‘คินน์’ กางโรดแมปออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เจาะ CLMV พร้อมแต่งตัวเข้าเทรด ‘LiVEx’ ปี 67

ประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super Aged Society) ส่งผลให้มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมเสริมอาหารในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มีมูลค่าราว 87,000 ล้านบาท โดย ‘แบรนด์คินน์’ ถือเป็นหนึ่งโภชนเภสัชเสริมอาหารคุณภาพที่มาจากธรรมชาติ 100% และมีจุดแข็งมากกว่าแบรนด์อาหารเสริมทั่วไปคือ เป็นแบรนด์ที่มาจากงานวิจัยฯ รับรองจากแพทย์ว่าไม่มีผลข้างเคียง ดังนั้นการขยายตัวของสังคมผู้สูงอายุจึงมีส่วนผลักดันยอดขายให้แบรนด์คินน์เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ดร.ศิริพร อริยพุทธรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คินน์ เวิลด์ไวด์ จำกัด (KINN) เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานที่ผ่านมาว่า ในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้มากกว่า 30 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5.9 ล้านบาท เป็นผลมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์คินน์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมาทำให้คนไทยตื่นตัวในการดูแลใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ซึ่งแบรนด์คินน์เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคุณภาพที่มาจากธรรมชาติ 100% เพื่อรักษาสมดุลร่างกายและรองรับสังคมสูงวัย (Aged society) โดยทุกสูตรของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์คินน์มีงานวิจัยรองรับ

นอกจากนี้ยังสนับสนุนแนวทางการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน จึงใช้โภชนเภสัช หรือก็คือ Nutraceutical ซึ่งมาจากคำว่า Nutrition + Pharmaceutical เปรียบเป็นผลิตภัณฑ์กึ่งอาหารเสริมกึ่งยา เพราะมีสรรพคุณที่เหนือกว่าอาหารเสริมทั่วไปจากการได้รับการยอมรับและแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้หลัก ๆ ของแบรนด์คินน์ จะมาจากดีลเลอร์ 45% แพลตฟอร์มขายออนไลน์ 30% สุดท้าย Drug store สัดส่วน 25% โดยดีลเลอร์จะมีทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น

แบรนด์คินน์ กับ 4 สูตรโภชนเภสัช

1. คินน์ ถั่งเช่า เอ๊กซ์ตร้า สูตรเข้มข้นมากถึง 79% สูงสุดในท้องตลาด สกัดจากถั่งเช่าทิเบตแท้ ปรับสมดุลในร่างกาย ลดปัญหาการนอนไม่หลับ
2. คินน์ ถั่งเช่า คลาสสิค มีความเข้มข้น 65% ช่วยในเรื่องเพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงไต
3. คินน์ หลินจือสูตรเข้มข้น ที่สกัดมาจากดอกเห็ดหลินจือ ช่วยในการล้างสารพิษในตับ ลดน้ำตาลในเลือด
4. คินน์ นัตโตะสูตรเข้มข้น สกัดมาจากถั่วนัตโตะธรรมชาติจากญี่ปุ่น ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดไตรกลีเซอไรด์ และลดความดัน

สำหรับแผนและเป้าหมายในปี 2566 ดร.ศิริพร กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 400 ล้านบาท เนื่องจากมีการวางแผนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างน้อย 4 ผลิตภัณฑ์เพื่อที่จะขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงเจาะตลาดคนสูงวัยตามโรดแมปที่วางไว้ อีกทั้งมีแผนจะขยายสินค้าไปสู่ตลาดต่างประเทศในกลุ่ม CLMV ได้แก่ ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งจะเป็นการวางจำหน่ายพร้อมกันทุกประเทศ ด้วยมีการเตรียมความพร้อมด้านพาร์ตเนอร์ไว้แล้ว นอกจากนี้ยอดขายทางฝั่ง Drug store และดีลเลอร์จะเป็นอีกตัวขับเคลื่อนที่ช่วยให้ถึงเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้ได้

ขณะที่ในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กรและหาตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนยอดขาย แต่หากเติบโตเต็มที่อาจจะเปลี่ยนไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) แทน ซึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะช่วยทั้งในเรื่องของเงินลงทุนที่จะนำมาต่อยอดในโครงการต่าง ๆ รวมถึงการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์คินน์ ซึ่งเป็นแบรนด์อาหารเสริมที่มาจากงานวิจัยและแพทย์แนะนำ

แบรนด์คินน์กับ 3 จุดแข็ง

1. มีความเป็นวิทยาศาสตร์ เนื่องจากทุกสูตรของแบรนด์คินน์มาจากการใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ในการวิจัย เพื่อการมีชีวิตยืนยาวและยั่งยืน ส่งผลให้แบรนด์คินน์เป็นแบรนด์อาหารเสริมโภชนเภสัช
2. Clinical Trial ซึ่งบริษัท คินน์ เวิลด์ไวด์ จำกัด ได้ร่วมวิจัย กับคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อศึกษาประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คินน์ เรด ยีสต์ ไรด์ พาวเดอร์ และนัตโตะ เฟอร์เมนต์เต็ด พาวเดอร์ ต่อระดับไขมันในเลือด และการส่งเสริมสุขภาพด้านอื่น ๆ ของผลิตภัณฑ์
3. มีความเป็นธรรมชาติ 100% เนื่องจากในทุกวัตถุดิบมาจากธรรมชาติ รวมถึงแคปซูลที่บรรจุก็เป็นแคปซูลมังสวิรัติ (Vegetarian Capsule) ผลิตจากเส้นใยพืชตามธรรมชาติ คือ ข้าวโพด เพื่อไม่ให้มีการตกค้างในร่างกาย

จากทั้ง 3 จุดแข็งทำให้สินค้าของแบรนด์คินน์เหนือกว่าอาหารเสริมอื่น ๆ ในตลาด ซึ่งการให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง นำมาสู่สินค้าที่สามารถเจาะตลาดลูกค้าระดับพรีเมียมได้ โดยไม่เน้นการแข่งขันด้านราคาเหมือนแบรนด์อาหารเสริมรายอื่น ประกอบกับปัจจัยภายนอกอย่างโครงสร้างสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super Aged Society) ก็จะส่งผลต่อการเติบโตของแบรนด์แห่งนี้ที่เน้นกลุ่มลูกค้าช่วงอายุ 45 ปีขึ้นไปชัดเจนมาตั้งแต่ต้น

“ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ แบรนด์คินน์ไม่เคยขึ้นราคา เราเน้นคุณภาพ และจัดโปรโมชัน เพิ่มความคุ้มค่า เพื่อสมนาคุณมอบให้คุณลูกค้า โดยบริษัทแม่และดีลเลอร์จะกำหนดราคาขายที่เท่ากัน และเราให้ความสำคัญกับดีลเลอร์ โดย 85% ดีลเลอร์ส่วนใหญ่มาจากลูกค้าที่ผันตัวกลายมาเป็นตัวแทนจำหน่ายเพราะใช้แล้วเห็นผลจริง และต้องการส่งต่อความมีสุขภาพดีต่อไป ปัจจุบันดีลเลอร์ของแบรนด์คินน์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘มีอัตราการซื้อซ้ำสูงมาก’ ซึ่งการซื้อซ้ำ อธิบายเข้าใจง่าย ๆ คือ ทานแล้วเห็นผลจริงชัดเจน พิสูจน์ได้นั่นเอง ” ดร.ศิริพร กล่าวในตอนท้าย

 .

เขียนและเรียบเรียง : ศิริวรรณ อรรถสุวรรณ