เป้าหมายการเติบโตที่น่าจับตาในยุคใหม่ของเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป
จากสถานการณ์การท่องเที่ยวทั่วโลกฟื้นที่ตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ ย่อมส่งผลให้ธุรกิจด้านการโรงแรมและการให้บริการทั่วโลกนั้นมีความต้องการเพิ่มขึ้นด้วย เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป มุ่งมั่นที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจด้วยแผนกลยุทธ์การขยายการเติบโตที่แข็งแกร่งเพื่อที่จะสู่ความเป็นหนึ่งในเครือโรงแรมระดับนานาชาติชั้นนำของโลก

ปีนี้นับเป็นปีที่มีผลงานโดดเด่นอย่างมากสำหรับ เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ซึ่งเป็นไปตามแผนขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจตามกลยุทธ์ทางภูมิศาสตร์ โดยตั้งแต่ต้นปี 2023 เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ได้ต้อนรับสมาชิกที่มาร่วมในเครือ ผ่านทั้งการเซ็นสัญญาและการเปิดตัวโรงแรมมากกว่า 100 แห่งทั่วโลก
ทั้งในเอเชียแปซิฟิก รวมถึง ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

การเติบโตในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2023  เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ได้มีการขยายจำนวนห้องพักในโรงแรมเพิ่มขึ้นมากกว่า 8,000 ห้อง โดยมีการเซ็นสัญญาลงนามเปิดตัวแบรนด์ต่าง ๆ ในจุดหมายปลายทางสำคัญทั่วทั้งตลาดยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เช่น กรีซ เยอรมนี สหราชอาณาจักร อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส  สำหรับในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้มีการเซ็นสัญญาเปิดตัวโรงแรมเพิ่มขึ้นมากกว่า 60 แห่ง ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดที่มีจำนวนห้องพักโรงแรมมากกว่า 8.000 ห้อง ในเวียดนาม อินเดีย ไทย ฟิลิปปินส์ และจีน

เฟื่องฟูในประเทศไทย

ช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาการขยายธุรกิจของ เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างโดดเด่น เห็นได้ชัดจากการลงนามสัญญาโรงแรมใหม่ถึง 7 แห่ง มีจำนวนห้องพักรวมกว่า 1,300 ห้อง

โรงแรมที่เปิดให้บริการไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

รวมถึงโรงแรมแห่งใหม่ในเครือ ที่พร้อมจ่อคิวเปิดให้บริการภายใน 12 เดือนข้างหน้า ได้แก่

• เรดิสัน รีสอร์ท ภูเก็ต ไม้ขาว บีช – รีสอร์ทระดับอัพสเกลติดชายหาด จะเปิดให้บริการไตรมาสที่ 2 ปี 2024
• เรดิสัน เพลินจิต กรุงเทพฯ – โรงแรมที่สะท้อนเอกลักษณ์ของเรดิสัน แห่งใหม่ใจกลางเมือง จะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 2 ปี 2024
• เรดิสัน เรด ป่าตอง บีช ภูเก็ต – เป็นการเปิดตัวแบรนด์โรงแรมไลฟ์สไตล์ระดับอัพสเกลครั้งแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่บนหาดป่าตอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของภูเก็ต กำหนดเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 2 ปี 2024
• พาร์ค อินน์ บาย เรดิสัน กรุงเทพฯ ดอนเมือง – มีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 โรงแรมระดับกลางแบรนด์แรกในไทย ด้วยห้องพักสไตล์ทันสมัย
  89 ห้อง และอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติดอนเมืองเพียง 10 นาที
• อันดามัน ริเวียร่า ภูเก็ต โฮเทล หนึ่งในสมาชิกของแบรนด์ เรดิสัน อินดิวิดวลส์ ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2024

มร.เอลลี่ ยูเนส รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาระดับสากล เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป

“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดหลักสำคัญสำหรับเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาเราได้มีการลงนามสัญญากับโรงแรม 7
แห่ง ซึ่งประกอบไปด้วย 3 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ เรดิสัน เรด, เรดิสัน อินดิวิดวลส์ และ พาร์ค อินน์ บาย เรดิสัน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพของแบรนด์ของเราที่มีต่อผู้ลงทุนและแขกผู้เข้าพัก รวมถึงทีมงานระดับมืออาชีพของหน่วยธุรกิจประจำประเทศที่คอยสนับสนุนและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ เราขอขอบคุณเจ้าของธุรกิจโรงแรมที่ไว้วางใจแบรนด์ของเราและทีมงานของเราทุกคนมาโดยตลอด”มร. เอลลี่ ยูเนส รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาระดับสากล เรดิสัน
โฮเทล กรุ๊ป กล่าว

ก้าวต่อไปของเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป จะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้ากลยุทธ์ขยายการเติบโตในไทยอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นไปที่จุดเด่นของแบรนด์แต่ละแบรนด์และรูปแบบธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งในด้านการเข้าร่วมบริหารจัดการ และการเซ็นสัญญาแฟรนไชส์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งแก่เจ้าของโรงแรม นักพัฒนาธุรกิจ รวมถึงแขกผู้เข้าพักในจุดหมายปลายทางหลักทั่วประเทศ

การใช้ Digital-First Customer Journey เป็นพลังขับเคลื่อนความสำเร็จของการเติบโตธุรกิจในเอเชีย แปซิฟิก

อีกหนึ่งเครื่องมือทางธุรกิจของเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป มีอิทธิพลต่อรายได้ของธุรกิจถึง 70%  และเป็นหนึ่งในการช่วยผลักดันธุรกิจให้เกิดผลกำไรเบื้องต้นจากการดำเนินงาน (GOP) ที่แข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรมนี้รวมไปถึงรีวอร์ดส์โปรแกรมของเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ที่เป็นหนึ่งในระบบดูแลลูกค้าระดับโลกที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อมอบเอกสิทธิ์ของการบริการให้กับลูกค้า

1. ในปัจจุบัน เว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ของ Radisson เป็นช่องทางการจองห้องพักออนไลน์โดยตรงกับทางโรงแรมที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และ Digital Transformation ที่เป็นกุญแจสำคัญที่จะก้าวไปสู่แผนการเปลี่ยนแปลงของเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ซึ่งทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น Radisson ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่นำมาใช้ในการวางรากฐานเพื่อปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์และบริการ โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และอุปกรณ์อย่างโทรศัพท์มือถือคือช่องทางแรกซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชม ค้นหา เลือก และจองโรงแรมในอุดมคติของตนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

2. เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ยังได้มีการพัฒนาแผนงานเชิงกลยุทธ์สำหรับแต่ละท้องถิ่นเพื่อกำหนดทิศทางขยายธุรกิจไปยังกลุ่มตลาดที่สำคัญ ปัจจุบันเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของกลุ่มโรงแรมในเครือเรดิสันมีภาษาให้เลือกใช้มากถึงเกือบ 30 ภาษา ซึ่งรวมถึง จีน ฮินดี อาหรับ ไทย และเวียดนาม

3. เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ใช้กลยุทธ์ Customer Centric คือ มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง จึงให้ความสำคัญกับการนำเสนอประสบการณ์การให้บริการแบบเฉพาะบุคคลแก่ผู้ใช้ ดังนั้น เนื้อหาบนเว็บไซต์และแอปบนมือถือของเรดิสัน จึงเป็นแบบเฉพาะเจาะจงที่มีให้เลือกใช้บริการตามความต้องการของลูกค้ามากกว่า 60 แห่ง ซึ่งส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าที่เข้ามามีส่วนร่วมในเว็บมีจำนวนผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นเป็น 2 หลัก (double-digit) และ “อัตราการคลิกเข้าโฆษณา” (click through rate) เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า เมื่อเทียบกับโดยทั่วไป

4. หนึ่งในแนวทางการเปลี่ยนแปลงธุรกิจที่สำคัญที่สุดคือ การเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้ากับโรงแรมต่าง ๆ ในเครือให้มากขึ้น เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ได้มีการสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำกับโรงแรมในเครือกว่า 86 แห่งบนโลกดิจิทัลผ่านทางเนื้อหาที่มีปฏิสัมพันธ์ โดยลูกค้าสามารถเข้าไปเยี่ยมชมโรงแรม ห้องพัก และพื้นที่ประชุมได้แบบเสมือนจริงจากแล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่ชุดอุปกรณ์ VR

5. การเป็นผู้นำ Feeder Market ด้านธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวชั้นนำอย่างประเทศไทย รวมถึง จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และยุโรป

โครงสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและอัตลักษณ์ที่โดดเด่น
ในทุกแง่มุมของการดำเนินธุรกิจของเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป นั้นมุ่งเน้นไปที่ความต้องการของทั้งเจ้าของโรงแรมและแขกผู้เข้าพัก ด้วยโครงสร้างของแบรนด์ที่ชัดเจนและเข้าถึงง่าย จึงสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มตลาดที่หลากหลาย ทั้งแขกผู้เข้าพักและเจ้าของธุรกิจได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น เรดิสัน เรด เป็นแบรนด์ที่ออกแบบให้มีความสนุกสนาน มีชีวิตชีวา จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบและเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี

ขณะที่ เรดิสัน อินดิวิดวลส์ ซึ่งเป็นแบรนด์คอนเวอร์ชั่น ที่มีความยืนหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ เปิดโอกาสให้โรงแรมอิสระและแบรนด์โรงแรมในท้องถิ่นสามารถที่จะได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนของเครือข่ายโรงแรม เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป จากทั่วโลก ขณะเดียวกันยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ ลักษณะและบุคลิกภาพของโรงแรมไว้

การที่ เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป มุ่งเน้นกับโครงการคอนเวอร์ชั่นที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ตั้งแต่ปรับเปลี่ยนโรงแรมเดิมไปจนถึงการสร้างขึ้นมาใหม่ รวมถึงเป็นโซลูชั่นที่เป็นมิตรกับทุกแบรนด์ การได้รับการสนับสนุนจากทีมออกแบบที่ใส่ใจต่อทุกโครงการและแบรนด์ เพื่อให้สามารถสร้างโรงแรมที่ตอบสนองความต้องการของแขกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในปัจจุบัน

ผู้นำด้านความยั่งยืน ร่วมสนับสนุนเจ้าของโรงแรมก้าวสู่ Net Zero
เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจโรงแรมชั้นนำระดับโลกรายแรก ๆ ที่ริเริ่มแนวทางจัดการเกี่ยวกับความยั่งยืนด้วยหลักการ Hotel Sustainability Basics หรือแนวทางการจัดการที่เป็นตัวชี้วัดเรื่องความยั่งยืน เพื่อก้าวสู่ Net Positive

โรงแรมเรดิสัน รีสอร์ท ภูเก็ต ไม้ขาว บีช

ในปี 2022 เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเป็นโรงแรมที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050 ตามเป้าหมายที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets) ซึ่งสอดคล้องกับข้อตกลงปารีส (COP21) และได้ดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนี้

เพื่อก้าวสู่การเป็นโรงแรม Net Zero ให้ได้ภายในปี 2050 เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป จึงมีการร่วมมือกับบรรดาเจ้าของโรงแรมในการกำหนดแนวทางการออกแบบอาคารที่ช่วยก้าวสู่ระดับมาตรฐานหลักของอาคารสีเขียว (LEED, BREEAM และ EDGE) เพื่อให้เป็นอาคารที่เป็นมิตรต่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม

เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป เป็นเครือโรงแรมชั้นนำระดับโลกกลุ่มแรก ๆ ที่ทำให้การจัดงานประชุมและงานกิจกรรมทั้งหมดที่จัดขึ้นที่โรงแรมทุกแห่งในเครือเรดิสันทั่วโลกปราศจากคาร์บอนในปี 2019  ด้วยโครงการ ‘Radisson Meetings’  โดยตั้งเป้าว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการจัดประชุมและกิจกรรมที่จัดขึ้นที่โรงแรม ต้องปลอดคาร์บอน 100% โดยโรงแรมในเครือเรดิสันจะไม่มีมีการหักค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติมกับลูกค้า ซึ่งตั้งแต่ริเริ่มโครงการในเดือนพฤษภาคม 2019 จนถึงปัจจุบัน โรงแรมในเครือเรดิสันสามารถลดปริมาณคาร์บอนได้มากกว่า 61,000 ตัน

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Radisson Hotel Group และเติบโตไปพร้อมกับเราที่ Radissonhotels.com/development