OSHA Thai Restaurant & Bar จุดบรรจบของอาหารไทยและศิลปะแบบโมเดิร์น

ต้องยอมรับกันตรงๆว่าเดี๋ยวนี้จะหาอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมทานแต่ละทีไม่ง่าย ยิ่งร้านอาหารหรูๆก็จะออกแนวฟิวชั่น ปรับรสชาติให้คุ้นลิ้นชาวต่างชาติกันเสียเยอะ แต่ไม่ใช่ที่นี่แน่นอน  OSHA Thai Restaurant & Bar อาหารไทยรสดั้งเดิมกับการตกแต่งในแบบ Modern Twist(โมเดิร์นทวิสต์) สุดหรูหรา แม้ว่ารูปแบบการนำเสนอ จะจัดหนักจัดเต็มอลังงานแค่ไหน แต่รสชาติที่ได้ ไทยแท้ต้นตำรับคุณย่าคุณยายกันทีเดียว

OSHA Thai Restaurant & Bar ที่เราจะมาเยือนกันวันนี้เป็นร้านอาหารไทยแท้ที่มีต้นกำเนิดจากซานฟานซิสโก้กว่า20ปี ก่อนจะกลับเมืองไทยบ้านเกิดพร้อมประสบการณ์และรสมือที่ยากหาใครเปรียบ ยึดทำเลปากซอยร่วมฤดีเป็นสถานที่กระจายความอร่อย

ก่อนจะเข้าเรื่องอาหาร บรรยากาศในร้านก็อลังการ หรูหรา ในโทนดำทอง ที่ใช้ทองคำเปลวในการตกแต่งทั้งร้าน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นไทยผสมผสานกับความหรูหราแบบตะวันตก ทางขึ้นชั้นสองถูกตกแต่งด้วยชฎาขนาดใหญ่ที่จำลองมาจากของจริงทุกรายละเอียดเป็นแลนด์มาร์กที่แขกที่มารับประทานอาหารต้องแวะมาแชะภาพกัน ผนังชั้นสองตกแต่งด้วยภาพพิมพ์รามเกียรติ ถมทองเด่นสง่า และระเบียงยื่นแบบโรงละครตะวันตก ยิ่งทำให้บรรยากาศดูหรูหรา เคร่งขรึม ในตัว

และถ้าแวะมาฝากท้องมื้อเย็นก็ยิ่งตื่นตาตื่นใจกับเทคโนโลยี 3D Mappingฉายเรื่องราวเรื่องรามเกียรติ์ ทั้งภายในและภายนอกอาคารเพลินๆตา

ชื่นชมอาหารตาเต็มอิ่มก็เข้าเรื่องอาหารที่ต้องบอกว่าทั้งรสชาติและหน้าตายิ่งกว่าความอลังการที่ถูกสร้างสรรค์จากสุดยอดเชฟ เชฟปู ปูริดา ธีระพงษ์ ที่คุ้นเคยกันดีกับภาพชัยชนะที่เหลือกว่าเชฟกะทะเหล็กประเทศไทยนั่นเอง จานแรกที่ยกเสริฟก็ตื่นตาตื่นใจกับการนำดอกไม้ไทยทั้งอัญชัญ กุหลาบ มาปรุงเมนู ดอกไม้กรอบซอสลูกหม่อน (Garden Talk Crispy &Berry Sauce) แผ่นแป้งบางกรอบทาด้วยไข่ไก่โรยหน้าดอกไม้นานาพรรณ อบกรอบ เสริฟพร้อมซอสลูกหม่อนที่มีให้เลือกแบบน้ำจิ้มและแบบเย็น ซอสเข้ทข้นรสชาติเปรี้ยวหวานของลูกหม่อนหอมกลิ่นหัวกะทิเข้มข้น เหมาะเป็นเมนูทานเล่นระหว่างรอจานหลัก

จานต่อมาก็ยกดอกไม้มาทั้งสวนอีกเช่นเคย ในเมนู ยำหอยเชลล์น้ำฟักข้าว (OSHA Ocean & Flora Salad) หอยเชลล์ฮอกไกโดสดหวานแล่บางๆม้วนเป็นดอกกุหลาบสวยๆคลุกเคล้าในน้ำยำฟักข้าวสกัดรสชาติจัดจ้านแบบยำไทยหอมกลิ่นเครื่องยำแต่ไม่ต้องเสียเวลามาเขี่ยเครื่องยำกันนะคะเพราะที่นี่เค้าใช้เทคนิคสกัดรสชาติจากวัตถุดิบแต่ละตัวออกมา เสริฟพร้อมดอกไม้นานาพรรณราดน้ำมันผักชี เป็นจานที่สีสันและรสชาติจัดจ้านจริงๆ

ทานเมนูเบากันมาสองจานก็เริ่มเมนูหนักๆกันบ้างกับเมนู แกงกระหรี่ไก่ (Classic yellow curry chicken) เนื้อไก่ฉ่ำนุ่มลิ้นในน้ำแกงกะหรี่เข้มทั้งรสชาติและกลิ่นเครื่องเทศเสริฟพร้อมโรตีกล้วยหอม ขอบอกว่าความเข้มข้นของแกงหรี่มันเข้ากะนได้ดีมากกับกล้วยหอมหวานๆ หรือจะทานคู่กับข้าวร้อนๆ ก็ต้องบอกว่าข้าวที่นี่ก็ไม่ธรรมดา เพราะใช้ข้าวกล้องคัดเกรดหุงในลูกมะพร้าวและใช้น้ำมะพร้าวแทนน้ำเปล่า หอมนุ่มอร่อย ไปอีกแบบ

และสำหรับใครที่เคยถูกกลิ่นเนื้อแกะทำร้าย ถ้าได้ลองเมนู ซี่โครงแกะสมุนไพร (Grilled lamb cutlet with herb crush) ของที่นี่รับรองว่าต้องเปลี่ยนใจ ถึงแม้ว่าเนื้อแกะจะเป็นเนื้อที่ปรุงยากเพราะกลิ่นที่ค่อนข้างแรง แต่เชฟปูทำออกมาได้ดีแบบคาดไม่ถึง เนื้อแกะส่วนซี่โครงย่างสุกกำลังดี ฉ่ำนุ่มไม่แห้งจนเกินไป เสริฟพร้อมน้ำจิมแจ่วแบบอีสานที่คุ้นปากคนไทย รสชาติจัดจ้านครบรส เผ็ด เปรี้ยว เค็ม เข้ากันได้ดีกับเนื้อแกะ แถมยังช่วยดับกลิ่นเนื้อแกะเหมาะสำหรับคนที่เริ่มรับประทานเนื้อแกะ แถมยังมีผักบ้านๆสดกรอบทานคู่กัน เป็นอีกหนึ่งจานที่ต้องยกนิ้วให้และเป็นจานที่ประทับใจมากที่สุดในวันนี้

เมนูต่อมาคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วกับ ต้มยำกุ้ง ที่บอกได้คำเดียวว่า วิธีการเสริฟอลังการเหมือนกลับไปนั่งเรียนในวิชาวิทยาศาสตร์สมัยมัธยมอย่างไงอย่างนั้นเครื่องต้มยำจัดมาในแก้วด้านบนของ หม้อกาแฟความดันส่วนด้านล่างน้ำต้มยำมันกุ้งรสชาติเข้มข้นแบบต้มยำกุ้งรสมือแม่ กลมกล่อม ยกทั้งหม้อมาจุดไฟให้เห็นบนโต๊ะ สตาฟเริ่มจุดไฟน้ำซุปต้มยำค่อยๆดันไปข้างบนให้ได้กลิ่นเครื่องต้มยำ ก่อนที่จะเสิร์ฟลงบนเนื้อกุ้งเนื้อหวานเด้ง เข้ากันกับน้ำต้มย้ำมันกุ้งสุดเข้มข้น

จบเมนูอาหารคาวแบบเต็มอิ่มในรสชาติและอาหารตากันแล้ว ขอปิดฉากมื้อนี้ด้วยผลไม้สดๆ ที่ต้องบอกว่าคำว่าธรรมดาไม่มีในร้านนี้ ยกหินศิลามาขึ้นโต๊ะ เทน้ำแข็งแห้งในควันพวยพุ่ง พร้อมผลไม้สดนานาชนิดเสริฟพร้อมไอศกรีมโฮดเมด2รสชาติที่ต้องว้าวกับไอศกรีมเสาวรสรสชติเปรี้ยวอมหวานกำลังดี และสตอร์เบอรรี่พริกเกลือ สัมผัสแรกที่แตะลิ้นรับรู้ถึงกลิ่นและรสชาติของพริกเกลือติดลิ้น เข้ากันได้ดีกว่าผลไม้ที่ยกมาทั้งสวน

ส่วนเครื่องดื่มวันนี้เป็น คอกเทลOSHA-CHADA น้ำเสารสสดทั้งลูก เปรี้ยวหวานตัดกับรสขมๆของแม่โขง พรีเมี่ยม ไทยรัม ที่มีจำหน่ายเฉพาะร้านพรีเมี่ยมและส่งออกต่างประเทศเท่านั้น แถมมีเทคเจอร์เป็นเม็ดเสาวรสพร้อมกลิ่นอ่อนๆของไซรัปวนิลา ดื่มเพลินๆลืมความขมของแม่โขงกันเลยทีเดียว เสริฟมาพร้อมชฎาเล็กๆน่ารัก ดูหรูหราแบบไทยไปอีก

ใครที่ชื่นชอบอาหารไทยแบบ B หรืออากพาเพื่อนชาวต่างชาติมาสัมผัสรสชาติแบบแท้ดั้งเดิม รับรองว่า OSHA Thai Restaurant & Bar ซอยร่วมฤดี เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้ารับรองไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน