- ภาพรวมตลาดอสังหาฯ เริ่มฟื้น ทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบ-แนวสูง เศรษฐกิจดีปีนี้มีโครงการเปิดใหม่เป็นจำนวนมากและยอดโอนกรรมสิทธิ์ เพิ่มขึ้น 14.3% รวมถึงอาคารสำนักงานต่างๆ สร้างเสร็จเข้าสู่ตลาด เป็นโอกาสให้ธุรกิจบริหารจัดการอาคารขยายตัวโตขึ้น สร้างงานและอาชีพ เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดอีกด้วย ผนวกปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ส่งผลให้อุปทานตลาดเช่าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้า 55% และ 400% ตามลำดับ
- พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้นำในธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนต์ไทย มุ่งมั่นขยายธุรกิจ และรักษาความเป็นที่หนึ่งด้านคุณภาพ ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง เผยผลงานบริหารจัดการโครงการด้วยพื้นที่บริหารมากที่สุดกว่า 18 ล้านตร.ม. ตั้งเป้าหมายปี 2566 ขยายพอร์ตรวมกว่า 400 โครงการ รุกขยายตลาดต่อเนื่องทั้งใน กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ยกระดับมาตรฐานงานบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ ปั้นคนเข้าสู่ตลาดแรงงาน รองรับการเติบโตของอสังหาฯ ประกอบกับธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่าและบริหารงานขายโครงการ ที่มีสัญญาณบวกกลับมาสู่ตลาด มั่นใจปีหน้าโตขึ้น ตั้งเป้ารายได้ 1,700 ล้าน บาท
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้นำการบริหารจัดการพื้นที่และบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรเปิดเผยว่า “ ภาพรวมตลาดอสังหาฯ เริ่มฟื้นตัวจากการที่ธุรกิจท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างชาติเพิ่มขึ้น ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น จากศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ปีนี้พบว่าตลาดที่อยู่อาศัยโครงการใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 94.6 % ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ในตลาดเริ่มมี Supply มากขึ้นตามไปด้วยคิดเป็น 14.3% ซึ่งจากปลายปี 65 ที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดเพิ่มขึ้น 145.3% ขณะที่กลุ่มบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมมีการขยับตัวดีขึ้น 59.6% รวมถึงมีอาคารออฟฟิศ สำนักงานให้เช่าที่กำลังทยอยแล้วเสร็จรับการกลับมาของการทำงาน สะท้อนให้เห็นว่าการเติบโตของตลาดอสังหาฯ ในปีนี้เป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้มีความต้องการบริษัทบริหารจัดการอาคารที่เป็นมืออาชีพมาดูแลอาคารเพิ่มขึ้นตามไปด้วย พลัสฯ เผยผลการดำเนินงานปี 2565 เติบโตขึ้น ผ่าน 4 เสาหลักของธุรกิจ ได้แก่ การบริการดูแลที่พักและบริหารโครงการบริหารอาคารที่พักอาศัยแนวราบและนิติบุคคลอาคารชุด (Property Management) บริการบริหารอาคารเชิงพาณิชย์ (Facility Management) LIV – 24 ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ และงานที่ปรึกษางานขายโครงการ บริหารการขายและการตลาด (Sale Management & Brokerage) ในปี 2566 พลัสฯได้ตั้งเป้าหมายเน้นธุรกิจในตลาดที่เชี่ยวชาญ ขยายเพิ่มเป็นกว่า 400 โครงการ เป้ารายได้ที่ 1,700 ล้าน บาท”
สำหรับกลยุทธ์และแผนงานของพลัสฯ ในปี 2566 นั้น ยังตั้งเป้าให้เป็นปีแห่งการเติบโต โดยวางกลยุทธ์ 3 ด้าน ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจและส่งมอบคุณภาพงานบริการที่ครอบคลุมทุกมิติ
- Business Growth การเติบโตของธุรกิจอย่างแข็งแกร่งครบทุกมิติ
- งานบริหารจัดการอาคาร (Property Management) ชูจุดเด่นด้วยผู้นำด้านคุณภาพการบริการระดับสากลที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 3 ด้านเป็นรายแรกและรายเดียวในไทย รวมถึงมีการทำงานแบบ Customised Service ที่รู้จักและเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดยแบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจดูแลงานบริหารโครงการที่พักอาศัย เน้นขยายกลุ่มลูกค้าในกลุ่มที่พักอาศัยระดับลักชัวรี ในกลุ่มบริหารทรัพยากรอาคารเชิงพาณิชย์และระบบวิศวกรรม ขยายไปในธุรกิจสำนักงานอาคาร เกรดเอ ขนาดใหญ่ ธุรกิจธนาคารและการลงทุน ธุรกิจโรงพยาบาล สถานศึกษา รวมถึงกลุ่มอาคารเพื่อการพาณิชย์อื่นๆ เป็นต้น พลัสฯ พร้อมดูแลอย่างมืออาชีพเป็นพาร์ตเนอร์เคียงข้างเจ้าของอาคารตอบโจทย์ธุรกิจและยกระดับมาตรฐานอาคารมุ่งไปสู่เป้าหมายร่วมกัน
- เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ LIV-24 ขยายพอร์ตจากโครงการที่พักอาศัย สู่โครงการเพื่อการพาณิชย์ อาทิ ศูนย์บริการที่มีหลายสาขา โรงเรียน โรงแรม โรงงาน อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ชูความสามารถของเทคโนโลยีและประสบการณ์ของคนที่เชี่ยวชาญผสานกันอย่างลงตัว เตรียมเปิด platform ยกระดับความปลอดภัยในอาคารเชิงพาณิชย์ด้วย ด้วยระบบ Visitor Management System คัดกรองบุคคลเข้า-ออกภายในอาคาร เพิ่มความปลอดภัยที่เหนือกว่าด้วยระบบประมวลผลอัตโนมัติเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง
- งานบริหารสินทรัพย์ (Asset Management) ประกอบไปด้วย ธุรกิจ Sole Agent ปีที่ผ่านมาได้รับเป็นที่ปรึกษาบริหารการขายโครงการและการตลาด 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,500 ล้านบาท ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นจากผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหม่และลูกค้าเดิมที่ไว้วางใจมาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯและจังหวัดเศรษฐกิจ สำหรับในกลุ่มซื้อ ขาย เช่านั้น ได้รับอานิสงส์การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ปลายปี ทำให้อุปสงค์ในการเช่าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ของพลัสฯ เพิ่มสูงขึ้นเป็น 55% และ 400% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาในช่วงเดียวกัน
- People Development ยกระดับมาตรฐานงานบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ ปั้นคนเข้าสู่ตลาดแรงงาน รับการเติบโตของอสังหาฯ ตั้งเป้าเป็นองค์กรที่ให้ความรู้ สร้างมาตรฐานและพัฒนาศักยภาพคนทั้งพนักงานภายในองค์กร และบุคคลภายนอก โดยมีสถาบัน PLUS Eduplex ได้เข้าไปร่วมสร้างหลักสูตร รวมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิทยาลัยเทคโนโลยีสหวิทย์บริหารธุรกิจ จังหวัดสุพรรณบุรีวิทยาลัยการอาชีพนวมิน ทราชูทิศ วิทยาลัยการอาชีพมหาราช วิทยาลัยสารพัดช่างนครหลวง เป็นต้น เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนมีความรู้ความเชี่ยวชาญในสายงานอาชีพ พร้อมตั้งเป้าผลิตคนในสายงานอาชีพบริหารอาคารกว่า 1,000 คนต่อปี เข้าสู่ตลาดการทำงานธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนต์ ให้รองรับกับตลาดอสังหาฯ โดยมีการ Upskill พนักงานเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานโดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับเทรนด์โลก ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลมากขึ้น
- Technology Driven ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำมาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าและนำเสนอบริการให้ตรงใจที่สุดในทุกรูปแบบการอยู่อาศัย โดยในปีนี้พลัสฯ ได้พัฒนาเทคโนโลยีให้ครอบคลุมหลายระบบการทำงานมากขึ้น มีเพิ่ม Features ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองการใช้งานมากขึ้นใน LIVING PLUS APPLICATION ที่รองรับทุกความต้องการของลูกบ้านในเรื่องการอยู่อาศัยไว้ในที่เดียวการพัฒนา Feature ใหม่ตอบโจทย์ผู้ช่วยด้านการอยู่อาศัยอย่าง PLUS Living Concierge ที่รวบรวมสินค้าและบริการราคาพิเศษมาให้ ในการดูแลอาคารและระบบวิศวกรรมอาคารมีการพัฒนาระบบ HVAC AIoT โซลูชันอัจฉริยะ ป้องกันการสูญเสียพลังงานในอาคาร ช่วยลดค่าใช้จ่ายในอาคารสูงมากถึง 30% ซึ่งเป็นกระแสการตอบรับที่ดีต่อการอนุรักษ์พลังงานในการดูแลอาคาร Green Building ปัจจุบัน รวมถึงมีทีมวิเคราะห์ข้อมูล Data Analytics นำมาพัฒนาระบบ CRM ให้เข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าได้อย่างชัดเจนผ่าน Customer Journey เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ วางไว้
“ในวันนี้ พลัสฯ ประกาศชัดเจนเป็นบริษัทฯอันดับหนึ่งในใจของลูกค้า เพื่อส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด เรามุ่งมั่นเป็นเลิศในการสร้างมาตรฐานและยกระดับการบริการของเราให้เป็นไปตามสากล ด้วยความเชี่ยวชาญครอบคลุมทุกๆ ด้าน พลัสฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมและต่อยอดธุรกิจให้เติบโต มีการลงทุนระบบด้านเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้นซึ่งปีนี้มี โดยวางสัดส่วนรายได้อันดับ 1 มาจากด้านการบริหารจัดการโครงการที่อยู่อาศัยและอาคารเพื่อการพาณิชย์ถึง 80% ทั้งนี้พร้อมเดินหน้ามองหาลูกค้ารายใหม่ในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ๆ ในปีนี้” นายอนุกูล กล่าว
ปัจจุบัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ บริหารโครงการที่พักอาศัยและอาคารเพื่อการพาณิชย์ กว่า 350 โครงการ โดยคิดเป็นพื้นที่กว่า 18 ล้านตร.ม. ผู้ที่สนใจบริการสามารถดูข้อมูลได้ทาง www.plus.co.th หรือโทร. 02-688-7555