‘มาสด้า’ ส่ง CX-8 ลงเล่นตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ ชูเทคโนโลยีการขับขี่ที่ปลอดภัยถึงขีดสุด

ในปัจจุบันความต้องการของรถยนต์อเนกประสงค์เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย เพื่อที่จะรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ขับขี่ ทำให้รถยนต์ประเภท ‘ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์’ กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้ขับขี่
เฉกเช่นเดียวกับ ’มาสด้า’ แบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ที่ส่ง ‘Mazda CX-8’ รถยนต์ดีไซน์โฉบเฉี่ยว คล่องตัว ลงสู่ตลาดเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น ซึ่งความสำเร็จของมาสด้าที่มีต่อผู้ขับขี่ก็เริ่มเห็นได้ตั้งแต่ครึ่งแรกของปี 2565 เพราะทางแบรนด์สามารถสร้างยอดขายรถยนต์ทะลุ 20,000 คัน หรือเติบโตขึ้นกว่า 6.4%
เดิมทีหากเราพูดถึงรถยนต์ประเภท ‘ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์’ ก็มักจะนึกถึงกลุ่มผู้ขับขี่ที่มีครอบครัวใหญ่เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเราเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนรักการท่องเที่ยว กลุ่มคนรักเพื่อน ที่ไม่ว่าจะกลุ่มไหน ๆ ก็หันมาเลือกซื้อรถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การขับขี่มากขึ้นได้เช่นกัน และเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ทางมาสด้าได้ส่ง ‘Mazda CX-8’ ที่มาพร้อมจุดเด่นหลากหลายเอาใจผู้ขับขี่ ทำให้รู้สึกอุ่นใจได้ทุกครั้งที่นั่งอยู่
ส่องจุดเด่น Mazda CX-8 พร้อมรับกับผู้ขับขี่อย่างไรบ้าง
มาพร้อมกับการขับขี่นุ่มนวล และมอบความสบายให้กับผู้โดยสาร เนื่องด้วยเป็นรถที่ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่ง โดยไม่ได้มีโครงสร้างพื้นฐานมาจากรถกระบะเช่นเดียวกับ PPV จึงทำให้การขับขี่มีความนุ่มนวลมากกว่า
มีห้องโดยสารให้เลือกหลายแบบ ห้องโดยสารมีให้เลือกถึง 3 ทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น ห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (7-Seat) และแบบ 6 ที่นั่ง (6-Seat) ที่มาพร้อมกับ 2 ทางเลือก ได้แก่ ห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง Captain seat แยกอิสระซ้าย ขวา (Captain seats with center walk-through (6-Seat) ที่สามารถเดินเชื่อมได้ถึงเบาะนั่งแถวที่สาม และห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง Captain seat ปรับไฟฟ้า (Power captain seats (6-Seat) พร้อมคอนโซลกลาง ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของแต่ละครอบครัวได้อย่างลงตัวมีเทคโนโลยีความปลอดภัยอุ่นใจทุกครั้งที่นั่ง ถือเป็นจุดที่น่าสนใจของรถรุ่นนี้ เพราะด้วยระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันที่ล้ำสมัย i-Activsense รอบคัน ให้ความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถอเนกประสงค์ในระดับเดียวกัน อาทิ Advanced SCBS ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า และระบบ SCBS-R ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการชนขณะถอยหลัง ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มีให้มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น อีกทั้งยังมีระบบ MRCC แบบ Stop & Go ซึ่งเป็นระบบที่สามารถปรับความเร็วตามรถคันหน้าแบบอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง
มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ อย่าง Mazda Connect ช่วยให้ไม่พลาดทุกการติดต่อ สามารถอัปเดตข้อมูลข่าวสาร หรือ รับ-ส่งข้อความจากสมาร์ตโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth และเพลิดเพลินไปกับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลด้วย Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android AutoTM ที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน จะเห็นได้ว่าทางมาสด้าได้ปรับแต่งทุกฟังก์ชันของรถไปพร้อม ๆ กับการเปิดรับกลุ่มลูกค้าหลัก
ทั้งนี้ ทางมาสด้าได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายหลักของลูกค้า CX-8 ไว้อย่างชัดเจน
คือ กลุ่มลูกค้าครอบครัวใหญ่ ที่มองหาความสะดวกสบาย การเข้า-ออก หรือขึ้น-ลง สะดวกง่ายดาย ตอบโจทย์การใช้งานของคนในทุกช่วงวัย มีพื้นที่กว้างขวางและมีความอเนกประสงค์ตามแบบฉบับรถเอสยูวีที่เกินกว่ารถยนต์นั่งจะให้ได้ และมีความนุ่มนวลและสะดวกสบาย เนื่องจากถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่งอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม Mazda CX-8 จะครองใจผู้ขับขี่ไม่ได้เลยหากไม่ได้มีการพัฒนาตัวรถและบริการที่ดี โดยคุณคุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส เผยถึงเรื่องนี้ว่า “มาสด้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนารถยนต์และเทคโนโลยียานยนต์ที่ล้ำสมัยให้กับลูกค้าในประเทศไทย และลูกค้าทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมุ่งมั่นที่ส่งมอบประสบการณ์การบริการหลังการขายให้กับลูกค้าที่ดีที่สุด
ดังนั้น เราจะพัฒนารถของเราให้ดียิ่งขึ้นต่อไป โดยอาศัยการรับฟังเสียงและข้อคิดเห็นจากลูกค้าที่ใช้งานจริง เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นในทุก ๆ ด้าน”
นอกจากนี้ เราตั้งใจที่จะให้รถของเราเป็นรถที่มอบความสุขให้กับลูกค้า ตั้งแต่วันแรกไปจนตลอดอายุการใช้งาน ดังนั้น รถรุ่นนี้จึงมาพร้อมกับแพ็กเกจที่ช่วยลดภาระเรื่องค่าใช้จ่ายของลูกค้า ด้วยแพ็กเกจพิเศษ Mazda Ultimate Service (MUS อ่านมา เอ็ม-ยู-เอส) ที่มาพร้อมกับ
– รับประกันคุณภาพของรถยนต์ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ไร้กังวลในเรื่องของค่าซ่อม ค่าแรง และค่าอะไหล่ พร้อมคุ้มครองอะไหล่ที่บกพร่องตลอดอายุการคุ้มครอง
– ฟรีค่าบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ครอบคลุมทั้งค่าแรง ค่าอะไหล่ และผลิตภัณฑ์ของเหลว
– เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลา 5 ปี มอบความอุ่นใจเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ด้วยบริการที่ส่งตรงถึงคุณอย่างรวดเร็วทันใจ คุณธีร์กล่าว
จะเห็นได้ว่าตัว Mazda CX-8 ได้ถูกพัฒนาจนตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ พร้อมทางมาสด้ายังมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าไม่ว่าจะก่อนหรือหลังการขาย จึงไม่แปลกเลยว่าทำไม บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถึงควรคู่กับรางวัล Product of the Year Awards 2022
ที่มา : มาสด้า
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #มาสด้า