‘บางจาก’ มองก๊าซธรรมชาติ-น้ำมันเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ ไปอีกหลายทศวรรษ เน้นสร้างสมดุลความมั่นคงพลังงานและความยั่งยืน

ในปัจจุบันหลายบริษัทต่างเริ่มผันตัวเองไปสู่พลังงานมากขึ้น แต่การจะปรับเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดไม่สามารถเกิดขึ้นได้ชั่วข้ามคืน ทำให้โลกจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาพลังงานฟอสซิลไปอีกระยะหนึ่ง

ดังนั้น สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญควบคู่ไปด้วย คือการดูดซับคาร์บอนทั้งทางธรรมชาติและด้วยเทคโนโลยี ซึ่งจะทำให้พลังงานฟอสซิลสามารถสร้างสมดุลให้กับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานได้ เป็นโจทย์ที่มนุษย์ต้องพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตประจำวันหรือการทำธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาสภาพอากาศ

สำหรับบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ได้จัดงานสัมมนาประจำปีครั้งที่ 12 “Energy Security and Carbon Sequestration” เพื่อสะท้อนความสำคัญของการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานที่กำลังเป็นประเด็นท้าทายที่ทั่วโลกต้องเผชิญ โดยการสัมมนาครั้งนี้มีคอนเซปในหัวข้อ “Sustainable Finance Taxonomy”

ทั้งนี้ คุณชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บรรยายพิเศษในหัวข้อ “Energy Security and Carbon Sequestration” ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่โลกจะยังต้องพึ่งพาพลังงานฟอสซิลไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดไม่สามารถเกิดขึ้นได้ชั่วข้ามคืน แต่การดูดซับคาร์บอนทั้งทางธรรมชาติและด้วยเทคโนโลยี จะทำให้พลังงานฟอสซิลสามารถสร้างสมดุลให้กับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานได้

โดยงานสัมมนาประจำปีของกลุ่มบริษัทบางจากในปีนี้จัดขึ้นเพื่อสะท้อนความสำคัญของการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานที่กำลังเป็นประเด็นท้าทายที่ทั่วโลกต้องเผชิญ เมื่อแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานทั่วโลกยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจะยังคงเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของโลกไปอีกหลายทศวรรษ มนุษย์จึงต้องพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตประจำวันหรือการทำธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาสภาพอากาศ รวมถึงการใช้การดูดซับทางธรรมชาติร่วมสร้างความยั่งยืนให้แก่โลก ควบคู่กันกับการขยายการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและสร้างทางเลือกของแหล่งพลังงานเพื่อความยั่งยืน ขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดเพื่อไปสู่เป้าหมาย Net Zero

ซึ่งในช่วงรอยต่อการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาดนั้นต้องใช้ทั้งเวลาและเงินทุนมหาศาล รวมถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยมี Taxonomy หรือการจัดหมวดหมู่ธุรกิจการลงทุนที่ช่วยลดคาร์บอนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญที่ชวยเร่งให้การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานได้เร็วขึ้น สร้างมูลค่าให้การลงทุนที่จะช่วยให้เกิดการลดคาร์บอน ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนมากขึ้นผ่านสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ รวมถึงการกำหนดนโยบายด้านการเงิน เช่น ภาษีคาร์บอน (carbon tax) และการสนับสนุนการซื้อขายคาร์บอนเครดิตจะทำให้มีการจัดสรรทรัพยากรโดยภาคเอกชนกันเอง โดยธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนมาก นำเงินส่วนหนึ่งมาซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อเป็นการชดเชย และนำเงินส่วนนั้นมาพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาด ช่วยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านอีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทบางจาก จึงให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างความท้าทายด้านพลังงาน 3 ประการ (Balancing the Energy Trilemma) ได้แก่ ความมั่นคงด้านพลังงาน (Energy Security) การเข้าถึงพลังงาน (Energy Affordability) และความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (Environmental Sustainability) เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการนำพลังงานจากโลกมาใช้ ซึ่งมีผลต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและดูแลโลกใบนี้ให้ยั่งยืน และได้มีการตั้งเป้าหมายสู่ Net Zero ในปีค.ศ. 2050 (Carbon Neutrality ในปี 2030) ผ่านแผนงาน BCP 316 NET
ภายในงาน ยังได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มาร่วมนำเสนอข้อมูลล่าสุดทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ ในหัวข้อ “Global Energy Outlook and Energy Transition”

โดย Mr. Roberto Bocca, Head of Platform for Shaping the Future of Energy, Materials and Infrastructure, World Economic Forum องค์กรระดับโลกที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในเรื่องการดำเนินกิจกรรมเพื่อเสนอแนะทิศทางในการกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาในระดับระหว่างประเทศ หัวข้อ “Gold Hydrogen: Key to Net Zero Economy” โดย Mr. Moji Karimi, Co-Founder and CEO, Cemvita Factory Inc. สตาร์ทอัพจากสหรัฐอเมริกา หัวข้อ “Advancing a Lower Carbon Future with Carbon Capture, Utilization and Storage (CCUS)” โดย Mr. Robert Dobrik, Chief Executive Officer, Star Petroleum Refining Co., Ltd. หัวข้อ “Innovating CO2 Recovery Technology” โดย Mr. Aniruddha Sharma, Co-Founder and CEO, Carbon Clean Solutions Limited สตาร์ทอัพจากสหราชอาณาจักร และหัวข้อ “Nature-Based Solutions” โดยผู้บริหารจากเชลล์ Ms. Flora Ji Qing, Global Vice President, Nature-Based Solutions

ทั้งนี้ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดสัมมนาสิ่งแวดล้อมเป็นประจำปีทุกปีตั้งแต่ ปี 2554 เป็นต้นมา เพื่อสะท้อนให้สาธารณชนได้เห็นถึงประเด็นด้านสังคมหรือสิ่งแวดล้อมที่ควรตระหนักและร่วมมือกันแก้ไขหรือพัฒนา เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากทุกภาคส่วน เช่น เรื่องปัญหาการจัดการขยะ ภัยแล้ง การจัดการน้ำ นวัตกรรมและภาวะโลกร้อน ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bangchak.co.th และรับชมย้อนหลังได้ทาง Facebook: Bangchak

ที่มา : บางจาก

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #บางจาก #BCP