10 อันดับประเทศน่าทำงานที่สุดในโลก 2023

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในสังคมจำนวนมากถึงประเด็นเรื่องการแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการจำนวน 2 ครั้งต่อเดือน เนื่องจากรัฐบาลหวังจะแก้ปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้นในแวดวงข้าราชการ แต่กลับกลายเป็นว่าบรรดาข้าราชการไม่เห็นด้วยกับการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ เพราะมองว่านอกจากจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุดแล้ว ยังอาจสร้างความลำบากในการใช้ชีวิตให้กับข้าราชการมากกว่าเดิม

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่เพียงแค่ฟากฝั่งของข้าราชการเท่านั้นที่ประสบกับปัญหารายรับไม่สอดคล้องกับรายจ่าย แต่ยังรวมไปถึงอาชีพอื่น ๆ อีกมากมายที่ประสบกับปัญหาเหล่านี้ เนื่องจากค่าครองชีพที่นับวันก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในวันนี้ Business+ จึงได้นำการจัดอันดับ ’10 ประเทศที่น่าทำงานที่สุดในโลกประจำปี 2023’ มาฝากเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเลือกสถานที่ทำงานที่อาจตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้น

โดยการจัดอันดับนี้จัดขึ้นโดยเว็บไซต์ ‘Sambla’ ซึ่งได้นำปัจจัยในด้านต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วย อัตราการจ้างงาน, คะแนนความสุขของประเทศ, เงินเดือนโดยเฉลี่ย, ค่าดูแลเด็ก โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากรายได้ครัวเรือน, เปอร์เซ็นต์ส่วนต่างของค่าจ้างระหว่างเพศ และเงินเฟ้อของประเทศในปี 2022 มาคิดคำนวณเป็นคะแนนรวม (เต็ม 60 คะแนน) เพื่อเปรียบเทียบ ซึ่งได้ผลลัพธ์ดังนี้


1. ไอซ์แลนด์ (Iceland)
ไอซ์แลนด์ เป็นประเทศที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ในด้านอัตราการจ้างงาน ด้วยอัตราการจ้างงานที่สูงถึง 81.6%, มีอัตราคะแนนความสุขโดยรวมอยู่ที่ 7.56 ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลก, มีอัตราเงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 70,165 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,504,189 บาท (คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 35.69 บาท ต่อ 1ดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 14 ก.ย.66) ซึ่งอยู่ในอัตราที่สูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลก, ค่าดูแลเด็กอยู่ที่ 4.8% จากรายได้ครัวเรือน, ช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศอยู่ที่ 12.9%, เงินเฟ้อปี 2022 อยู่ที่ 8.34% ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ไอซ์แลนด์ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 1 ด้วยคะแนนรวม 54.2 คะแนน

2. เดนมาร์ก (Denmark)
เดนมาร์กมีอัตราการจ้างงานอยู่ที่ 75.2%, มีอัตราคะแนนความสุขโดยรวมอยู่ที่ 7.63, มีอัตราเงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 60,306 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,152,321 บาท, ค่าดูแลเด็กอยู่ที่ 9% จากรายได้ครัวเรือน, ช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศอยู่ที่ 5.1%, เงินเฟ้อปี 2022 อยู่ที่ 7.82% คิดเป็นคะแนนรวม 51.8 คะแนน

3. นอร์เวย์ (Norway)
นอร์เวย์มีอัตราการจ้างงานอยู่ที่ 75.8%, มีอัตราคะแนนความสุขโดยรวมอยู่ที่ 7.36, มีอัตราเงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 56,569 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,018,948 บาท, ค่าดูแลเด็กอยู่ที่ 6% จากรายได้ครัวเรือน, ช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศอยู่ที่ 4.9%, เงินเฟ้อปี 2022 อยู่ที่ 5.72% คิดเป็นคะแนนรวม 51.7 คะแนน

4. สวีเดน (Sweden)
สวีเดนมีอัตราการจ้างงานอยู่ที่ 75.8%, มีอัตราคะแนนความสุขโดยรวมอยู่ที่ 7.38, มีอัตราเงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 47,931 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,710,657 บาท, ค่าดูแลเด็กอยู่ที่ 4% จากรายได้ครัวเรือน, ช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศอยู่ที่ 7.4%, เงินเฟ้อปี 2022 อยู่ที่ 8.27% คิดเป็นคะแนนรวม 49.7 คะแนน

5. เยอรมนี (Germany)
เยอรมนีมีอัตราการจ้างงานอยู่ที่ 75.6%, มีอัตราคะแนนความสุขโดยรวมอยู่ที่ 7.03, มีอัตราเงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 55,680 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,987,219 บาท, ค่าดูแลเด็กอยู่ที่ 1.8% จากรายได้ครัวเรือน, ช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศอยู่ที่ 14.5%, เงินเฟ้อปี 2022 อยู่ที่ 8.48% คิดเป็นคะแนนรวม 48.6 คะแนน

6. ออสเตรีย (Austria)
ออสเตรียมีอัตราการจ้างงานอยู่ที่ 72.8%, มีอัตราคะแนนความสุขโดยรวมอยู่ที่ 7.16, มีอัตราเงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 57,187 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,041,004 บาท, ค่าดูแลเด็กอยู่ที่ 2.5% จากรายได้ครัวเรือน, ช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศอยู่ที่ 14.2%, เงินเฟ้อปี 2022 อยู่ที่ 8.51% คิดเป็นคะแนนรวม 48.4 คะแนน

7. เนเธอร์แลนด์ (Netherlands)
เนเธอร์แลนด์มีอัตราการจ้างงานอยู่ที่ 80%, มีอัตราคะแนนความสุขโดยรวมอยู่ที่ 7.41, มีอัตราเงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 60,865 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,172,272 บาท, ค่าดูแลเด็กอยู่ที่ 14.5% จากรายได้ครัวเรือน, ช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศอยู่ที่ 13.1%, เงินเฟ้อปี 2022 อยู่ที่ 12.24% คิดเป็นคะแนนรวม 47.6 คะแนน

8. สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
สวิตเซอร์แลนด์มีอัตราการจ้างงานอยู่ที่ 79.8%, มีอัตราคะแนนความสุขโดยรวมอยู่ที่ 7.51, มีอัตราเงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 67,564 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,411,359 บาท, ค่าดูแลเด็กอยู่ที่ 25.5% จากรายได้ครัวเรือน, ช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศอยู่ที่ 14.4%, เงินเฟ้อปี 2022 อยู่ที่ 2.88% คิดเป็นคะแนนรวม 46.2 คะแนน

9. เบลเยียม (Belgium)
เบลเยียมมีอัตราการจ้างงานอยู่ที่ 65.2%, มีอัตราคะแนนความสุขโดยรวมอยู่ที่ 6.8, มีอัตราเงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 58,288  ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,080,299 บาท, ค่าดูแลเด็กอยู่ที่ 11% จากรายได้ครัวเรือน, ช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศอยู่ที่ 3.8%, เงินเฟ้อปี 2022 อยู่ที่ 9.91% คิดเป็นคะแนนรวม 45.5 คะแนน

10. ออสเตรเลีย (Australia)
ออสเตรเลียมีอัตราการจ้างงานอยู่ที่ 74.6%, มีอัตราคะแนนความสุขโดยรวมอยู่ที่ 7.16, มีอัตราเงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 55,451 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,979,046 บาท, ค่าดูแลเด็กอยู่ที่ 16% จากรายได้ครัวเรือน, ช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศอยู่ที่ 13.9%, เงินเฟ้อปี 2022 อยู่ที่ 6.48% คิดเป็นคะแนนรวม 44.3 คะแนน

นอกจากคะแนนด้านต่าง ๆ ที่ถูกนำมาคิดแล้ว ประเทศเหล่านี้ยังมีระบบสวัสดิการที่แข็งแกร่ง, มีอัตราการเกิดอาชญากรรมค่อนข้างต่ำ รวมถึงมีอัตราการว่างงานต่ำ ซึ่งหากนำสิ่งเหล่านี้มารวมด้วยแล้ว นอกจากประเทศเหล่านี้จะเป็นประเทศที่น่าทำงานที่สุดในปี 2023 แล้ว ยังถือเป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีซึ่งเกิดจากสภาพสังคมที่ดีและดัชนีชี้วัดความสุขของประชากรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง

อย่างไรก็ดี การจัดอันดับนี้เป็นเพียงการนำเสนอมุมมองส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งยังไม่ได้นับรวมไปถึงจำนวนค่าครองชีพที่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลที่ยังต้องนำมาคิดคำนวณ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม, สภาพอากาศ, สภาพแวดล้อมของประเทศเหล่านั้นที่ยังต้องนำมาประกอบการตัดสินใจอีกด้วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้จำเป็นต้องนำมาชั่งน้ำหนักถึงความคุ้มค่าในระยะยาว เนื่องจากการทำงานเป็นส่วนที่สำคัญเป็นอย่างมากในชีวิตของผู้คน และอาจเกี่ยวข้องกับการย้ายถิ่นฐานถาวรในบางคนนั่นเอง

ที่มา : sambla

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

#Businessplus #TheBusinessplus #นิตยสารBusinessplus #10อันดับประเทศน่าทำงานที่สุดในโลก2023 #ประเทศที่น่าทำงาน #Top10