The Business Plus บิสิเนสพลัส
ช่วงเดือนที่ผ่านมา ชื่อของการบินไทย (THAI) เป็น Talk of the Town ของสังคมมากข่าวหนึ่ง
แน่นอน นี่คือข่าวร้ายสำหรับคนในองค์กรอย่างการบินไทย ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อกรณีเข้าสู่กระบวนการยื่นล้มละลาย แต่บางทีการขอ Check up ตัวเอง เพื่อแก้ไขปัญหาใต้พรมที่ซ่อนมานาน
ในวันที่กลับมา การบินไทยอาจจะบินสูงกว่าเดิมก็ได้ ใครจะไปรู้ ?
และก็น่าคิดว่า จริงๆ แล้ว คนที่เข้ามาแก้ไขปัญหาใหญ่ขนาดนี้ ดีดี การบินไทย หรือทีมทำงานชุดใหม่ที่รัฐบาลส่งเข้ามาผ่าตัด คงไม่สามารถนำทีมบริหารแบบ one man show ได้
คำถามนี้ เราเชิญ ‘อริญญา เถลิงศรี’ กรรมการผู้จัดการ SEAC (Southeast Asia Center) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน มาบอกเล่าถึงแนวทางแก้ไขปัญหาการบินไทย จากประสบการณ์ของเธอที่มีกว่า 27 ปี
“Learn it All (การเรียนรู้ตลอดเวลาด้วยวิธีใหม่ๆ ) คือสิ่งที่จะทำให้องค์กรใหญ่อย่างการบินไทย (THAI) หลุดพ้นจากวิกฤตนี้ได้ ต้องคิดออกจากกรอบเดิม และ Research บนหิ้งจากทีมที่ปรึกษาที่ถูกจ้างมา จะไม่ช่วยการบินไทยให้รอดพ้น แต่ทุกคนในการบินไทยจะพาองค์กร รอดพ้นจากวิกฤตนี้”
อริญญา ยกคำกล่าวของ Satya Nadella ซีอีโอของไมโครซอฟท์ ที่ยกคำกล่าวว่า Learn it All คือวิธีปฎิวัติการทำงานใหม่ ในวันที่เขารับตำแหน่งผู้นำสูงสุด และพาไมโครซอฟท์กลับมายิ่งใหญ่ คำ ๆ นี้ กินความหมายว่า ต้องเรียนรู้ตลอดเวลาด้วยวิธีใหม่ๆ ตั้งแต่ดีดี การบินไทย หรือคนที่รัฐบาลส่งเข้ามาผ่าตัด รวมถึงพนักงานทุกคนด้วย
เพราะอะไรน่ะหรือ? เพราะสถานการณ์ตอนนี้ การบินไทย อยู่ในจุดเลวร้ายที่สุดแล้ว ซึ่งอาจใช้เวลาหลายปีสำหรับการกลับมาอีกครั้ง แต่ระหว่างนี้ การบินไทย จำเป็นต้องกลับมาทบทวนตัวเองใหม่ เพื่อวันข้างหน้า
คำถามคือ กราฟเส้นชีวิตของการบินไทยต้องกำหนดอย่างไร ?
อริญญา บอกว่า วิธีพาการบินไทยให้บินสูงอีกครั้ง ประกอบด้วย
1. ต้องใส่วิธีการมองภาพใหม่ของการบินไทย
จำเป็นต้องอยู่ได้ด้วยผลประโยชน์ขององค์กรเป็นหลัก มากกว่าเป็นเครื่องมือตอบแทนการเมือง โดยคณะทำงานต้องใส่ Entrepreneurial Mindset คือ ต้องมีแนวความคิดของผู้ประกอบการ
หมายถึงการเป็นผู้ที่มีความชอบในการแก้ไขปัญหาต่างๆ และมีความกล้าในการคิดค้นและสร้างสรรค์ (นวัตกรรม) ซึ่งนวัตกรรมนั้นมีความสามารถในการสร้างรายได้และต่อยอดเป็นธุรกิจได้
เนื่องจากคนในการบินไทยอยู่กันมานาน อาจติดกับดัก Fix Mindset ซึ่งไม่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ หรือกล่าวง่ายๆ คือ ติดกับความสำเร็จในอดีต ซึ่งต่างจาก Learn it All คุณลักษณะเด่นคือ เรียนรู้ตลอดเวลาด้วยวิธีใหม่ๆ ซึ่งตรงกับคำว่า Growth Mindset คือชอบมองความท้าทาย เป็นเรื่องที่น่าลอง น่าตื่นเต้น หาวิธีชนะปัญหาด้วยวิธีใหม่ๆ
2.ผู้บริหารต้อง Reframe Your Business
ภายใต้กรอบความคิดใหม่ ไม่ใช่แค่การปรับปรุงจากของเดิม หรือการเอาของเก่ามาทำใหม่ องค์กรแบบ THAI ต้องเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนแบบ Performance Driven ต้องกำหนดรูปแบบการทำธุรกิจ (Business Model) ใหม่
กลุ่มเป้าหมายใหม่ ต้องสร้างวัฒนธรรมใหม่ จากการกำหนดจุดมุ่งหมาย (Purpose) ใหม่ ให้พนักงานทราบอย่างทั่วถึง และไม่ใช่แค่การตัดงบลดประมาณ ซึ่งหากดำเนินการในจุดนั้นก่อนเป็นอันดับแรก สถานการณ์ก็จะไม่แตกต่างจากเดิม
และ 3. THAI ต้องมีกลยุทธ์สั้น กลาง และยาว รวมถึงต้อง Rethink วิธีการหาเงินแบบใหม่
แล้วต้องทำอย่างไร ?
อริญญา บอกว่า ให้ดูอย่างสายการบินเอมิเรสต์ หรือคาเธ่ย์ เป็นตัวอย่าง เพราะทั้งคู่นำแผน “empathize” กลุ่มเป้าหมายว่า เขาจะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างไร
THAI ก็เช่นกัน ทั้ง Front และ Back Office ต้องนำความภาคภูมิใจกลับมา ต้องทำความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบไหนในอนาคต ดังเช่นคำขวัญที่ว่า รักคุณเท่าฟ้า
หากทำได้ทั้งหมดที่บอกมา ก็เชื่อว่า การบินไทยจะกลับมาบินสูงอีกครั้ง
