BMW กับกลยุทธ์ครองใจลูกค้า สู่เส้นทางแชมป์ตลาดรถหรู 3 ปีซ้อน!!

หากพูดถึงแบรนด์รถหรูต้องมีชื่อ ‘บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย’ หรือ BMW อย่างแน่นอน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ แห่งนี้ได้งัดหลายกลยุทธ์มาบริหาร และดำเนินธุรกิจ จนสามารถครองแชมป์ตลาดรถหรู 2 ปีซ้อน และขณะนี้พวกเขากำลังมองหาหนทางรักษาแชมป์อีกปี

แม้หนทางจะยาวนานอีกกว่า 10 เดือน แต่ต้องบอกว่า เป้าหมายที่วางไว้นี้จะสัมฤทธิ์ผลได้ไม่ยาก

หากจับจังหวะคำกล่าวของ ‘มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา’ ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่กล่าวว่า ปี 2564 ที่ผ่านมา BMW ได้ดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย จนประสบความสำเร็จทั้งด้านการขายและการให้บริการ ส่งผลให้ BMWเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมนี้

ด้วยยอดจดทะเบียน 9,982 คันในปี 2564 ครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้ถึง 41.4% ของตลาดโดยรวม

ส่วนแบรนด์ ‘มินิ’ ก็ประสบความสำเร็จมาก ด้วยยอดจดทะเบียน 1,050 คัน ตามด้วยบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มียอดจดทะเบียน 1,197 คัน

และสิ่งที่การันตีว่า แบรนด์แห่งนี้ครองใจตลาดรถยนต์หรู คือ คะแนนความพึงพอใจของผู้บริโภค (NPS Score) ที่พุ่งขึ้นสูงสุดทั้งด้านการขายและการให้บริการหลังการขาย

ส่วนแผนงานหลัก ๆ ปี 2565 คือ การเปิดตัวโมเดลใหม่ 10 รุ่น ทั้งจากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเดอร์ราด รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อีก 2 รุ่น

ซึ่ง BMW ได้ผสมผสานการทำงานในบริบทใหม่ มีทั้งรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถไฟฟ้า เพื่อนำเสนอทางเลือกที่ครอบคลุมให้แก่ลูกค้า

หมายความว่า ธุรกิจ Cash Cow เดิม บีเอ็มดับเบิลยู ก็ไม่ทิ้ง ส่วนธุรกิจ New Growth คือ รถยนต์ไฟฟ้า ก็จะมีความพร้อมมากขึ้นจากโมเดลที่จะนำเข้ามาจำหน่ายเพิ่ม นั่นเอง

โดยสิ่งที่ทำให้ BMW ครองตลาดรถหรูได้ต่อเนื่อง มาจากการตระหนักดีว่า ที่ผ่านมาลูกค้ามีความต้องการที่แตกต่างกัน

ดังนั้น การเตรียมความพร้อมที่ชัดเจนเหล่านี้คือ การเสนอพลังแห่งทางเลือก (Power of Choice) ให้กับลูกค้าตลอดเส้นทางแห่งการเดินทางของพวกเขาทุกคน

ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ BMW มียอดขายเพิ่มขึ้น มาจากกลยุทธ์โปรโมชันที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงรถหรูได้ง่ายขึ้น

โดยยอดสินเชื่อของธุรกิจใหม่ ปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ระบุว่า เติบโตเพิ่มขึ้น 13%

ส่งผลให้ยอดรวมของสินเชื่อใหม่คิดเป็นมูลค่า 19,000 ล้านบาท โดยมียอดสินเชื่อรวมในพอร์ตของบริษัทฯ เท่ากับ 52,000 ล้านบาท

การขยับตัวของบีเอ็มดับเบิลยู ทำให้เราเห็นว่า โลกที่หมุนเร็วกว่าในอดีต แต่ บีเอ็มดับเบิลยู วิ่งเร็วกว่า ด้วยรูปแบบการบริหารแบบ Aggressive มากขึ้น บีเอ็มดับเบิลยู จึงมองไกลไปถึงการเป็นแชมป์รถหรู 3 ปีซ้อน

ที่มา : BMW

ติดตาม Business+ ได้ที่ thebusinessplus.com
Line Business+ ได้ที่ https://lin.ee/pbIHCuS

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #อุตสาหกรรมรถยนต์