‘พีไฟว์กรุ๊ป’ ใช้นวัตกรรมผสานสมุนไพร ผลิต ‘PVIVE’ จากแนวคิด “FROM FAMILY TO FAMILIES”

ปัจจุบันสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามมีหลากหลายแบรนด์ในท้องตลาด หลังผู้บริโภคหันมาสนใจดูแลภาพลักษณ์มากขึ้น ซึ่ง ‘PVIVE’ เป็นหนึ่งแบรนด์ภายใต้กลุ่มบริษัทพีไฟว์ มีผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ที่โดดเด่นด้วยสารสกัดจากสมุนไพรผสานนวัตกรรมเสริมประสิทธิภาพการบำรุง โดยภาพรวมอุตสาหกรรมนี้ยังคงมีแนวโน้มที่เติบโตดีจึงคาดจะช่วยผลักดันให้ ‘PVIVE’ เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีผลการดำเนินงานที่โตต่อเนื่อง

 

คุณภาวัฒน์ โตกะคุณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พีไฟว์กรุ๊ป กล่าวว่า ทุกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมานั้นอยู่ภายใต้คอนเซปต์ from family to families ซึ่งเราเปรียบลูกค้าเป็นคนในครอบครัว โดยผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ‘PVIVE’ นั้นเริ่มแรกคิดค้นมาเพื่อดูแลเส้นผมคนภายในครอบครัวเนื่องจากเกิดปัญหาผมร่วงค่อนข้างมาก แต่ภายหลังจากการทดลองใช้ผมร่วงลดน้อยลงจนสังเกตได้ จึงได้มีการพัฒนาส่งต่อสินค้าออกสู่ตลาด

 

สำหรับจุดเด่นของ ‘PVIVE’ นั้น เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะและเส้นผมระดับพรีเมียม อุดมไปด้วยคุณค่าสมุนไพรจากธรรมชาติ ปราศจากซิลิโคน พาราเบน แอลกอฮอล์ รวมทั้งได้มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาเสริมประสิทธิภาพช่วยดูแลเส้นผมให้งอกใหม่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ภายใต้สโลแกน “ผมไม่มีวันตาย”

 

ขณะที่อีกหนึ่งจุดแข็งของ ‘PVIVE’ คือ บริการหลังการขาย (After Sale) โดยบริษัทพร้อมให้ความช่วยเหลือหากลูกค้าเกิดปัญหาใด ๆ ก็ตามภายหลังจากการซื้อสินค้า หรือการใช้สินค้า จึงส่งผลให้บริษัทยังคงมีฐานลูกค้าเก่าอย่างหนาแน่น และมีลูกค้าใหม่เพิ่มเข้ามา

 

โดย ‘PVIVE’ มีกระบวนการดูแลเส้นผมอย่างล้ำลึกตั้งแต่ขั้นตอนแรกอย่างการสระ ‘PVIVE Shampoo’ อุดมไปด้วยส่วนผสมสารสกัดจากดอกชบา ขจัดสิ่งสกปรกและไขมันอุดตันในรูขุมขน ลดการอักเสบของหนังศีรษะช่วยเสริมสร้างและบำรุงรากผมให้แข็งแรง การทรีตเมนต์ ‘PVIVE Conditioner’ ด้วยคุณค่าสารสกัดเข้มข้นจากตำแย ลดอาการหลุดร่วงเสริมสร้างเส้นผมให้แข็งแรงจากเคราตินโปรตีนเคลือบ และบำรุงเส้นผมจากแกนผมสู่ภายนอก ช่วยฟื้นฟูผมเสียให้กลับมานุ่มสวย ยืดอายุเส้นผมให้หลุดร่วงช้าลง และเซรั่ม ‘PVIVE Hair Serum’ ที่ให้มากกว่าการบำรุงและยังช่วยให้ผมกลับมางอกใหม่ ด้วยสุดยอด Plant Peptide สารสกัดจากเหง้าขมิ้น กระตุ้นการทำงานของรากผมอย่างมีประสิทธิภาพไม่กลับมาหลุดร่วง และนวัตกรรม Darkenyl ช่วยในการทำงานของเมลานินให้สม่ำเสมอทำให้ผมดำเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมความสดชื่นด้วยกลิ่นสมุนไพรอันอ่อนโยน

 

หากมองเรื่องยอดขายนั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยตลาดของ ‘PVIVE’ อยู่ในระดับพรีเมียม ซึ่งจากผลสำรวจยอดการสั่งซื้อผ่านคอลเซนเตอร์ ลูกค้าเก่ามีการกลับมาซื้อซ้ำ ขณะที่ร้านค้าชั้นนำที่บริษัทได้นำสินค้าไปวางจำหน่ายอย่าง TOPS, BEAUTRIUM, EVEANDBOY, WATSON Online, Gourmet Market เป็นต้น ก็มียอดเปิดบิลสั่งสินค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

 

ปัจจุบัน เราอยู่ในขั้นตอนพัฒนาสูตร ‘PVIVE 2’ รวมถึงปรับรูปแบบโปรดักต์ใหม่ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น อีกทั้งได้มีการเตรียมขยายโรงงานผลิตแห่งที่ 2 บนพื้นที่ 3 ไร่ โดยโรงงานนี้จะช่วยเพิ่มกำลังผลิตได้อีก 20 เท่าตัว คาดจะแล้วเสร็จกลางปี 2567 เพื่อรองรับการขยายตลาดไปยังอินเดีย บาห์เรน และประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เวียดนาม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการทดลองวางจำหน่ายและผลตอบรับที่ได้กลับมานั้นดีมาก

 

สำหรับแผนในปี 2566 นี้ บริษัทวางเป้าหมายจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รายการ ได้แก่ สบู่ล้างหน้าก้อน ครีมอาบน้ำ และคอลลาเจนชงดื่ม ส่วนด้านผลประกอบการนั้น คาดรายได้ยังคงแตะระดับ 300 ล้านบาท เนื่องจากปีที่ผ่านมาเติบโตเกินความคาดหมาย

“ภาพรวมอุตสาหกรรมแชมพูในไทยนั้นยังคงเติบโต เนื่องจากทุกวันนี้คนยังมีปัญหาเรื่องผมขาดหลุดร่วง และสินค้าของเราอยู่ในระดับพรีเมียม แนวโน้มการเติบโตจึงยังโดดเด่น” คุณภาวัฒน์  กล่าวทิ้งท้าย

 

ปี 2566 นี้คงเป็นอีกปีที่ ‘พีไฟว์กรุ๊ป’ จะยังคงเติบโตอย่างโดดเด่นและเติบโตต่อเนื่อง หลังกระแสตอบรับจากทุกผลิตภัณฑ์ที่นำออกสู่ตลาดนั้นมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มมากขึ้น จากการนำนวัตกรรม จุดเด่นของสมุนไพรไทยมารังสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ อย่าง ‘PVIVE’ ที่ดูแลเส้นผมแบบพรีเมียม ภายใต้สโลแกน “ผมไม่มีวันตาย”