ส่อง 6 แบงก์ เจ้าไหนแจกปันผลครึ่งปีแรกปังสุด?

เข้าสู่ช่วงประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งแรกของปี 2566 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) โดยจากผลการสำรวจธนาคารพาณิชย์ 6 แห่งของไทย ได้ประกาศจ่ายปันผลออกมาแล้ว ซึ่งการจ่ายเงินปันผลนั้นก็ขึ้นอยู่กับผลประกอบการในช่วงนั้น ๆ ทั้งนี้พบว่าอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ในช่วงระหว่าง 2.58-7.60% โดย 6 ธนาคารพาณิชย์มีดังนี้

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.4 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 6 กันยายน 2566 และจ่ายปันผล 21 กันยายน 2566

โดย BAY มีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ 2.58% ต่อปี ซึ่งคำนวณจากราคาปิดตลาดฯ ณ วันที่ 1 กันยายน อยู่ที่ 33 บาท

สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกปี 2566 ของ BAY มีรายได้อยู่ที่ 62,191 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 17,101 ล้านบาท เป็นผลมาจากจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รวมทั้งการเริ่มรับรู้รายได้เพิ่มเติมซึ่งเป็นผลจากการควบรวมธุรกิจในต่างประเทศในไตรมาส 2 อีกทั้งสินเชื่อก็มีการขยายตัวที่โดดเด่น

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.5 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 13 กันยายน 2566 และจ่ายปันผล 29 กันยายน 2566

โดย KBANK มีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ 3.09% ต่อปี ซึ่งคำนวณจากราคาปิดตลาดฯ ณ วันที่ 1 กันยายน อยู่ที่ 129.50 บาท

สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกปี 2566 ของ KBANK มีรายได้อยู่ที่ 94,644 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 21,735 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น 32.77%

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 6 กันยายน 2566 และจ่ายปันผล 21 กันยายน 2566

โดย KKP มีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ 5.44% ต่อปี ซึ่งคำนวณจากราคาปิดตลาดฯ ณ วันที่ 1 กันยายน อยู่ที่ 59.75 บาท

สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกปี 2566 ของ KKP มีรายได้อยู่ที่ 14,364 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 3,493 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและผลขาดทุน จากการขายทรัพย์สินรอการขายส่งผลให้กำไรสุทธิปรับตัลดลง

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 2 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 6 กันยายน 2566 และจ่ายปันผล 22 กันยายน 2566

โดย BBL มีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ 2.66% ต่อปี ซึ่งคำนวณจากราคาปิดตลาดฯ ณ วันที่ 1 กันยายน อยู่ที่ 169.50 บาท

สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกปี 2566 BBL มีกำไรสุทธิ 21,423 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 36% สอดคล้องกับภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจากอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นสุทธิกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนเงินรับฝาก และการปรับอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเข้าสู่ระดับเดิมตั้งแต่ต้นปี 2566

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 2 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 6 กันยายน 2566 และจ่ายปันผล 22 กันยายน 2566

โดย TISCO มีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ 7.60% ต่อปี ซึ่งคำนวณจากราคาปิดตลาดฯ ณ วันที่ 1 กันยายน อยู่ที่ 102 บาท

สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 กลุ่มทิสโก้มีรายได้อยู่ที่ 9,413 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 3,646 ล้านบาท เป็นผลมาจากสินเชื่อขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งจากความต่อเนื่องของการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ รวมถึงสินเชื่อรถมือสอง และสินเชื่อรถจักรยานยนต์มีการขยายตัว

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 2.5 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 13 กันยายน 2566 และจ่ายปันผล 29 กันยายน 2566

โดย SCB มีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ 5.67% ต่อปี ซึ่งคำนวณจากราคาปิดตลาดฯ ณ วันที่ 1 กันยายน อยู่ที่ 118 บาท

สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกปี 2566 ของ SCB มีรายได้อยู่ที่ 85,216 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 22,863 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น รวมทั้งรายได้จากการลงทุนก็เพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า TISCO เป็นธนาคารที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดในครึ่งแรกของปี 2566 ขณะที่ผลประกอบการก็ยังคงเติบโต ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องมาติดตามกันต่อว่าในครึ่งหลังของปี 2566 ทาง 6 ธนาคารจะผลักดันการเติบโตของผลการดำเนินงานได้อีกมากน้อยเพียงใด 

.

ที่มา : SET

.

เขียนและเรียบเรียง : ศิริวรรณ อรรถสุวรรณ