ฟูจิฟิล์ม ตอกย้ำจุดยืนผู้นำการถ่ายภาพทางการแพทย์ พร้อมรุกธุรกิจ Healthcare ผ่านแคมเปญ NEVER STOP

หากพูดถึง ‘ฟูจิฟิล์ม’ เชื่อว่าทุกคนคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่กับการถ่ายภาพมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยของการถ่ายภาพด้วยฟิล์มหรือกล้องดิจิทัลในปัจจุบัน แต่เมื่อพูดถึงภาพถ่ายทางการแพทย์ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ฟูจิฟิล์ม ได้ก้าวสู่ธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1936 หรือราว ๆ 80 ปีที่แล้ว ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ฟิล์มเอกซเรย์ที่เป็นที่ยอมรับจากวงการแพทย์ทั่วโลก ซึ่งธุรกิจนี้เองที่ช่วยตอบข้อสงสัยว่า ทำไม ‘ฟูจิฟิล์ม’ ยังคงอยู่รอดในตลาด และเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งแม้ว่าธุรกิจกล้อง และฟิล์มถ่ายรูปจะถูก Disruption ไปอีกกี่รอบก็ตาม

แม้ ฟูจิฟิล์มจะเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตฟิล์มถ่ายภาพ แต่หลายปีที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้ฟูจิฟิล์มยังคงเป็นผู้เล่นชั้นนำได้ เกิดจากกลยุทธ์ธุรกิจ ที่เน้นการปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการและโอกาสใหม่ๆ ด้วยการขยายธุรกิจและนำเสนอโซลูชันให้แก่หลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจากความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพสู่การพัฒนานวัตกรรม โดยปัจจุบัน ธุรกิจของฟูจิฟิล์มครอบคลุม 4 ภาคธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ 2. ธุรกิจนวัตกรรมสิ่งพิมพ์เพื่อธุรกิจ 3. ธุรกิจด้านการถ่ายภาพ และ 4. ธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพ

โดยธุรกิจที่กลายเป็นหัวใจสำคัญของฟูจิฟิล์ม คือ “ธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพ” โดยความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจการแพทย์ของฟูจิฟิล์มเริ่มมีความน่าสนใจเป็นอย่างมากหลังจากได้ควบรวมกิจการกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยโรคด้วยภาพของ Hitachi Healthcare ในปี 2021 และเปลี่ยนชื่อเป็น Fujifilm Healthcare Corporation ซึ่งการควบรวมนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพของฟูจิฟิล์มแข็งแกร่งยิ่งขึ้น จากการดึงเทคโนโลยีเกี่ยวกับการถ่ายภาพทางการแพทย์มาใช้ได้อย่างสูงสุด เพราะนอกจากเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัล, กล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหาร, เครื่องอัลตราซาวด์, เครื่องแมมโมแกรมตรวจเอกซเรย์เต้านม ก็ยังได้เทคโนโลยี MRI และ CT Scan มาเสริมให้โซลูชันการวินิจฉัยทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มให้ครบวงจร

นอกจากนี้ ฟูจิฟิล์ม ยังได้นำเครื่องมือเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ขั้นสูง และระบบสารสนเทศทางการแพทย์อย่าง Synapse 3D โปรแกรมสร้างภาพทางการแพทย์รูปแบบสามมิติ ซึ่งถือว่าเป็นการยกระดับการตรวจวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น และปัจจัยทั้งหมดนี้เองที่ทำให้ฟูจิฟิล์มก้าวเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพ

ขณะที่หากมองตลาดในเมืองไทยจะเห็นได้ว่า “ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย” เป็นบริษัทที่ได้รับความไว้วางใจจากบุคลากรทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่การก่อตั้งสำนักงานในไทยเมื่อปี ค.ศ. 1989 ซึ่งการที่ได้รับการยอมรับนั้น เกิดจากจุดแข็งด้านความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับการถ่ายภาพทางการแพทย์อย่างครบวงจร ซึ่งภาพถ่ายทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มขึ้นชื่อว่าเป็นภาพที่เหมาะกับการวินิจฉัยโรคมากที่สุด

และเป้าหมายธุรกิจในปี 2022 ของฟูจิฟิล์ม คือการเดินหน้ารุกธุรกิจ Healthcare เพื่อนำเสนอ Total Healthcare Solution ให้กับอุตสาหกรรมการแพทย์ และยังมีอีกหนึ่งเป้าหมายภายใต้แผนการส่งเสริมคุณค่าที่ยั่งยืนในปี 2030 ขององค์กร คือการปรับปรุงการเข้าถึงการดูแลรักษาทางการแพทย์ทั่วโลก พร้อมช่วยลดภาระในการดูแลผู้ป่วย ด้วยการจัดหาโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมด้านการวินิจฉัยภาพทางการแพทย์โดยผสมผสานการใช้ AI (ปัญญาประดิษฐ์) และโซลูชันด้านไอที เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถตรวจหาโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะพันธกิจพื้นฐานของบริษัท คือ การแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาทางสังคมและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน

ซึ่งแผนการพัฒนานี้ ดูจะสามารถเกิดขึ้นได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม เพราะฟูจิฟิล์มนั้น ถือว่าเป็นผู้นำนวัตกรรมภาพถ่ายทางการแพทย์และเทคโนโลยี AI เพื่อการวินิจฉัยโรคอยู่แล้ว และยังเป็นที่น่าจับตามองถึงแผนในอนาคตข้างหน้าของฟูจิฟิล์ม ที่พร้อมเดินหน้าดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ฟูจิฟิล์ม และโลกสามารถรับมือกับความท้าทายและวิกฤตต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“สิ่งสำคัญในฐานะองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ฟูจิฟิล์มมุ่งมั่นอย่างจริงจังที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสังคมของประเทศไทย โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ ไม่ใช่แค่เพียงสร้างผลกระทบต่อตัวบุคคล แต่ยังสร้างผลเสียต่อสังคมในวงกว้าง เพื่อช่วยให้คนใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดียิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ๆ คืนกลับสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แคมเปญ NEVER STOP” มร. โซ มารูโอะ กรรมการผู้จัดการ ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) กล่าว

ฟูจิฟิล์ม เดินหน้าดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้สโลแกน Value from Innovation (นวัตกรรมอันทรงคุณค่า) และจะไม่หยุดยั้งพัฒนาและสรรค์สร้างโลกที่ดีขึ้น เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน ตามเจตนารมณ์หลัก NEVER STOP ที่เป็นดั่ง DNA ขององค์กร

ที่มา : ฟูจิฟิล์ม

เรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #ฟูจิฟิล์ม #Fujifilm