The Business Plus บิสิเนสพลัส
กลายเป็นข่าวร้อนสะเทือนวงการการเมืองเลยทีเดียว สำหรับกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามคำร้อง นับแต่วันที่ศาลหยุดสั่งปฏิบัติหน้าที่ คือวันที่ 3 มีนาคม 2566 กรณีถือหุ้นและเจ้าของ ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชัน’
ทั้งนี้ คำพิพากษาดังกล่าว สืบเนื่องจากกรณีที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่า ‘นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของ ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น’ อย่างแท้จริง
โดยเหตุที่นำมาซึ่งคำพิพากษาในท้ายที่สุด หากจะให้ใช้คำที่เรียบง่าย อาจกล่าวได้ว่าเมื่อมีการสืบสาวราวเรื่องไปยังเบื้องลึกเบื้องหลังแล้ว พบว่า ‘นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ ซึ่งเป็นผู้ถูกร้อง ยังคงมีความเกี่ยวข้องกับ ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น’ โดยผลคำวินิจฉัยตอนหนึ่งได้มีการเปิดเผยถึงข้อพิรุธหลายประการ ประกอบกับพฤติการณ์แวดล้อมทั้งปวงแห่งคดี จึงฟังได้ว่านายศักดิ์สยาม ซึ่งเป็นผู้ถูกร้อง กับ ‘นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์’ ซึ่งเป็นคนสนิทของนายศักดิ์สยามที่ได้มีการซื้อขายหุ้นกันก่อนหน้านี้ ตกลงนำเงินของผู้ถูกร้อง ทำธุรกรรมต่าง ๆ ในนามของนายศุภวัฒน์
ทั้งนี้ หนึ่งในการทำธุรกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับทั้ง 2 และ ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชัน’ คือกรณีที่นายศุภวัฒน์ได้มีการนำเงินซื้อกองทุน TMB-T-ES-DPlus และกองทุน TMB-T-ES-IPlus ในชื่อของตนเอง และได้ทำการขายกองทุนดังกล่าวเพื่อชำระค่าหุ้นให้กับนายศักดิ์สยามเป็นจำนวนเงิน 119,500,000 บาท
ดังนั้น ศาลฯจึงวินิจฉัยว่านายศักดิ์สยามซึ่งเป็นผู้ถูกร้องจึงยังคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นใน ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชัน’ และดูแลบริษัทดังกล่าวแทนผู้ถูกร้องมาโดยตลอด อันเป็นการถือหุ้นของรัฐมนตรีที่อยู่ในความครอบครอง หรือดูแลของบุคคลอื่นไม่ว่าโดยทางใด ๆ อันเป็นการกระทำต้องห้ามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากเห็นว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5)
อนึ่ง จากกรณีดังกล่าว Business+ ได้มีการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของ ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น’ พร้อมงบการเงิน 5 ปีย้อนหลังผ่านเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น’ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2539 โดยปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 159.5 ล้านบาท ขณะที่วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบริษัทในการจดทะเบียนเริ่มแรก คือ การขายส่งเชื้อเพลิงเหลว เช่น แนฟทา น้ำมันดิบ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว/น้ำมันโซล่า น้ำมันเบนซิน น้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ ต่อมาได้เปลี่ยนวัตถุประสงค์ใหม่เป็นธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปี (2561-2565) ของ ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น’ พบว่า
ปี 2561 มีรายได้รวมอยู่ที่ 480.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.03% จากปี 2560 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 340.68 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 15.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.09% จากปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 10.26 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 379.13 ล้านบาท ลดลง 21.09% จากปี 2561 และมีกำไรสุทธิ 10.39 ล้านบาท ลดลง 34.26% จากปี 2561
ปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 522.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.94% จากปี 2562 และมีกำไรสุทธิ 17.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.70% จากปี 2562
ปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 629.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.36% จากปี 2563 และมีกำไรสุทธิ 20.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.34% จากปี 2563
ปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 564.79 ล้านบาท ลดลง 10.27% จากปี 2564 และมีกำไรสุทธิ 17.53 ล้านบาท ลดลง 15.91% จากปี 2564
ที่มา : isranews, DBD
เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/ภ
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/
#Businessplus #TheBusinessplus #นิตยสารBusinessplus #ศักดิ์สยาม #ศักดิ์สยามชิดชอบ #บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น
