ปอร์เช่ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป เปิดประสบการณ์การขับขี่สุดเอ็กซ์คลูซีฟสไตล์ลักชัวรี่ไปกับ 7 ไฮไลต์เด่นแห่งยนตกรรมสปอร์ตปอร์เช่

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่และอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดกิจกรรม “Porsche Driving Experience 2022”  โดยเชิญบรรดาเหล่า Youtuber, Influencer, Vloggers และเซเลบริตี้คนดังผู้ชื่นชอบในความแรง และหลงใหลในเสน่ห์แห่งความเป็นสปอร์ต ของตระกูลปอร์เช่ ได้มาร่วมขับทดสอบสัมผัสประสบการณ์ในการขับขี่สมรรถนะแห่งยนตรกรรมสปอร์ตปอร์เช่หลากหลายรุ่นแบบเอ็กซ์คลูซีฟโดยมีผู้เชี่ยวชาญการขับขี่รถยนต์ปอร์เช่ (Porsche Instructor) มากประสบการณ์ คอยดูแลและให้คำแนะนำพร้อมการันตีความสนุกให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การทดสอบเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยอย่างสูงสุด นำทีม โดย น้ำฝน-ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล , กัปตัน-ชลธร คงยิ่งยง , ซี – ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ , ศศิ สินทวี ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์เมื่อวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา

กิจกรรม Porsche Driving Experience คือกิจกรรมทดลองขับรถยนต์ปอร์เช่ให้ผู้เข้าร่วมงานได้มาสัมผัสกับสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของที่สุดแห่งสมรรถนะยนตรกรรมสปอร์ต ผ่านการทดลองขับรถปอร์เช่บนสนามทดสอบสมรรถนะมากถึง 3 สถานี สำหรับยนตกรรม 7 รุ่นที่นำมาเป็นไฮไลต์ในวันนี้ ได้แก่ 718 เคย์แมน ที (718 Cay-man T), พานาเมร่า 4 อี ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) ,ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด เอ็กเซ็กคูทีฟ ,Panamera 4 E-Hybrid Executive, คาเยนน์ อี ไฮบริด คูเป้ (Cayenne E-Hybrid Coupe), มาคันน์ ใหม่ (The new Macan ) รวมทั้งยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าอย่าง ไทคานน์ (Taycan) และ ไทคานน์ 4 เอส ครอส ทัวริสโม Taycan 4S Cross Turismo)

กิจกรรมเริ่มต้นตั้งแต่เช้าหลังผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านตรวจวัดอุญหภูมิร่างกาย และตรวจ ATK ก่อนลงทะเบียนตามมาตรการ “New Normal” และเพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ Porsche Driving Experience  ปอร์เช่จึงได้จัดกิจกรรมการขับขี่ที่เน้นการปฏิบัติจริงในสนามทดสอบ ให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ครบครันทุกรูปแบบ ทั้งสมรรถนะการขับขี่ ฟังก์ชั่นการใช้งาน อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความสบายสำหรับห้องโดยสารอันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของที่สุดแห่งนวัตกรรมอันล้ำสมัยของยนตกรรมสปอร์ต ตอบโจทย์ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวมถึงการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง โดยการทดสอบจำลองขึ้นทั้งหมด 3 สถานีด้วยกัน ดังนี้

สถานี Handling การทดสอบบังคับควบคุมรถ ซึ่งจะทดสอบการทรงตัวและการตอบสนองอย่างฉับไว ของพวงมาลัย ขณะใช้ความเร็วในการขับขี่ ซึ่งผู้ขับขี่จะได้สัมผัสถึงอาการของรถเมื่อมีการเปลี่ยนทิศทางหรือการเลี้ยวอย่างรวดเร็ว ในสถานีนี้จะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการยึดเกาะถนน และระบบช่วงล่างของรถยนต์ปอร์เช่เมื่อเปิดการตั้งค่า Porsche Active Suspension Management (PASM) ได้เป็นอย่างดี

สถานี Braking สร้างความมั่นใจและปลอดภัย ได้ทุกสถานการณ์ด้วยระบบเบรกมาตรฐานจากปอร์เช่ซึ่งได้รับ การยอมรับว่าเป็นระบบเบรคที่ดีที่สุดในโลก โดยผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำวิธีการใช้เบรกในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือการเบรกและควบคุมรถกะทันหันอย่างถูกต้องและปลอดภัย

สถานี Slalom ทดสอบความแม่นยำ ความรวดเร็วในการตอบสนองของช่วงล่าง จากระบบอัจฉริยะของปอร์เช่ การหักเลี้ยวหลบสิ่งกีดขวางในระยะกระชั้นชิด รวมถึงศักยภาพการทรงตัวของรถยนต์ปอร์เช่ที่เป็นเลิศ

นอกจากนี้ เอเอเอสฯ ยังได้รับความร่วมมือจาก บจก. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก สนับสนุนสถานีบริการชาร์จไฟสำหรับรถพลังงานไฟฟ้า EV Station ที่จะให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมบริการแอพพลิเคชั่น EV Station ที่จะใช้รองรับผู้ใช้ยานพาหนะไฟฟ้าใน ประเทศไทยในอนาคต

ข้อมูลรถยนต์ปอร์เช่ที่ใช้ในการทดสอบ

718 เคย์แมน T

ปอร์เช่ 718 เคย์แมน T รถสปอร์ตคูเป้เครื่องยนต์วางกลาง 4 สูบนอน โดดเด่นด้วยระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ พละกำลังสูงสุดถึง 300 แรงม้า จากขนาดความจุเครื่องยนต์เพียง 2.0  ลิตร ให้แรงบิดมหาศาล เป็นเครื่องการันตีถึงการตอบสนองการขับขี่ที่เร้าใจของ ปอร์เช่ 718 เคย์แมน T ในทุกรอบการทำงาน จากแรงบิดสูงสุดกว่า 380 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 275 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถเร่งออกตัวจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในระยะเวลาเพียง 4.7  วินาที  เสริมความโดดเด่นด้วย ออปชั่นอย่างครบครัน ปอร์เช่ 718 เคย์แมน T นี้ รอการประกาศราคาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด + พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด เอ็กเซ็ก คู ทีฟ

เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการขับขี่ยนตรกรรมอี-ไฮบริดด้วยพานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด ซาลูน 4 ประตู ที่ช่วงล่างและระบบควบคุมได้รับการปรับแต่ง เพื่อเสริมความสปอร์ต และความนุ่มนวลมากกว่าเดิม พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด ได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุ 2.9 ลิตร เทอร์โบคู่ ความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 340 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถเร่งออกตัวจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในระยะเวลาเพียง 4.4  วินาที  โดดเด่นด้วยการขับขี่ สมรรถนะสูงสไตล์แกรนทัวริ่งผสมผสานความหรูหราได้อย่างลงตัว ให้พละกำลังสูงสุด 462 แรงม้า ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสุดพิเศษ อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 43.4 – 47.6 กิโลเมตรต่อลิตร พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด ราคาเริ่มต้นที่ 7.45 ล้านบาท และรุ่นพานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด เอ็กเซ้ก คู ทีฟ 7.85 ล้านบาท

คาเยนน์ อี-ไฮบริด  + คาเยนน์ อี-ไฮบริด คูเป้

ปอร์เช่ คาเยนน์ อี ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid) ยนตรกรรมพรีเมียม SUV แห่งยุคที่ติดตั้ง ขุมพลัง E-performance พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใหม่ล่าสุด ผสมผสานการบังคับควบคุมสไตล์ สปอร์ตให้เป็นหนึ่งเดียวกับประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด เครื่องยนต์ V6 ขนาดความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตร (340 แรงม้า/250 กิโลวัตต์) เสริมพลังด้วยระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า (136 แรงม้า/100 กิโลวัตต์) ให้พละกำลังสูง สุดรวมกว่า 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตร ด้วยแนวคิดในการพัฒนาแบบเดียวกับปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 40.0 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 58 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 21.6 กิโลวัตต์ ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ปอร์เช่ คาเยนน์ อี ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid) ราคาเริ่มต้นที่ 6.45 ล้านบาท และ รุ่นคูเป้ ราคาเริ่มต้นที่ 8.05 ล้านบาท

มาคันน์  

มาคันน์  (Macan ) ถูกติดตั้งเครื่องยนต์ V4 Biturbo ขนาด 2 ลิตร มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 265 แรงม้า เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 6.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 232 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัตช์คู่ 7 จังหวะ (PDK) ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel-drive (ออล วีล ไดร์ฟ) ระบบช่วงล่างใหม่ ชิ้นส่วนด้านหน้า ด้านหลัง และสเกิร์ตด้านข้างตัวรถ ได้รับการออกแบบด้วยโครงสร้างแบบ 3 มิติ  โคมไฟหน้าแบบ LED มาพร้อมระบบ Porsche Dynamic Light System (ปอร์เช่ ไดนามิก ไลท์ ซิทเต้ม) คอนโซลกลางใหม่ พร้อมหน้าจอสัมผัส ขนาด 10.9 นิ้ว ระบบสั่งการผ่านเสียง สำหรับสีตัวถังภายนอกมีเฉดสีใหม่ให้เลือกรวม 12 เฉดสี ราคาเริ่มต้นที่ 4.79 ล้านบาท

ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan)

รถสปอร์ตซาลูน 4 ประตู ที่ได้รับการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงขับเคลื่อนสูง 800 โวลต์ เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และคงไว้ซึ่งงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไทคานน์ เทอร์โบ (Taycan Turbo) มาพร้อมพละกำลังสูงสุด 408 แรงม้า ยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ได้ถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับในรุ่น ไทคานน์ 4เอส (Taycan 4S) ที่สามารถติดตั้ง Performance Battery Plus ให้พละกำลังเพิ่มขึ้นสูงสุด 530 แรงม้า พร้อมทะยานทะลุความเร็วสูงสุดกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปอร์เช่ ไทคานน์ ใหม่ มีพิสัยการเดินทางเฉลี่ย 371-444 กิโลเมตร ปอร์เช่    ไทคานน์ (Porsche Taycan) รอการประกาศราคาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ไทคานน์ 4 เอส ครอส ทัวริสโม ใหม่

ปอร์เช่ ไทคานน์ 4 เอส ครอส ทัวริสโม ใหม่ ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าเวอร์ชั่นออฟโรด ที่ได้รับการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงขับเคลื่อนสูง 800 โวลต์ เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมทั้งในรูปแบบออนโรดและออฟโรด พละกำลังสูงสุด 571 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีพิสัยการเดินทางเฉลี่ย 415 – 490 กิโลเมตร และมีช่วงล่างอันประกอบไปด้วย เทคโนโลยีขั้นสูงพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all wheel drive (ออ วีล ไดร์ฟ) มีพื้นที่เหนือศีรษะภายในห้องโดยสารตอนหลังที่สูงขึ้นถึง 47 มิลลิเมตร รวมทั้งพื้นที่บรรทุกสัมภาระท้ายรถที่มีความจุมากขึ้นกว่า 1,212 ลิตร ปอร์เช่ ไทคานน์ 4 เอส ครอส ทัวริสโม ใหม่ รอการประกาศราคาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง