LG ที่หนึ่งกลุ่มเครื่องซักผ้าฝาหน้า

‘ยากกว่าการเป็นแชมป์ คือ การรักษาแชมป์’ หนึ่งในประโยคที่หลายคนคงได้ยินคุ้นหูกันดี แต่การเป็นแชมป์ครองตลาดที่สามารถมัดใจผู้บริโภคได้ตลอด 20 ปี บนเส้นทางเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง ‘เครื่องซักผ้าฝาหน้า’ สำหรับ LG แล้ว อาจไม่ใช่เรื่องยากเกินไป และแบรนด์นี้ ก็ทำได้สำเร็จ

 

ว่ากันตามตรง ในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ที่สภาพเศรษฐกิจย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง และตลาดชะลอตัวตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ภาพรวมของตลาดเครื่องซักผ้า อาจไม่ได้เติบโตสวยงามอย่างที่ควร แต่ LG กลับยังทำ Performance ได้ยอดเยี่ยม สวนกระแสตลาดที่หดตัวลง

 

คุณอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกกับทาง Business+ ว่า “ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เครื่องซักผ้าฝาหน้าของ LG สามารถครองสัดส่วนของตลาดมากเป็นอันดับหนึ่งมาอย่างยาวนาน ซึ่งในปีนี้อย่างที่เราทราบกันดีว่า ช่วงปีนี้ธุรกิจของไทย ต้องเจอกับวิกฤตจากโรคระบาดที่หนักหน่วงอีกครั้ง ทำให้ตลาดเกิดการชะลอตัวไปบ้าง”

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังจากนี้ LG ยังมีโอกาสที่น่าจับตามอง เพราะโดยปกติแล้วในช่วงปลายปีถึงต้นปี จะเป็นอีกช่วงนาทีทองที่เหล่าเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าฝาหน้ามีกำลังสูงจากผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันภาพรวมตลาดเครื่องซักผ้าฝาหน้า มีการเติบโตเพียง 5% สวนทางกับ LG ที่มีการขยายตัวได้มากถึง 10% กินสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ เป็นอันดับหนึ่งกว่า 31% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 29%

 

ทั้งนี้ จุดเด่นที่ LG ภูมิใจนำเสนอมากที่สุดอาจไม่ใช่ตัวเลขที่สูงลิ่วอย่างเดียวเท่านั้น เพราะอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ คือความไว้ใจจากลูกค้าที่มอบให้กับ LG มาโดยตลอด

 

“สิ่งที่ LG ได้เห็นมาตลอด คือ การได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ลูกค้าส่วนใหญ่มักกลับมาซื้อซ้ำ หรือได้รับคำแนะนำสินค้าแบบปากต่อปากต่อกันมาเสมอ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าเรื่องของนวัตกรรมที่ล้ำสมัยและดีไซน์ที่สวยงามนี้ คือหัวใจสำคัญที่มัดใจ
ผู้บริโภค”

 

โดยเครื่องซักผ้าฝาหน้าของ LG มาพร้อมระบบ AI DD™ เทคโนโลยีที่จะสามารถเลือกรูปแบบการหมุนของถังซักให้เหมาะสมกับการซักผ้า เพื่อการถนอมผ้าที่เพิ่มขึ้น 18% ทำงานเงียบ เต็มประสิทธิภาพ และมีเทคโนโลยี LG Steam+™ ที่สามารถขจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ 99.9% ไม่ว่าจะเป็น ไรฝุ่น ฝุ่นขนาดเล็กในใยผ้า ที่อาจก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้หรือปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ที่สำคัญยังช่วยลดรอยยับบนเสื้อผ้าได้ถึง 30% ถือเป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันได้อย่างแท้จริง

 

และเป้าหมายต่อไปในปี 2565 ทาง LG ก็ได้เตรียมแผนการลุยตลาดกันต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เรายังคงตั้งใจที่จะครองอันดับหนึ่งในตลาดเครื่องซักผ้าฝาหน้าต่อไป พร้อมทั้งตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ให้ถึง 35% และโฟกัสในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ‘เครื่องอบผ้า’ มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยกังวลในเรื่องความสะอาด และใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น เครื่องอบผ้าจึงเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น”

 

พร้อมกันนี้ คุณอำนาจ ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “สำหรับเคล็ดลับสำคัญของ LG ที่สามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างยาวนาน คือ การให้ความสำคัญกับ ‘คุณภาพและนวัตกรรม’ เราจะไม่ลงแข่งในเรื่องราคาเพื่อดึงลูกค้า และให้สินค้าที่คุณภาพต่ำกว่า แต่เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด ในราคาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อความคุ้มค่าของผู้บริโภค และความไว้ใจที่ผู้บริโภคมอบให้”