Macan พยัคฆ์ร้ายจากปอร์เช่

การขยายรุ่นรถเพิ่มเติมในตลาดรถนั่งอเนกประสงค์ที่มีขนาดเล็กลง เป็นแนวทางที่ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกกำลังเดิน เช่นเดียวกับปอร์เช่ที่วางเดิมพันใหม่อย่าง “มาคันน์” ลงสนามสู้

มาคันน์ (Macan) ชื่อของรุ่นรถที่ได้มาจากภาษาของอินโดนีเซียที่แปลว่า “เสือ” แสดงให้เห็นถึงความดุดันตั้งแต่แรกเห็น ขณะที่คุณลักษณะการขับเคลื่อน ทั้งการตอบสนอง ประสิทธิภาพที่ทรงพลัง จากพิษสงรอบตัวไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์สมรรถนะรอบตัว การเกาะถนน

ความแม่นยำของพวงมาลัยรวมถึงความสะดวกสบายในการขับขี่ รวมไปถึงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ถูกหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวในรถยนต์คันนี้

รูปลักษณ์ของมาคันน์ (Macan) สะท้อนให้เห็นถึงสายพันธุ์ความสปอร์ตที่เต็มพิกัด โดยรถครอสโอเวอร์รุ่นนี้ มีดีไซน์คล้ายกับปอร์เช่ คาเยนน์

(Porsche Cayenne) ครอสโอเวอร์รุ่นใหญ่ร่วมค่าย โดยมีเส้นสายโค้งมนรอบคัน แต่มีขนาดไฟหน้าใหญ่กว่า และไฟท้ายที่แตกต่างกันเล็กน้อย และแน่นอนว่าจะมีขนาดรถเล็กกว่า เพื่อทำให้มาคันน์ (Macan) มีความโดดเด่นมากขึ้น ทีมดีไซน์ของปอร์เช่ ออกแบบตัวรถให้มีความลาดแบนและสมดุลกับพื้นผิวถนน ฝากระโปรงหน้ามีความดุดัน และผสมผสานเข้ากับเส้นสายลายหลังคาที่ทอดยาวมาบรรจบกันได้อย่างลงตัว

Macan S (2)

แสดงให้เห็นถึงความสปอร์ตที่ทรงพลังและมีความคล่องตัวสูง ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนต่างๆ ของรถ รูปลักษณ์ และการใช้ยางแบบผสม (Mixed tyres) ในล้อที่ใหญ่อีกด้วย

ขณะที่เครื่องยนต์มาคันน์ ติดตั้งระบบขับเคลื่อน และระบบเกียร์อัตโนมติ 7 สปีด Porsche Doppelkupplung (PDK) ที่มากับ 3 ทางเลือก นั่นคือ มาคันน์ เอส (เบนซิน) ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร V6 Biturbo ให้พละกำลังแรงม้าถึง 340 แรงม้า (250 กิโลวัตต์) ให้อัตราเร่งของรถจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียงแค่ 5.4 วินาที

มาคันน์ เอส ดีเซล คือรุ่นประหยัดและวิ่งได้ในระยะไกล มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 3 ลิตร V6 เทอร์โบดีเซล อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามรูปแบบ NEDC ต่ำอยู่เพียง 6.3 และ 6.1 ลิตร / 100 กิโลเมตร

อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ทำได้ในเวลาเพียงแค่ 6.3 วินาที ให้ความเร็วสูงสุดถึง 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง เลยทีเดียว

อีกรุ่นหนึ่งคือ มาคันน์ เทอร์โบ ซึ่งเป็นรุ่นทอป มีเครื่องยนต์มีขนาด 3.6 ลิตร V6 biturbo ให้พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 400 แรงม้า (294 กิโลวัตต์) อัตราเร่งเครื่องยนต์จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในเวลาเพียงแค่ 4.8 วินาที

MA14T02ID0004

ในขณะที่อุปกรณ์และระบบต่างๆ ที่หลากหลายได้รับการติดตั้งให้กับมาคันน์ เพื่อเป็นระบบมาตรฐานให้กับรถ รวมถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK, ระบบพวงมาลัยสปอร์ตแบบเอนกประสงค์และมาพร้อมกับก้านเกียร์ (multi-function sport steering wheel with shift paddles)

ล้อที่ใหญ่ ระบบเครื่องเสียงที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และระบบเปิดปิดท้ายรถด้วยไฟฟ้า ส่วนระบบอื่นๆ ที่โดดเด่นและสามารถเลือกติดตั้งเป็นระบบเสริมได้มีหลากหลายเช่นกัน อาทิ ระบบช่วงล่างแบบถุงลม ซึ่งมาคันน์ (Macan) เป็นรถรุ่นแรกในตลาดนี้

เมื่อมองถึงการออกแบบรถยนต์คันนี้ ปอร์เช่ขอเน้นเรื่องการใช้งานเป็นสำคัญ รวมถึงการสร้างความแตกต่าง เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ จุดสังเกตเมื่อแรกเห็นอย่างระบบไฟ จากไฟหน้า ไฟตัดหมอก รวมถึงไฟท้าย ล้วนถูกการออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยมตามแบบฉบับครอสโอเวอร์สปอร์ต ซึ่งนั่นทำให้มาคันน์ ดูโดดเด่นทั้งยามกลางวันและกลางคืน

อีกจุดหนึ่งที่น่าชื่นชม คือ ห้องโดยสาร ที่ทีมงานปอร์เช่นำแนวคิดการออกแบบมาจากรถสปอร์ตของปอร์เช่รุ่นอื่นๆ เพื่อให้รูปลักษณ์ออกมาดูดี ซึ่งเมื่อบวกกับความหรูหราตั้งแต่ส่วนใต้เบาะหน้าทางด้านล่างไปจนถึงคอนโซลกลางที่ลาดยาว

อุปกรณ์แสดงผล รวมถึงคอนเซ็ปต์การทำงานของรถ ต่างแสดงให้เห็นถึงสัมผัสของความคุ้นเคย ที่มาพร้อมกับคุณลักษณะที่โดดเด่นใหม่ๆ เช่นพวงมาลัยสปอร์ตแบบอเนกประสงค์ใหม่ล่าสุด เป็นต้น

วงหน้าปัด 3 วงมาพร้อมกับ Tachometer ที่ติดตั้งอยู่ในแผงหน้าปัด และด้านขวาจะเป็นการแสดงผลแบบความละเอียดสูง หน้าจอแสดงผลมีขนาด 4.8 นิ้วแสดงผลในรูแบบสี ส่วนตำแหน่งเสียบกุญแจเพื่อสตาร์ทของรถจะอยู่ทางด้านซ้ายของพวงมาลัย อย่างเช่น ปอร์เช่รุ่นอื่นๆ ที่สำคัญปุ่มต่างๆ ะรวมอยู่ในกลุ่มที่ติดตั้งอยู่บนคอนโซลกลาง เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกใช้งาน

นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครที่มองหาความแตกต่างที่มาพร้อมกับความหรูหราในรถตะกูลครอสโอเวอร์ ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ (… สนใจลองสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ AAS Auto Service Co., Ltd)

วิทยา กิจชาญไพบูลย์