The Business Plus บิสิเนสพลัส
หากจะพูดถึงหนึ่งในเครื่องใช้สำนักงานที่มีความจำเป็นต่องานหลาย ๆ อย่าง และมีให้เลือกอย่างหลากหลายตามชนิดของเนื้องาน คงหนีไม่พ้น ‘เทปกาว’ ที่มักจะมีบทบาทกับสิ่งของต่าง ๆ รอบตัวของเราอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกล่องพัสดุ การเขียนรายงาน การซ่อมแซมสิ่งของ ก็ล้วนแล้วแต่มีเทปกาวเป็นส่วนหนึ่งด้วยอยู่เสมอไม่มากก็น้อย
แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าผู้ผลิต ‘เทปกาว’ รายแรกของไทยเป็นใคร และมีบทบาทสำคัญต่อวงการเทปกาวมากแค่ไหน วันนี้ Business+ จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ ‘LOUIS TAPE’ ผู้ผลิตเทปกาวสัญชาติไทยกับอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในระดับโลก
‘LOUIS TAPE’ คือใคร?
คือแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ‘เทปกาว’ สัญชาติไทยของบริษัท หลุยส์ผลิตภัณฑ์กาวเทป จำกัด ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2516 โดยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเทปกาวรายแรกของประเทศไทย และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI: The Board of Investment of Thailand) อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตเทปกระดาษย่นและเทป OPP กาวยางที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังเป็นผู้ผลิตเทปใส (Cellulose Tape) ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
โดยข้อมูลจากเว็บไซต์บริษัทฯ ระบุว่า บริษัทมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการผลิตกาวยางธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ทางบริษัทฯ เลือกใช้วัตถุดิบหลักคือยางธรรมชาติของไทยซึ่งเป็นยางที่มีคุณภาพ เพื่อรักษาคุณภาพกาวให้มีความสม่ำเสมอ เหนียว ติดแน่น ทั้งยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรไทยด้วย
อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยจากประเทศเยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ในการผลิตเทปกาวคุณภาพสูง เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 30 ประเทศทั่วโลก เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา เยอรมัน ญี่ปุ่น อินเดีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น ภายใต้เครื่องหมายการค้าคุณภาพ ยี่ห้อ LOUIS TAPE, INTER TAPE, KOLA TAPE, POLYSEAL, SWALLOW และ CENTER TAPE ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วไปจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ติดตั้งระบบ Solvent Recovery เพื่อนำไอสารละลายจากกระบวนการผลิตกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษทางอากาศแล้ว ยังสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย ในด้านการผลิตมีการควบคุมที่มีมาตรฐานในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต และมีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนจำหน่ายให้ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
ผลิตภัณฑ์ของ ‘LOUIS TAPE’
หากจะพูดถึง ‘เทปกาว’ ภาพแรก ๆ ในหัวของหลายคนคงเป็นภาพของเทปกาวแบบใส หรือแบบที่ไว้ใช้ปิดผนึกกล่องพัสดุ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เทปกาวยังมีรูปแบบอีกมากมาย ซึ่งแบ่งไปตามลักษณะของการใช้งาน โดยเทปกาวของ ‘LOUIS TAPE’ มีทั้งเทปกาวที่เหมาะสำหรับงานบรรจุภัณฑ์ งานอุตสาหกรรม งานออฟฟิตสำนักงาน งานฮาร์ทแวร์และงานเฉพาะทางต่าง ๆ แบ่งเป็น
1. เทป OPP (Oriented Polypropylene Tape) หรือเทปปิดกล่อง เป็นเทปม้วนใหญ่ ที่เหมาะสำหรับงานปิดผนึก ปิดกล่องบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ นิยมใช้ในโรงงาน หรืองานปิดกล่องไปรษณีย์ต่าง ๆ มีกาวหลายชนิดให้เลือก ทั้งกาวยางธรรมชาติ กาวยางสังเคราะห์ และกาวน้ำสังเคราะห์ ที่ให้ความเหนียวแน่นและยืดหยุ่น แข็งแรงทนทาน ทนต่อความชื้น และไม่สามารถใช้มือฉีกขาดได้
2. เทปพิมพ์ (Printed Tape) เป็นเทปกาวชนิดต่าง ๆ ที่สามารถพิมพ์ลาย หรือโลโก้ตามต้องการบนเนื้อเทปได้ ทำให้ลายที่พิมพ์มีความคงทน ไม่ลอก โดยลายยอดนิยม ได้แก่ พิมพ์ลาย ขอบคุณ, ห้ามทับ ห้ามโยน, ลายจ่าหน้าซอง, ระวังแตก, ปฎิเสธการรับหากฉีกขาด, ซื้อ 1 แถม 1, โปรดเว้นระยะห่าง, แถมฟรี, Fragile โดยลายจะสามารถเพิ่มความโดดเด่น หรือสื่อสารไปยังผู้รับได้
3. เทปกระดาษกาวย่น (Masking Tape) สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ทั้งงานเอกสาร ติดสันรายงาน หนังสือ ติดกล่อง งานทาสี พ่นสีรถยนต์ อุตสาหกรรมยานยนต์ เทปย่นสามารถติดได้ทั้งในพื้นพิวที่เรียบและขรุขระ ใช้งานสะดวก ฉีกได้ด้วยมือ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานแบบติดแบบชั่วคราว สามารถลอกออกได้โดยไม่ทิ้งคราบและความเหนียว
4. เทปกระดาษกาวในตัว (Kraft Tape) ทำจากกระดาษคราฟท์เคลือบซิลิโคนพิเศษ เนื้อแน่น เหนียว และแข็งแรง ที่มีคุณสมบัติพิเศษทนความชื้นได้ดี ติดแน่นทนนาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานในอุตสาหกรรมห้องเย็นและงานปิดกล่องที่ต้องโดนความชื้น
5. เทปพิเศษ (Special Tape) คือ เทปกาวชนิดอื่นที่ทำจากวัสดุแตกต่างกัน เช่น ฟิล์ม PE (เทปกั้นเขต), ฟิล์ม PET (เทปวอยด์ปิดกล่อง, เทปหูหิ้วอเนกประสงค์ และเทป Holding) หรือสติกเกอร์ (สติกเกอร์ A4) เป็นต้น
ทั้งนี้ แม้ว่าชื่อของ ‘LOUIS TAPE’ จะไม่ใช่ชื่อที่จำได้ขึ้นใจ แต่ในด้านของผลประกอบการ บริษัท หลุยส์ผลิตภัณฑ์กาวเทป จำกัด กลับทำรายได้และกำไรได้ไม่น้อย
โดยผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาของ บริษัท หลุยส์ผลิตภัณฑ์กาวเทป จำกัด พบว่า
ปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 945,664,079.87 บาท ลดลง 1.03% จากปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 955,554,331.01 บาท และมีกำไรสุทธิ 147,691,731.85 บาท เพิ่มขึ้น 27.22% จากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 116,084,314.61 บาท
ปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,112,226,294.96 บาท เพิ่มขึ้น 17.61% จากปี 2563 และมีกำไรสุทธิ 188,565,948.18 บาท เพิ่มขึ้น 27.67% จากปี 2563
ปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,289,784,143.96 บาท เพิ่มขึ้น 15.96% จากปี 2564 และมีกำไรสุทธิ 177,817,220.04 บาท ลดลง 5.70% จากปี 2564
จากข้อมูลผลประกอบการดังกล่าว จะเห็นได้ว่าแม้ชื่อของ บริษัท หลุยส์ผลิตภัณฑ์กาวเทป จำกัด จะไม่ได้เป็นชื่อที่ติดหูสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่ด้วยประสบการณ์การทำงานอย่างยาวนานและคุณภาพของสินค้า ทำให้เกิดการซื้อขายอย่างต่อเนื่องยาวนาน ทำให้กิจการสามารถดำเนินมาได้อย่างยาวนานหลายสิบปี และมีผลประกอบการในระดับสูง ด้วยสิ่งนี้ ทำให้เห็นว่า การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และมีตัวเลือกที่หลากหลาย เหมาะกับความต้องการของลูกค้า เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ แม้ไม่ได้เป็นเป็นชื่อแรก ๆ ที่ถูกนึกถึงก็ตาม
ที่มา : louistapes, datawarehouse
เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/
#Businessplus #TheBusinessplus #นิตยสารBusinessplus #LOUISTAPE #เทปใส #เทปกาว #หลุยส์ผลิตภัณฑ์กาวเทป
