The Business Plus บิสิเนสพลัส
มาสด้า CX-5 ยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวีขนาดกลาง ในกลุ่มมาสด้า CX-Series ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากลูกค้า
มียอดขายสะสมมากกว่า 8 ล้านคัน
อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้มาสด้า CX-5 ประสบความสำเร็จมากมายเช่นนี้ ก็ต้องบอกว่า มาสด้า มองเห็นโอกาสในอนาคต
และกล้าที่จะสร้างความแตกต่าง กล้าที่จะฉีกออกจากกฎเกณฑ์แบบเดิม ๆ ที่สำคัญ คือ ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกให้หันมานิยมรถอเนกประสงค์มากขึ้น
วันนี้สิ่งที่มาสด้าเล็งเห็นและลงมือบุกเบิกนั้น ได้ส่งผลลัพธ์ต่อผู้บริโภคให้หันมานิยมรถอเนกประสงค์เอสยูวีมากขึ้นจนถึงปัจจุบันอย่างชัดเจน
รถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า CX-5 เจเนอเรชันแรก เผยโฉมสู่สาธารณชนครั้งแรกของโลก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 ณ ประเทศญี่ปุ่น และทั่วโลกต่างตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใด ‘มาสด้า’ จึงเริ่มต้นการพัฒนาเทคโนโลยีและดีไซน์ใหม่ทั้งหมดลงไปยังรถอเนกประสงค์ ซึ่งขณะนั้นเป็นเซกเมนต์เล็กๆ
ก็ต้องบอกว่า มาสด้า มองเห็นโอกาสในอนาคต และกล้าที่จะสร้างความแตกต่าง กล้าที่จะฉีกออกจากกฎเกณฑ์แบบเดิม ๆ ที่สำคัญคือต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกให้หันมานิยมรถอเนกประสงค์มากขึ้น
วันนี้สิ่งที่มาสด้าเล็งเห็นและลงมือบุกเบิกนั้น ได้ส่งผลลัพธ์ต่อผู้บริโภคให้หันมานิยมรถอเนกประสงค์เอสยูวีมากขึ้นจนถึงปัจจุบันอย่างชัดเจน
Key Success Factor อยู่ในจุดไหน คุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า “เนื่องจากมาสด้า CX-5 เป็นรถรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2555 ด้วยการเป็นรถรุ่นแรกที่เป็นต้นกำเนิดของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และการออกแบบตามแนวคิดโคโดะ ดีไซน์ อันมีเอกลักษณ์
เราจึงยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ล่าสุด และระบบเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดเพื่อให้รถรุ่นนี้ทันสมัย คุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น และตรงต่อความต้องการลูกค้ามากยิ่งขึ้น”
รถมาสด้า CX-5 ใหม่
มีอะไรเพิ่มเติมจากรุ่นเดิมบ้าง และราคาเป็นอย่างไร
เริ่มจากมิติแรก เพิ่มความคุ้มค่าคุ้มราคา ด้วยเทคโนโลยีที่ครบครันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 1.3 ล้านบาท มิติต่อมา มาสด้าเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพียงเจ้าเดียวในตลาดที่มีให้เลือกถึง 3 เครื่องยนต์ ใน 4 รุ่นย่อย ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 และเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 เทอร์โบ และแต่ละรุ่นก็มีเอกลักษณ์ในการขับขี่ที่แตกต่างกัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า อีกทั้งมาสด้าวางแนวทางการตลาดสำหรับ NEW MAZDA CX-5 ประกอบด้วย
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ยังเป็นกลุ่มลูกค้าครอบครัว ผู้ที่ชื่นชอบความอเนกประสงค์ของรถเอสยูวี ความคุ้มค่า คุ้มราคา และมีเทคโนโลยีทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่ครบครัน รวมถึงต้องสื่อสารเรื่องการออกแบบอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตามแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ Soul of Motion, สื่อสารด้านสมรรถนะความแรงของเครื่องยนต์ที่มีให้เลือกถึง 3 เครื่องยนต์ ประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 แรง 165 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตัน-เมตร, เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.5T แรง 231 แรงม้า แรงบิด420 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D 2.2
แรง 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ที่สำคัญ มาสด้าจะสื่อสารเรื่องความครบครันของเทคโนโลยีที่มีพร้อมตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
ทั้งหมดที่ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกมา จะเห็นว่า CX-5 ใหม่ เพิ่มความคุ้มค่าคุ้มราคา ด้วยเทคโนโลยีที่ครบครันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.3 ล้านบาท และมาสด้ายังวาง Option เครื่องยนต์ 3 แบบ
ใน 4 รุ่นย่อย ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 และเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 เทอร์โบ
สิ่งที่มาสด้าโฟกัสและพุ่งเป้าไปยังกลุ่มเป้าหมาย ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและครอบครัว ขณะที่สินค้าอย่างมาสด้า CX-5 ใหม่ มีชื่อเสียงเรื่องของเทคโนโลยีและประสบการณ์การขับขี่ที่ดี ก็ยิ่งทำให้ CX-5 ใหม่ เป็นที่กล่าวขานของผู้บริโภคชาวไทยมากยิ่งขึ้น
จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม CX-5 ใหม่ จึงประสบความสำเร็จอย่างสูงในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์อเนกประสงค์ ครอสโอเวอร์เอสยูวี และ NEW MAZDA CX-5 โดยบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทสินค้าและบริการกลุ่มยานยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 ไปครอง
