การวางแผนทรัพยากรธุรกิจและการแข่งขันกับเวลาที่ไม่หยุดนิ่ง

ผลการศึกษา EY CEO Imperative Study 2019 ระบุว่า การปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ระบบดิจิทัลและนวัตกรรมนั้น ถือเป็นความสามารถใหม่ของผู้บริหารชั้นนำที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความเติบโตทางธุรกิจที่ต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าทุกการตัดสินใจล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น ผู้บริหารระดับสูงทุกคนนับตั้งแต่ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีไปจนถึงหัวหน้าแผนกทรัพยากรบุคคลและการเงิน ควรหันมาให้ความสนใจกับหัวใจขององค์กร นั่นก็คือกระบวนการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทนั่นเอง

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ขั้นตอนการทำงานที่จำเป็นนับตั้งแต่งานฝ่ายบุคคลไปจนถึงการรับสมัครบุคลากร ถูกจำกัดให้สามารถทำงานบนศูนย์ข้อมูลภายในองค์กรเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและความต้องการขององค์กรเพิ่มมากขึ้น การทำงานในลักษณะเดิม ๆ เช่นนี้จึงเริ่มเกิดปัญหา หากผู้บริหารมุ่งมั่นที่จะนำพาองค์กรก้าวสู่ระบบดิจิทัลอย่างแท้จริงพวกเขาจำเป็นต้องยกระดับฝ่ายสนับสนุนธุรกิจของบริษัท หรือ แบ็กออฟฟิศ (Back Office) ให้เปลี่ยนมาทำงานบนระบบคลาวด์

การเข้าสู่ระบบคลาวด์

ระบบการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร (Enterprise Resource Planning: ERP) ที่ติดตั้งภายในบริษัทนั้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและผลตอบแทนจากการลงทุนได้จริง แต่ว่า มันเพียงพอสำหรับปีที่กำลังจะมาถึงนี้หรือไม่? ในช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้ การดำเนินธุรกิจแนวใหม่จำเป็นต้องปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้บริษัทยังสามารถแข่งขันได้ในอุตสาหกรรม

หากการทำเช่นนั้นด้วยระบบที่ถูกตั้งค่าเพื่อตอบสนองความต้องการในอดีตก็นับเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก เพราะระบบการเก็บข้อมูลไว้ในที่เดียวนั้นทำงานช้าและต้องใช้ความพยายามสูงในการอัปเดต และยังไม่สามารถปรับขนาดให้ใหญ่หรือเล็กลงได้เมื่อจำเป็น

ในทางตรงกันข้าม การทำงานบนระบบคลาวด์มีข้อได้เปรียบคือ สามารถปรับขนาดได้และมีความยืดหยุ่นในการทำงานมากกว่า เนื่องจากได้รับการปลดล็อกข้อจำกัดด้านระบบที่ต้องใช้งานเฉพาะภายในบริษัท ขีดความสามารถในการทำงานจึงสามารถปรับให้เพิ่มมากขึ้นหรือน้อยลงได้เมื่อจำเป็น ส่วนการอัปเดตข้อมูลสามารถทำได้ทันทีโดยผู้ให้บริการแพลตฟอร์มและเปิดใช้งานได้ในครั้งเดียวซึ่งจะครอบคลุมทุกขั้นตอนการทำงาน

เมื่อรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ในที่เดียว จึงเป็นเรื่องง่ายกว่าในการประสานงานและพัฒนาการเติบโตสำหรับองค์กรธุรกิจ โดยฝ่ายแบ็กออฟฟิศที่ทำงานบนคลาวด์จะสามารถสร้างชุมทาง ซึ่งสายงานธุรกิจที่แตกต่างกันสามารถทำงานร่วมกันได้ และด้วยแหล่งรวมข้อมูลเชิงลึกเดียวกันจะทำให้งานฝ่ายบุคคลและฝ่ายการเงินสามารถยกระดับความเข้าใจในภาพรวมและบทบาทการทำงานที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจได้ เช่น การตั้งงบประมาณสำหรับพนักงานใหม่ การวิเคราะห์ผ่านการจำลองสถานการณ์ ผลกระทบจากการขยายทีมงาน เป็นต้น

บริษัทเงินติดล้อผู้นำด้านธุรกรรมการเงินรายย่อยในประเทศไทยซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างเป็นธรรมและโปร่งใสเพื่อการแก้ไขปัญหาทางการเงินของลูกค้า เมื่อธุรกิจของบริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ บริษัทเงินติดล้อซึ่งใช้โซลูชั่นด้านการเงินของออราเคิลแบบติดตั้งฐานข้อมูลในองค์กรมาเป็นเวลานาน จึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้โซลูชั่นการวางแผนทรัพยากรองค์กรบนระบบคลาวด์ของออราเคิล ซึ่งทำให้บริษัทมีฟีเจอร์การทำงานใหม่มากมายพร้อมความสามารถขั้นสูงในการบริหารจัดการข้อมูลที่สมบูรณ์แบบด้วยการทำงานบนแพลตฟอร์มเดียว จึงช่วยลดต้นทุนในภาพรวมได้อย่างชัดเจน

อิลลี (Illy) บริษัทกาแฟสัญชาติอิตาลี ได้ยกระดับความสามารถของระบบคลาวด์เพื่อสร้างระบบจัดการทรัพยากรบุคคลแบบรวมศูนย์สากลสำหรับพนักงานของบริษัท แพลตฟอร์มการทำงานของฝ่ายบุคคลบนระบบคลาวด์จะบริหารจัดการบนแหล่งข้อมูลเดียว ช่วยให้สามารถระบุตัวผู้มีความสามารถที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับสถานที่ปฏิบัติงานแห่งใหม่ ทั้งยังช่วยให้บริษัทสามารถนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และระบบการจ่ายค่าตอบแทนตามมาตรฐานให้แก่พนักงานในทุกภูมิภาคได้

เวลาไม่เคยรอใคร

องค์กรที่ใช้งานระบบคลาวด์จะใช้เวลาปรับตัวเพื่อการใช้งานที่สั้นกว่าและใช้ต้นทุนต่ำอย่างไรก็ตามทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงเมื่อพิจารณาจากกรณีของ ลิดล์ (Lidl) ซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี ซึ่งลงทุนอย่างหนักในการย้ายระบบการจัดการรายการสินค้ารูปแบบใหม่แต่กลับไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่คาดหวังไว้

บางครั้งยังอาจเกิดการกระทบกระทั่งบนเส้นทางด้วยการเปลี่ยนแปลงบทบาทของผู้บริหารระดับสูงบ่อยครั้งอาจทำให้ผู้ถือหุ้นหลักนำระบบนี้ไปใช้เพียงครึ่งเดียว และปล่อยให้โครงการค้างคาอยู่หลายเดือนหรือหลายปี ซึ่งยิ่งปล่อยให้โครงการค้างคาอยู่นานเท่าใด ก็ยิ่งเกิดโอกาสล้มเลิกได้มากขึ้นเท่านั้น

โซลูชั่นการย้ายข้อมูลอัตโนมัติสามารถช่วยให้ระบบหลักสามารถเข้าถึงคลาวด์ได้รวดเร็วขึ้นโดยลดความยุ่งยากลง เครื่องมือนี้สามารถทำงานแบบอัตโนมัติในขั้นตอนต่าง ๆ ในจุดที่ปัญหาจากการใช้แรงงานมนุษย์และการพึ่งพากำลังคนอาจทำให้โครงการโดยรวมเกิดความล่าช้าได้ ระบบยังช่วยลดโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดได้อย่างมากและช่วยให้องค์กรสามารถจัดตั้งระบบงานและใช้งานเพื่อสร้างมูลค่าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

เมื่อผสานความสามารถเข้ากับระบบการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ทำให้เครื่องมือย้ายข้อมูลยิ่งให้ประโยชน์มากขึ้น ด้วยความสามารถในการตรวจจับข้อมูลจากการใช้งานครั้งก่อน ๆ จึงทำให้ระบบสามารถเรียนรู้ ตอบสนอง และปรับรูปแบบเพื่อให้การทำงานราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แทนที่จะต้องพึ่งพาแต่ประสบการณ์ของทีมงานฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทเท่านั้น คุณก็จะสามารถได้รับประโยชน์มากมายจากบทเรียนของการทำงานนับพันรูปแบบได้

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใดที่จะไร้ซึ่งปัญหา หากแต่เมื่อดำเนินการสำเร็จแล้วก็จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่งการย้ายกระบวนการทางธุรกิจหลักไปไว้บนระบบคลาวด์ องค์กรอาจจะต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงอันยุ่งยากที่รออยู่จากการใช้งานเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด หากแต่นี่ก็นับเป็นแนวทางที่สำคัญยิ่งสำหรับผู้บริหารระดับสูงที่จะได้สร้างผลงานให้เป็นที่จดจำ พร้อมหลักประกันว่าธุรกิจของบริษัทมีความพร้อมสำหรับอนาคตที่จะมาถึง