางอาร์เอสได้เผยถึงกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ในการกลับมาเดินหน้าธุรกิจเพลงอีกครั้ง ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ที่ชัดเจนและพาร์ทเนอร์ใหม่ที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ ครั้งนี้จึงนับเป็นโอกาสที่ดีมากที่อาร์เอส ได้เริ่มต้นทำความร่วมมือกับพันธมิตรรายสำคัญอย่าง ‘แกรมมี่’ ซึ่งเป็นผู้นำและเป็นเพื่อนร่วมวงการที่ช่วยกันผลักดันและสร้างสรรค์วงการเพลงไทยมาอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบ JV (Joint Venture) ในจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อผสานศักยภาพที่โดดเด่นของทั้งสองบริษัทเพลงชั้นนำของไทยเข้าด้วยกัน”

ด้านคุณวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการ กิจการร่วมค้า อะครอส เดอะ ยูนิเวิร์ส กล่าวว่า “ภายใต้ JV นี้ ทั้งอาร์เอสและแกรมมี่ได้ลงทุนในสัดส่วนเท่ากัน และช่วยกันทำงานอย่างใกล้ชิด โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์ประสบการณ์สุดพิเศษให้กับแฟนคลับ ผ่านกลยุทธ์ Nostalgia Marketing สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแฟนๆ และศิลปินคนโปรดที่คิดถึง ตอบรับเทรนด์ 90s และ Y2K ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ซีรีส์คอนเสิร์ตนี้จะเปิดโอกาสให้ศิลปินแห่งยุค 90s และ Y2K ได้กลับมาสร้างสีสันบนเวทีอีกครั้ง ให้ความสุขกับแฟนๆ ได้ร้องและเต้นกันอย่างสนุกสนานแบบไม่มีข้อจำกัดเรื่องค่าย”

ซีรีส์คอนเสิร์ตในปีนี้ ประกอบด้วย 3 คอนเสิร์ตใหญ่ ใน 3 ธีมที่แตกต่าง ในเดือนกรกฎาคม กันยายน และตุลาคมตามลำดับ ซึ่งได้รวบรวมศิลปินในแต่ละยุคมาจัดเต็มความสนุก พร้อมส่งมอบความสุขให้กับทุกคน นอกจากไลน์อัพศิลปินที่ดึงดูดแฟนคลับได้เป็นอย่างดี ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่พร้อมดันคอนเสิร์ตทั้งสามสู่ความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นทีมโปรดักชั่นระดับประเทศที่มากประสบการณ์ ความพร้อมของสถานที่การจัดงานอย่าง อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ธีมงานที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ซึ่งน่าจะถูกใจฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นและรอคอยการกลับมาของศิลปินคนโปรดอย่างใจจดใจจ่อ รวมถึงไลฟ์สไตล์และกำลังทรัพย์ของคนในยุค 90s ที่ปัจจุบันที่อยู่ในวัยทำงานและมีสถานะภาพทางการเงินที่มั่นคงแล้ว

“เรามั่นใจว่าทุกคอนเสิร์ตใน ACROSS THE UNIVERSE JOINT VENTURE จะประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ และตั๋วน่าจะ Sold Out อย่างรวดเร็ว และคาดว่ารายได้และกำไรจากกิจการร่วมค้าครั้งนี้ หลังจากแบ่งในสัดส่วนเท่าๆ กัน จะช่วยผลักดันรายได้ปี 2566 ของธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป สู่เป้าหมายที่ 2,400 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังจะช่วยสร้างกระแสให้ศิลปินและเพลงของทั้งสองค่ายให้กลับมา Viral อีกครั้ง ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ Music Assets ที่เรามี” คุณวิทวัส กล่าวเสริม

คุณสุรชัย กล่าวปิดท้ายว่า “สำหรับ RS Music ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความร่วมมือใหม่ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างการเติบโตให้กับรายได้ของ RS Music แต่ยังสะท้อนว่าเราเปิดโอกาสพร้อมร่วมงานกับพันธมิตรที่มีศักยภาพทั้งในและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดสู่โอกาสทางธุรกิจหรือโปรเจคใหม่ๆ ในรูปแบบอื่นๆ ในอนาคต โดยขณะนี้ เรากำลังอยู่ในระหว่างการหารือในประเด็นความร่วมมือกับพันธมิตรต่างประเทศ และจะเปิดเผยอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะบรรลุข้อตกลงภายในไตรมาสที่ 2 นี้ ท้ายที่สุดแล้ว การร่วมงานกับพันธมิตรทั้งหมดล้วนเป็นไปตามความตั้งใจของเราที่จะสนับสนุนและขับเคลื่อนวงการเพลงไทยให้เติบโตและสามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ”