ทำไม BMW จึงเป็นแชมป์รถพรีเมี่ยม 2 ปีซ้อน?

ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังรักษาตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทยต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน

โดยมียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 11,032 คัน แบ่งเป็นยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 9,982 คันและมินิ 1,050 คัน ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มียอดส่งมอบ 1,197 คัน

 

ถามว่า Key Success Factors อยู่ตรงไหน

อันดับแรก ต้องมองถึงตัววัดผลด้านความพึงพอใจของลูกค้า หรือ NPS Score ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการที่ บีเอ็มดับเบิลยู ยึดหลักการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อมนำเสนอยนตรกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

รวมถึงการผสานนวัตกรรมทางดิจิทัลในการให้บริการ เพื่อเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและหลากหลายให้แก่ลูกค้าที่สำคัญ ยังคงมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคม แน่นอนว่า เพียงแค่นี้ยังคงไม่พอเพียง หาก บีเอ็มดับเบิลยู ต้องการความสำเร็จเพิ่มมากขึ้น มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย บอกไว้อย่างน่าสนใจว่า

“การเป็นผู้นำในตลาดพรีเมี่ยม สะท้อนให้เห็นถึงความรวดเร็วในการปรับตัวต่อสถานการณ์ใหม่ ๆ รวมถึงการประยุกต์ผลิตภัณฑ์ของเรา แม้ว่าสถานการณ์ของปี 2565 ยังคงไม่แน่นอน แต่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมุ่งหมายที่จะนำเสนอยานยนต์ เทคโนโลยี และการบริการที่ดีที่สุด เพื่อมอบประสบการณ์อันเป็นเลิศให้แก่ผู้ขับขี่ทุกท่านไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ยานยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (BEV) ต่อไป”

จะเห็นได้ว่า นอกจากทางเลือกที่ยืดหยุ่น ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมทั้งความต้องการด้านยนตรกรรมและไลฟ์สไตล์ จึงไม่แปลกว่า ทำไม BMW จึงเป็นแชมป์รถพรีเมี่ยม 2 ปีซ้อน