รถไฟสหราชอาณาจักรส่อปั่นป่วน หลังสหภาพ ASLEF จ่อประท้วงครั้งใหญ่ เหตุบริษัทไม่ปรับค่าแรงให้สอดคล้องค่าครองชีพ

ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาจากภาวะเงินเฟ้อซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในส่วนของค่าครองชีพ สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ เมื่อสมาชิกของ ‘สหภาพ ASLEF’ ซึ่งเป็นตัวแทนของคนขับรถไฟร้อยละ 96 ในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ สกอตแลนด์ และเวลส์) ได้ประกาศว่าพวกเขาเตรียมหยุดงานเพื่อเป็นการประท้วง โดยในการประท้วงครั้งนี้ประกอบด้วยพนักงานจากบริษัทที่ให้บริการรถไฟ 12 แห่ง โดยมีกำหนดการประท้วงในวันที่ 15 กันยายนนี้

โดยการประท้วงในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากทาง ‘สหภาพการรถไฟ TSSA’ ได้ออกมาประกาศว่าเจ้าหน้าที่ของบริษัทรถไฟจำนวน 9 แห่ง จะนัดหยุดงานทั่วประเทศเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง ในช่วงปลายเดือนนี้

สำหรับบริษัทรถไฟที่จะได้รับผลกระทบจากการประท้วงหยุดงานในครั้งนี้ ได้แก่ London Overground, Southeastern, Avanti West Coast, Chiltern Railways, CrossCountry, Greater Anglia, Great Western Railway, Hull Trains, LNER, Northern Trains, TransPennine Express; และ West Midlands Trains

การประท้วงในครั้งนี้ ถือเป็นการประท้วงต่อจากการประท้วงเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม และ 13 สิงหาคม 2565 ซึ่งบรรดาคนขับรถไฟได้หยุดเดินรถเป็นเวลา 24 ชั่วโมง โดยสาเหตุในการประท้วงเกิดจากการที่กลุ่มคนงานต้องการขึ้นค่าแรงเพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่ในการประท้วงที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการได้ปฏิเสธในการปรับขึ้นค่าจ้างตามที่ทาง ‘สหภาพ ASLEF’ ร้องขอ ส่งผลให้เกิดเป็นการประท้วงในครั้งนี้ขึ้นมา

ด้าน ‘มิก วีแลน’ เลขาธิการทั่วไปของ ‘ASLEF’ กล่าวว่า เราเสียใจที่ผู้โดยสารจะต้องไม่สะดวกอีกครั้ง และไม่ได้ต้องการที่จะหยุดงานประท้วง แต่การออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เนื่องจากทางบริษัทต้องการปรับลดค่าจ้างคนขับรถไฟลง 10% แต่ยังให้ทำงานหนักเช่นเดียวกับปีที่แล้ว เราต้องการให้บริษัทต่างๆ ที่ทำกำไรมหาศาล และจ่ายเงินเดือนและโบนัสแก่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เสนอค่าตอบแทนที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้สมาชิกของเราตามทันค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ทางโฆษกกระทรวงคมนาคมก็ได้กล่าวถึงการประท้วงในครั้งนี้ว่าผู้นำสหภาพแรงงานเลือกการดำเนินการนัดหยุดงานอย่างไม่สร้างสรรค์ ไม่เพียงแต่จะรบกวนชีวิตผู้คนนับล้านที่พึ่งพาบริการเหล่านี้ แต่ยังทำลายอนาคตของทางรถไฟและอนาคตการประกอบอาชีพของพวกเขาเอง หากยังดำเนินต่อไป นี่จะเป็นการหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดและก่อกวนที่สุดโดยพนักงานขับรถไฟ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการมากกว่าการหยุดครั้งใหญ่สองครั้งก่อนหน้าในเดือนสิงหาคมและกรกฎาคม และจะส่งผลกระทบต่ออังกฤษส่วนใหญ่ โดยทั้งสองครั้งที่ผ่านมาเกิดขึ้นในวันเสาร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารที่เดินทางมาพักผ่อนในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนของโรงเรียน ส่วนการประท้วงในเดือนกันยายนที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีนั้นจะส่งผลกระทบต่อผู้สัญจรไปมามากขึ้น

ทั้งนี้ ค่าครองชีพในอังกฤษได้ปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 40 ปี โดยอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 10.1% และคาดว่าจะแตะระดับ 13% ก่อนสิ้นปี 2565 โดยการปรับเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อนี้ทำให้สหภาพแรงงานหลายแห่งเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรงเพื่อช่วยให้คนงานรับมือได้ โดยในหลายอุตสาหกรรม รวมทั้งการรถไฟ โทรคมนาคม ท่าเรือ และภาคการไปรษณีย์ ได้มีการโหวตให้หยุดงานประท้วงเพื่อขอปรับขึ้นค่าแรง แต่รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศอังกฤษได้เตือนนายจ้างไม่ให้จ่ายเงินเดือนเพิ่มขึ้นมากจนเกินไป เนื่องจากกลัวว่าจะมีกระแสเงินเฟ้อไหลวนแบบยุค 1970 ซึ่งบริษัทต่าง ๆ มีการปรับขึ้นค่าแรงและผลักภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าด้วยราคาที่สูงขึ้นแทน

สำหรับปี 2564 เงินเดือนเฉลี่ยของคนขับรถไฟและรถรางอยู่ที่ 59,189 ปอนด์ ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติประเทศอังกฤษ

 

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

 

ที่มา : BBC

 

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

.

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #สหภาพASLEF #คนขับรถไฟประท้วงหยุดงาน #เงินเฟ้อ #สหราชอาณาจักร #อังกฤษ