กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ยึดความต้องการของลูกค้า พัฒนาสินค้าและบริการ

ความต้องการของลูกค้า ถือเป็นปัจจัยแรก ๆ ที่ผู้ประกอบการควรคำนำถึง โดยเฉพาะธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าโดยตรง อย่างเช่น ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง เนื่องจากในการสร้างยอดขายให้เติบโตจำเป็นจะต้องอาศัยปริมาณการซื้อจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การนำเอาความต้องการของลูกค้าเพื่อมาปรับปรุงและพัฒนาสินค้าและบริการอย่างสม่ำเสมอ ย่อมสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี และนำมาซึ่งแรงดึงดูดต่อการซื้อสินค้าจากลูกค้าตามมา ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ ‘บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์’ ยึดมั่นและนำพาธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

 

คุณวิภาดา ดวงรัตน์ รองประธานกรรมการบริหารคนที่ 1 บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในการทำธุรกิจของบิ๊กซี สิ่งสำคัญที่สุดก็ คือ ลูกค้า โดยบิ๊กซีพยายามที่จะตอบโจทย์ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจในการซื้อสินค้าและบริการของบิ๊กซีมากที่สุด ด้วยการปรับกลยุทธ์ รวมถึงปรับตัวสินค้าต่าง ๆ ให้ถูกต้อง ตรงใจลูกค้ามากที่สุด โดยอาศัยฐานข้อมูลลูกค้าของบิ๊กซีที่มีอยู่เกือบ 20 ล้านคนในปัจจุบัน เพื่อนำข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้มาประมวลผลและนำไปปรับปรุง พัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด เนื่องจากพฤติกรรมลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้บิ๊กซีมีการปรับกลยุทธ์ หรือการนำสินค้าที่หลากหลายมาจำหน่ายมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงในส่วนของพื้นที่ขาย พื้นที่เช่าให้มีบรรยากาศภายในร้านที่ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี ๆ ใหม่ ๆ

 

อีกทั้งในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ลูกค้ามีพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยลูกค้าจะทำการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทางบิ๊กซีก็ได้มีการปรับตัวในส่วนนี้เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าด้วย โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ผ่านบริการในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าโดยการเดินทางมาซื้อที่ร้านโดยตรง หรือทำการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์โดยบิ๊กซีจะทำการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าถึงที่ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์แล้วมารับสินค้าด้วยตนเองที่สาขาใกล้บ้านได้เช่นกัน

 

สำหรับร้านค้าของบิ๊กซี ในปัจจุบันบิ๊กซีได้มีรูปแบบของร้านค้าที่หลากหลายมากขึ้น ได้แก่ รูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตที่เป็นร้านค้าขนาดใหญ่ ซึ่งทางบิ๊กซีได้มีการปรับปรุงในส่วนของร้านค้าสาขาเดิมให้ดูดีทันสมัย ทำให้ลูกค้าอยากเข้าใช้บริการมากขึ้น, บิ๊กซี ฟู้ดเพลส ซึ่งเป็นร้านค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าระดับที่สูงขึ้นมา โดยในรูปแบบนี้จะมีการจำหน่ายสินค้าระดับพรีเมียมมากขึ้น, มินิบิ๊กซี เป็นร้านค้าขนาดเล็กที่มีความใกล้ชิดกับชุมชน โดยร้านค้ารูปแบบนี้จะตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่ต้องการเดินเลือกซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ แต่ต้องการซื้อสินค้าในร้านเล็ก ๆ ที่มีความสะดวกมากขึ้น แต่ยังมีสินค้าให้เลือกซื้อได้อย่างหลากหลาย ไม่ต่างจากไฮเปอร์มาร์เก็ต, MM Food Service เป็นร้านค้าในรูปแบบของการขายส่ง โดยเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบกิจการ เป็นต้น

 

นอกจากนี้ บิ๊กซียังมีบริการเพิ่มเติมไว้คอยให้บริการลูกค้า คือ บริการรับชำระบิลต่าง ๆ หรือการบริการส่งพัสดุ รวมถึงบริการเติมเงินต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยในการรับชำระค่าเทอมผ่านทางบิ๊กซี ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เนื่องจากมีอัตราค่าบริการที่จับต้องได้

 

ทั้งนี้ การที่บิ๊กซีมีร้านค้าคอยให้บริการในรูปแบบที่หลากหลาย และบริการเพิ่มเติมที่เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ถือเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี เนื่องจากลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการได้ผ่านรูปแบบร้านค้าที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในการซื้อสินค้าและบริการที่บิ๊กซีได้ดียิ่งขึ้น

 

สำหรับกลุ่มลูกค้าของบิ๊กซีที่แต่เดิมมักจะเป็นกลุ่มแม่บ้าน แต่เนื่องจากการปรับปรุงพัฒนาสินค้าและการบริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงบรรยากาศภายในร้านค้าเช่าให้ดูทันสมัย ดึงดูดคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ในปัจจุบันบิ๊กซีมีลูกค้าที่มาใช้บริการหลากหลายขึ้น เช่น กลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว, กลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ การที่มีช่องทางออนไลน์ และดิลิเวอรีเพิ่มเข้ามา ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้บิ๊กซีมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น

 

“เรายังคงจะขยายการเติบโตต่อไป ทั้งรูปแบบของไฮเปอร์มาร์เก็ต, มินิบิ๊กซี รวมทั้งบิ๊กซี ฟู้ดเพลส ที่จะมีการขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดที่ยังไม่มีบิ๊กซี ซึ่งจะต้องทำการสำรวจว่าเป็นกลุ่มลูกค้าแบบไหน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด” คุณวิภาดา กล่าวทิ้งท้าย