ซึ่งหากหากอิงข้อมูลจาก องค์การสหประชาชาติ (UN) จะพบว่า ในปี 2022 อายุขัยของคนทั่วโลกยังอยู่ที่ 72.98 ปี ขณะที่ปี 2023 ขยับขึ้นมาที่ 73.4 ปี โดยผู้ชายจะมีอายุสั้นกว่าผู้หญิง ด้วยอายุขัย 70.8 ปี ส่วนผู้หญิง 76 ปี ส่วนอายุไขของคนไทยนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 77.7 ปี เป็นอันดับที่ 47 ของโลก แต่ด้วยนวัตกรรมการแพทย์ที่ก้าวหน้ามากขึ้นจึงส่งผลให้อายุขัยของประชากรไทยเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4.4 เดือนต่อปี สวนทางกับอัตราการเกิดที่น้อยลง
ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ 2 ทวีปนี้มีความแตกต่างกันมากถึง 25 ปี มาจากปัจจัยหลายด้าน แต่มี 3 ประการหลักๆ คือ พันธุกรรม เพศ และรูปแบบการใช้ชีวิต ซึ่ง 2 ปัจจัยแรกเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถกำหนดหรือกะเกณฑ์ได้ แต่ปัจจัยที่ 3 เป็นปัจจัยที่เราอาจจะควบคุม หรือช่วยให้อายุขัยยืนยาวขึ้นได้
ก่อนอื่น เรามาดูข้อมูลที่สำรวจและรวบรวมโดย ‘Business+’ กันก่อน ว่า 10 ประเทศที่คนอายุยืนที่สุดในโลก และ 10 ประเทศที่คนอายุสั้นที่สุดในโลกมีประเทศใดบ้าง

จะเห็นว่า ประเทศที่มีคนอายุขัยยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 1 คือ โมนาโก ด้วยอายุขัยยาวนานถึง 87.01 ปี ซึ่งสาเหตุที่ทำให้คนโมนาโก มีอายุยืนยาวที่สุดประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก ๆ ได้แก่
1.อาหารเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นอาหารหลักที่คนโมนาโกรับประทานเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งอาหารทะเล ผลไม้ และผักต่างสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง นอกจากนี้คนโมนาโกยังมีสุขภาพจิตที่ดี เนื่องจากโมนาโกมีชายหาดของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ภูมิอากาศเหมาะสม รวมไปถึงการเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
2. ระบบการรักษาพยาบาลระดับแนวหน้าของประเทศ โดยที่คนในโมนาโกได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐอย่างเพียงพอ เนื่องจากประชากรในประเทศโมนาโกมีจำนวนน้อยมากเพียง 36,469 คนเท่านั้น (ข้อมูลปี 2022) และมีขนาดประเทศที่เล็กเป็นอันดับที่ 2 ของโลก จึงทำให้การแพทย์และสาธารณะสุขเข้าถึงแทบทุกครัวเรือน เรียกได้ว่าใครเจ็บไข้ได้ป่วยก็ได้รับสวัสดิการที่ดี และเดินทางไปเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว
3. ประชากรส่วนใหญ่ที่มีรายได้ เพียงพอ สำหรับการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีด้วยความช่วยเหลือด้านสุขภาพ โดย GDP per capita ของโมนาโกเป็นอันดับที่ 2 ของโลกที่ 234,317 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคนโมนาโก 1 คนสร้างรายได้ต่อปีเกือบ 8 ล้านบาท เทียบกับประเทศไทย 7,449 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 245,817 บาทต่อคนต่อปี นอกจากนี้คนโมนาโกยังมีสินทรัพย์สูงมากเป็นอันดับต้น ๆ จากราคาที่ดินที่สูงมาก เพราะนักธุรกิจหลายรายจากต่างประเทศต่างมาซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อพักผ่อนหรือมาอยู่อาศัยในประเทศนี้ทั้งจากวิวที่สวยงาม อาหารที่ดี และอาชญากรรมต่ำ
เมื่อดูประเทศที่คนอายุยืนมากที่สุดแล้ว หันมาดูประเทศที่มีคนอายุสั้นที่สุดในโลกกันบ้าง นั่นคือ สาธารณรัฐชาด (Chad) ซึ่งอยู่ในทวีปแอฟริกา ประเทศที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นทะเลทราย มีทองคำและยูเรเนียมมาก และเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ แต่คนสาธารณรัฐชาดมีอายุขัยเฉลี่ยเพียง 53.68 ปีเท่านั้น เพราะประชาชนส่วนใหญ่ยากจน ขณะที่ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานยังล้าหลังมาก โดยมี GDP Per Capital เพียง 669.9 ดอลลาร์สหรัฐ หรือพูดง่าย ๆ คือ คนสาธารณรัฐชาดมีรายได้ต่อปีเพียงแค่ราวๆ ปีละ 22,106 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ สาธารณรัฐชาด ยังเกิดสงครามกลางเมืองบ่อยครั้ง และมีความขัดแย้งระหว่างประชาชนในภาคเหนือซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหรับ/มุสลิม และทางใต้ซึ่งเป็นคริสต์หรือนับถือวิญญาณ อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองของชาดยังคงมีพวกกบฏที่ยังคงพยายามใช้ความรุนแรงโค่นล้มรัฐบาลอยู่อีกด้วย
ทั้งนี้เมื่อเรานำข้อมูลทั้ง 2 ประเทศมาเปรียบเทียบกัน ระหว่างปะเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุด กับน้อยที่สุดในโลก ทำให้เราเห็นว่านอกจากตัวแปรด้านพันธุกรรม เพศ แล้ว ปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาของประเทศนั้น ๆ ก็มีผลต่ออายุขัยของคนในประเทศมากเช่นกัน เพราะระบบสาธารณะสุข สาธารณูปโภค และสวัสดิการต่างผลต่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิตของคน
ดังนั้น หนึ่งในสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องให้ความสำคัญ คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เพียบพร้อม และเพิ่มสวัสดิการให้เพียงพอ เพราะการมีคนอายุยืนมาก ๆ ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีต่อเศรษฐกิจ และตลาดแรงงานของประเทศนั้น ๆ แต่อย่างใด หากประเทศไม่มีสวัสดิการที่รองรับได้อย่างเพียงพอ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากประเทศที่เป็นสังคมผู้สูงอายุที่ไร้บุตรหลานแบบประเทศไทย นั่นเอง
ที่มา : Statista , สำนักงานสถิติ
เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS