ดอกไม้บานที่ Keukenhof (คูเคนฮอฟ)

เนเธอร์แลนด์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่ดอกไม้กำลังแข่งประชันสีสัน อากาศเย็นนิด ๆ แต่ก็พอมีแดดอุ่นในช่วงกลางวัน

 

ในตัวเมืองอัมสเตอร์ดัมจึงคึกคักเป็นพิเศษ ผู้คนออกมาเดินชมเมือง และมีนักท่องเที่ยวเต็มท้องถนน ส่วนนอกเมืองอัมสเตอร์ดัมก็เป็นที่ดึงดูดไม่แพ้กัน โดยเฉพาะสวนดอกไม้ Keukenhof (คูเคนฮอฟ) ที่นักท่องเที่ยวกว่า 1 ล้านคน ปักหมุดไว้เป็นจุดหมายหลักของการเดินทางมาเนเธอร์แลนด์ในช่วงเวลานี้

คูเคนฮอฟตั้งอยู่ในเมือง Lisse ไม่ไกลจากอัมสเตอร์ดัมมากนัก การเดินทางไปเยือนที่นี่ก็แสนง่าย เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของประเทศ รถสาธารณะจึงมีบริการอยู่เรื่อย ๆ จากสนามบิน Schiphol ในอัมสเตอร์ดัม เราสามารถซื้อตั๋วโดยสารรถบัสพร้อมตั๋วเข้าชมสวนดอกไม้และขึ้นรถบัสที่มีบริการทุก ๆ 5 นาที แม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าแถวยาวก็ตาม แต่จำนวนรถบัสก็มีเพียงพอทำให้รอไม่นานมาก จากสนามบินใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงหน้าประตูทางเข้าสวนดอกไม้แห่งนี้แล้ว

Keukenhof

–อาณาจักรดอกไม้แห่งฤดูใบไม้ผลิ–

 

ปีนี้เป็นครั้งที่ 68 แล้ว ที่คูเคนฮอฟเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ย้อนไปเมื่อหลาย ๆ ร้อยปีก่อน ที่นี่เป็นสวนผัก ผลไม้ และสมุนไพร ในบริเวณปราสาทของภริยาขุนนางในอดีตแต่ในปี ค.ศ. 1950 เหล่าผู้ส่งออกดอกไม้มีความคิดที่จะรวบรวมพันธุ์ไม้สวย ๆ ในเนเธอร์แลนด์และยุโรปมาจัดแสดงและให้ผู้คนได้ชมกัน

 

สวนแห่งนี้จึงเกิดขึ้นเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ช่วงเวลาส่วนใหญ่ในแต่ละปีจะเป็นการปลูกและดูแลจนดอกไม้เบ่งบาน มีเวลาให้เราได้ยลโฉมเพียง 8 สัปดาห์ ในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม นับว่าเป็นช่วงที่เหมาะเจาะกับการท่องเที่ยวของคนไทยเพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวอย่างเทศกาลสงกรานต์และวันแรงงานแบบพอดิบพอดี

 

คูเคนฮอฟได้ชื่อว่าเป็นสวนฤดูใบไม้ผลิที่สวยที่สุดในโลก เต็มไปด้วยดอกทิวลิป แดฟโฟดิล และไฮยาซินธ์ รวมแล้วกว่า 7 ล้านดอก พื้นที่สวนแบ่งออกเป็นหลาย ๆ โซนใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบในการเดินชมสวนของแต่ละคน ถ้าหากชอบเดินชมดอกไม้สนใจทิวลิปหลากสีและหลากสายพันธุ์ไปจนถึงวิธีการจัดสวนหลากหลายรูปแบบอาจจะใช้เวลามากกว่านี้สักหน่อย

 

แต่ถ้าอยากเดินชมทุ่งดอกทิวลิป คูเคนฮอฟอาจไม่ใช่จุดหมาย เพราะที่นี่เน้นจัดแสดงดอกไม้ในสวนไม่ใช่เป็นทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา บริเวณสวนกลางแจ้งมีการจัดหลายรูปแบบตั้งแต่แปลงสี่เหลี่ยมธรรมดาไปจนเป็นแนวโค้งตัดสลับสีทิวลิป มีพื้นที่ตรงกลางให้เราเดินเข้าชมแบบใกล้ชิด บางพื้นที่ก็จัดไล่ระดับความสูงของดอกทิวลิปพร้อมสลับสีสันให้ตัดกัน บริเวณสวนกลางแจ้งค่อนข้างกว้าง ต้องเตรียมรองเท้าสบาย ๆ สำหรับเดินไกลไว้ให้พร้อมเพราะกว่าจะเดินครบก็เหนื่อยพอดู

Keukenhof

พื้นที่จัดแสดงในร่มก็น่าเยี่ยมชมไม่แพ้กัน ภายในมีการจัดแสดงการจัดดอกไม้ในกระถาง สวนแนวตั้ง รวมไปถึงการจัดแสดงพันธุ์พืชอื่น ๆ และเมล็ดพันธุ์ เป็นพื้นที่สำหรับผู้จัดแสดงดอกไม้และพันธุ์พืชได้นำผลผลิตมาให้ชมกัน และยังเป็นพื้นที่เชื่อมโยงทางธุรกิจของผู้ที่อยู่ในแวดวงไม้ดอกและพันธุ์ไม้ต่าง ๆ อีกด้วย

 

ทุก ๆ ปี สวนแห่งนี้จะมีการปรับเปลี่ยนตลอดและจัดสวนใหม่อยู่เรื่อย ๆ มีโซนจัดแสดงพิเศษเป็นธีมประจำของแต่ละปี ซึ่งในปีนี้เป็นธีม Dutch Design เพื่อสะท้อนถึงการดีไซน์ของดัตช์ที่สร้างแรงบันดาลใจ ทำให้ดีไซเนอร์ชาวดัตช์หลายท่านเป็นที่รู้จักในระดับโลกทั้งในด้านแฟชั่น สถาปัตยกรรม กราฟิกดีไซน์ และการออกแบบเฟอร์นิเจอร์

 

ธีมนี้สะท้อนผ่านการจัดวางสวนดอกไม้โดยใช้แม่สีพื้นฐานมาวางตัดกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมหลากหลายขนาด เป็นรูปทรงเรขาคณิตมาเรียงต่อกัน ปีก่อน ๆ ก็ได้สะท้อนหลากหลายธีม ที่เคยจัดมาก็มีธีมยุคทองของดัตช์ แวนโก๊ะ ฮอลแลนด์ หรือแม้แต่ธีมประเทศต่าง ๆ บนโลกก็เคยมี เช่น ธีมจีนในช่วงที่จีนได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิก

 

ไม่น่าเชื่อว่าดอกไม้จะเป็นแม่เหล็กเศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้มากขนาดนี้ สวนคูเคนฮอฟแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นกว่าปีก่อน ๆ ปีนี้ถือว่าทุบสถิติเป็นปีที่มีคนเข้าชมมากที่สุดตั้งแต่จัดมา หลังจากปิดประตูสวนของปีนี้เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็มีการประเมินสถิติผู้เข้าชมว่ามีคนมาเยี่ยมเยียนถึง 1.4 ล้านคน มากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 200,000 คน และนับเป็นปีที่ 4 แล้วที่คูเคนฮอฟเปิดบ้านรับแขกเกิน 1 ล้านคนติดต่อกัน แค่ประเมินด้วยสายตาก็พอทราบแล้วว่าเป็นที่นิยมขนาดไหน ฉันถึงกับต้องยอมแพ้ล้มเลิกความคิดที่จะเข้าแถวซื้อของที่ระลึกในบริเวณสวน และเลือกต่อแถวซื้ออาหารที่สั้นที่สุดโดยไม่สนใจอาหารที่อยากทานแต่มีหางแถวยาวไปไกล

 

ผู้มาเยือนสวนแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเสียมากกว่าคนในพื้นที่มีเพียง 20% เท่านั้นที่มาจากเนเธอร์แลนด์ ส่วนใหญ่แล้วมาจากประเทศใกล้เคียง มีนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาถึง 120,000 คน ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนก็เยอะไม่แพ้กัน คือประมาณ 90,000 คน และมีแนวโน้มว่านักเดินทางจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่แปลกเลยที่ภาพถ่ายของคูเคนฮอฟออกสู่สายตาชาวโลกมากมายในแต่ละปี จนไปกระตุ้นให้อยากชมดอกไม้งาม ๆ ทำให้นักท่องเที่ยววางหมุดเป็นสถานที่ที่ต้องมาเมื่อมีโอกาสมาเยือนฮอลแลนด์ ฉันคนหนึ่งล่ะที่เห็นภาพทิวลิปสวย ๆ มานาน พอมีโอกาสก็ต้องหาทางชมด้วยตาตัวเองถือว่าคุ้มจริง ๆ

Keukenhof

–ศิลปะบนผืนดิน—

 

ฉันคิดว่าการปลูกต้นไม้ดอกไม้ถือเป็นผลงานศิลปะอย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ การวางแผน การออกแบบ การดูแล ไปจนถึงความร่วมมือจากธรรมชาติ การรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ต้องคิดกันข้ามปีเลยทีเดียว แถมยังต้องการการบำรุงรักษาอยู่ทุกวันก่อนที่จะเปิดออกสู่สายตาผู้คนให้เข้าชม โดยดอกไม้ทั้งหมดนี้มาจากสองมือของคนสวนประมาณ 30 คน ที่ลงมือปลูกและดูแลตลอดทั้งปี พวกเขาเริ่มวางหัวทิวลิปลงดินตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงและดูแลจนกระทั่งเบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ

 

ความน่าทึ่งอีกอย่างคือเขามีเทคนิคการปลูกเพื่อให้ดอกไม้บานตลอดฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย โดยปลูกดอกไม้เป็นลำดับขั้น (ประมาณ 3 ขั้น) ดอกที่จะแตกหน่อช้าที่สุดจะอยู่ในดินชั้นลึกสุดไล่ขึ้นมาตามลำดับ โดยชั้นใกล้ผิวดินที่สุดจะเป็นดอกที่จะบานก่อนใคร ตรงนี้ต้องอาศัยความชำนาญพอดูเพราะต้องกะเกณฑ์ให้ดอกไม้อยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะ และต้องดูแลให้ดอกไม้ยังคงสวยงามอยู่ตลอดปี ฉันว่าคนกลุ่มนี้ล่ะที่เจ๋งที่สุด น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีเรื่องราวเบื้องหลังการปลูกให้ได้เห็นมากนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่การจัดแสดงผลงานมากกว่า

 

Keukenhof

แต่ถ้าหากอยากซื้อทิวลิปติดไม้ติดมือกลับไป คูเคนฮอฟมีขายหัวทิวลิปที่มาจากคนปลูกโดยตรงแต่ราคาอาจแพงนิดนึง หากใครที่วางแผนไปเยือนเนเธอร์แลนด์ในปีหน้า อย่าลืมใส่สวนดอกไม้แห่งนี้ไว้เป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาด ถ้าอยากชมทุ่งดอกทิวลิปก็อาจจะหาทัวร์ปั่นจักรยานรอบ ๆ คูเคนฮอฟเพิ่มเติมด้วยจะได้ปั่นชมแปลงทิวลิปกว้าง ๆ และแวะบันทึกภาพสวย ๆ

 

ในปีถัดไปคูเคนฮอฟจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม-13 พฤษภาคม 2561 โดยจะจัดในธีมโรมานซ์ บางสัปดาห์อาจมีกิจกรรมพิเศษ เช่น ขบวนพาเหรดดอกไม้ แฟชั่นโชว์ ดนตรี อาจจะลองเช็กดูตารางกิจกรรมใกล้ ๆ อีกครั้ง แต่แม้จะไม่มีกิจกรรมพิเศษในช่วงสัปดาห์ที่ฉันไป แค่ถ่ายภาพหลากหลายมุมของสวนดอกไม้ก็สนุกและประทับใจแล้ว