MAZDA2 บทพิสูจน์แบรนด์รถยนต์ ที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นสูงสุด

ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคที่โหวตให้รถยนต์นั่งขนาดเล็กแบรนด์มาสด้า 2 (Mazda2) รับรางวัล Product Innovation Award 2024 จากความคุ้มค่าในสินค้า ดีไซน์ และเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ดีที่สุด เมื่อเทียบกับคู่แข่งในคลาสเดียวกัน

รถยนต์รุ่นมาสด้า 2 ถือว่าสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยการฉีกกฎเกณฑ์ และข้อจำกัดที่เคยมีมาสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก ด้วยความเพียบพร้อมทั้งสมรรถนะ ดีไซน์ และเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ดีที่สุด เมื่อเทียบกับคู่แข่งในคลาสเดียวกัน นั่นเพราะสามารถตอบโจทย์คนเมือง ทั้งคนรุ่นใหม่และคนทำงานเป็นอย่างมาก

มาสด้า 2 มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 1,500 ซีซี เทอร์โบแปรผัน 4 สูบ 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุดที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 250 นิวตัน-เมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 1,300 ซีซี แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุดที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 123 นิวตัน-เมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ กลยุทธ์และแนวคิดในการพัฒนา MAZDA2 ว่าเกิดจาก 4 มุมมองของแบรนด์มาสด้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ประกอบด้วย

1. ใส่ใจต่อสิ่งที่ลูกค้าต้องการ โดยออกแบบพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองการใช้งานและให้ความสำคัญกับอรรถประโยชน์ของผู้ขับขี่รวมถึงผู้โดยสารมากที่สุด ซึ่งจะเห็นได้จากการออกแบบฟังก์ชันและการจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในตำแหน่งที่ลงตัวเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ตามคอนเซปต์ HMI (Human-Machine Interface) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันกับรถ และตามหลักปรัชญา Jinba-Ittai เพื่อส่งมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

อีกทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล ด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) เชื่อมต่อกับระบบ Mazda Connect ที่รองรับระบบ Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android Auto™* เพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างไร้ขีดจำกัด

  1. คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง และช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างง่ายยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor) เป็นต้น
  2. พัฒนาโดยเน้นให้ความสำคัญกับการออกแบบที่สง่างาม ตามแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกภูมิใจที่ได้ครอบครองรถยนต์ที่เป็นมากกว่าแค่ยานพาหนะ และเป็นรถที่มีความโดดเด่น ต้องตาต้องใจผู้ที่พบเห็น และ 4. มีราคาที่จับต้องได้ และเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานจริง

คุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกกับเราว่า เมื่อ 4 องค์ประกอบข้างต้นรวมกับจุดเด่นของสินค้าและบริการของบริษัทฯ ที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด ทั้งสมรรถนะดีเยี่ยม ช่วงล่างหนึบ มั่นใจทุกโค้ง ด้วยระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ซึ่งทำให้รถมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ผู้ขับขี่เข้าโค้ง ในขณะที่เริ่มเข้าโค้ง ระบบจะลดแรงบิดเครื่องยนต์เล็กน้อย เพื่อให้ล้อหน้ายึดเกาะถนนได้มากขึ้น และเมื่อผู้ขับขี่คอนโทรลรถยนต์ขณะรถอยู่ในโค้ง แรงบิดของเครื่องยนต์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เพื่อรักษาสมดุลของตัวรถ หรือขณะรถออกจากโค้ง ระบบจะเพิ่มการทำงานของเบรกเพียงเล็กน้อย ในล้อหน้าด้านนอกโค้งเพื่อช่วยให้รถกลับสู่ทางตรงอย่างมีเสถียรภาพ

จากข้อเด่นทั้งหมดที่กล่าวมา คุณธีร์ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า ความสวยงามลงตัวของการออกแบบภายนอก ที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะโดดเด่นไม่ซ้ำใครในรถยนต์นั่งมาสด้า 2 ด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่ได้รับการถ่ายทอดจากแนวคิด KODO – Soul of Motion เน้นความเรียบง่ายแต่หรูหรา ทั้งดีไซน์ภายนอกไปจนถึงภายในห้องโดยสาร โดยให้ความสำคัญกับเส้นสายและแสงเงาที่ตกกระทบบนตัวรถ

นั่นทำให้รถยนต์นั่งมาสด้า 2 โดดเด่นสะดุดทุกสายตาแก่ผู้พบเห็น และกลายเป็นสปอร์ตซิตี้คาร์ที่โดดเด่นในแบบฉบับรถยนต์นั่งยุคใหม่ และเมื่อรวมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ได้แก่ เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง และช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างง่ายยิ่งขึ้น อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor) เป็นต้น

นอกจากนี้ ในทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อก 4W-ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ DSC รวมถึงระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA ระบบสัญญาณไฟกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกในภาวะฉุกเฉินและส่งสัญญาณเตือนรถคันหลัง ESS ระบบช่วยป้องกันรถลื่นไถล TCS โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual Airbag เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า รวมถึงอุปกรณ์มาตรฐานครบครันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น

ทั้งนี้ คุณธีร์ ย้ำว่า การได้รับรางวัล PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024 กลุ่มยานยนต์ ประเภทรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์มาสด้า ซึ่งเขาก็บอกทิ้งท้ายกับเราว่า มาสด้าวางแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ให้มีความโฉบเฉี่ยวโดนใจวัยรุ่นยิ่งขึ้น รวมถึงพัฒนาให้รถรุ่นนี้มีความเพียบพร้อมกว่าเดิมและตรงต่อรูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ที่มา : สัมภาษณ์พิเศษ
ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS