BKI ต่อยอดพัฒนากรมธรรม์ 3 โรคกวนใจเพิ่มภัยโควิด รองรับสถานการณ์ปัจจุบัน

ดร.อภิสิทธิ์  อนันตนาถรัตน  กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในปัจจุบันที่ยังคงต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อที่อาจจะเพิ่มขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาต่อยอดขยายความคุ้มครองด้านการประกันภัยเพื่อดูแลลูกค้าและประชาชนให้ได้รับความคุ้มครองอย่างครอบคลุมในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่จะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาดต่างๆ ที่มาในช่วงฤดูฝน ตลอดจนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ของโลกที่ยังไม่คลี่คลายและอาจจะกลับมาระบาดใหม่ได้อีกครั้ง ดังนั้นจึงต้องเตรียมตัวรับมือเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ

ซึ่งโรคที่มักจะระบาดในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคที่มียุงเป็นพาหะ เช่น ไข้เลือดออก ชิคุนกุนยา เป็นต้น และโรคมือ เท้า ปากเปื่อย  โดยโรคระบาดเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะไม่รุนแรงมากแต่ก็ค่อนข้างมีความเสี่ยงและอาจจะทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้สำหรับคนบางกลุ่มโดยเฉพาะเด็กและผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะคนไข้ที่เป็นโรคเหล่านี้อาจจะต้องใช้เวลารักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างน้อย 2-7 วัน หรืออาจจะนานกว่า 1 สัปดาห์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น การแสดงอาการ ความรุนแรงของอาการ เป็นต้น และค่ารักษาโดยเฉพาะในโรงพยาบาลเอกชนมีค่าใช้จ่ายต่อวันค่อนข้างสูง ยิ่งสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อีกด้วยแล้ว ยิ่งต้องระมัดระวังและดูแลสุขภาพและคนใกล้ชิดให้มากขึ้นกว่าเดิม

บริษัทฯ จึงได้พัฒนาแผนประกันภัยใหม่ ภายใต้ชื่อว่า 3 โรคกวนใจ เพิ่มภัยโควิด ที่ยังคงใส่ใจในรายละเอียดที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและยึดถือประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญเช่นเดิม ด้วยจุดเด่นที่สำคัญเหมาะสมกับสถานการณ์ความเสี่ยง ได้แก่

  • ความคุ้มครองที่เจาะจงเฉพาะโรคได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่  โรคมือ เท้า ปากเปื่อย  โรคติดต่อที่มียุง
    เป็นพาหะ และอุ่นใจเพิ่มขึ้นด้วยความคุ้มครองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
  • ให้ความคุ้มครองตั้งแต่อายุ 6 – 70 ปี
  • ระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือน
  • หมดความกังวลใจ เมื่อนอนโรงพยาบาลจะได้รับเงินชดเชยปลอบขวัญและเงินชดเชยรายวัน
    เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล
  • ซื้อได้ง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และไม่ต้องตรวจสุขภาพ
  • ผลประโยชน์ที่จะสามารถบรรเทาค่าใช้จ่ายได้ตามเหตุการณ์จริง

ด้วยจุดเด่นดังกล่าว บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี โดยคาดว่าจะมีเบี้ยประกันภัยจากการขายผ่านทุกช่องทาง อยู่ที่ 100 ล้านบาท