The Business Plus บิสิเนสพลัส
เช้าวันนี้มีข่าวใหญ่ของอุตสาหกรรมรถยนต์อย่าง บริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด (จีเอ็ม) หรือ GM ได้ประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์ถึงการยุติการจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตภายในสิ้นปี 2563 แม้ว่าจะยังคงมีบริการหลังการขายและดูแลลูกค้าต่อไปก็ตาม
โดยสาเหตุหลักที่ GM ถอดรถยนต์เชฟโรเลตออกจากตลาดรถยนต์ไทย ผู้บริหารให้เห็นผลว่า “ไม่มีฐานการผลิตในประเทศไทย” (หลังขายโรงงานผลิตในจ.ระยอง แก่เกรท วอล มอเตอร์ส ผู้ผลิตรถยนต์จากจีน) แม้จะพยายามหาโรงงานแห่งใหม่แล้ว
และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ “การตัดสินใจที่จะยุติการผลิตและการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยนั้นเป็นไปตามกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจทั่วโลกของจีเอ็ม”
คำกล่าวนี้ยังสอดรับกับคำกล่าวอีกว่า “ตลาดรถยนต์ทั่วโลกที่ชะลอตัวอย่างมาก จากการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยุคใหม่”
ว่ากันตามข้อเท็จจริงนั้น ไม่เกินเลยสำหรับเหตุผลของจีเอ็มที่กล่าวมาทั้งหมด 3 ข้อ ทั้งขายโรงงานทิ้ง กลยุทธ์บริหารมาจากคำสั่งบริษัทแม่ และยอดขายลดลงจากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี
ในภาพรวมแล้วตลาดรถยนต์ทั่วโลกนั้นก็มียอดขายที่ลดลงจริง ๆ เนื่องจากทั่วโลกอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปไปเป็นรถไฟฟ้าและรถอัตโนมัติ ซึ่งหากมองอย่างเป็นธรรมก็ต้องบอกว่า GM ซึ่งมีแบรนด์ในเครือ 9 ยี่ห้อ กำลังมียอดขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
9 แบรนด์ในเครือของจีเอ็ม
- Buick
- Cadillac
- Chevrolet
- GMC
- Hummer
- Pontiac
- Saturn
- Opel
- Vauxhall
โดย GM มียอดขายราว 7.7 ล้านคัน ในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี ดังนั้นจึงได้มีการจะปิดโรงงานทิ้งแล้วแสดงความรับผิดชอบเต็มที่ ทั้งออกมาตราการออกมาเยียวยา โดยทางฝั่งลูกจ้าง GM มอบแพ็คเกจเงินชดเชยให้กับพนักงานที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดในจำนวนที่มากกว่ากฎหมายแรงงานไทยกำหนด
ในส่วนของคู่ค้า ทางจีเอ็มก็รับผิดชอบเต็มที่เช่นกัน โดยได้มีการเสนอโปรแกรมการช่วยเหลือพิเศษในการปรับเปลี่ยนธุรกิจ รวมถึงการมอบโอกาสในการเปลี่ยนธุรกิจของตนให้เป็นศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจากเชฟโรเลต
จากถ้อยแถลงของผู้บริหารจีเอ็มก็ต้องบอกว่า นี่เป็นการปรับโครงสร้างใหม่ภายใต้ขีดความสามารถใหม่ที่ทางจีเอ็มไม่มี เพราะข่าวก่อนหน้านี้ จีเอ็มได้ประกาศถอนตัวออกจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ไปแล้วเช่นกัน
จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าติดตามการถึงการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของค่ายจีเอ็มในอนาคตว่า จะเป็นอย่างไรต่อไป รวมถึงเส้นทางข้างหน้าของจีเอ็มนั้นจะมีแนวโน้มไปในทิศทางไหนท่ามกลางกระแส Disruption ที่เกิดอย่างเข้มข้น
ติดตามอ่านบทความน่าสนใจได้อีกช่องทางที่ www.facebook.com/businessplusonline
