AIT ชี้ TKC เข้าถือหุ้นเป็น Strategic Partner หนุนขีดความสามารถการแข่งขัน ด้าน ‘ศิริพงษ์’ ซีอีโอ ย้ำชัด นั่งแท่นเป็นแม่ทัพเร่งขับเคลื่อนธุรกิจการเติบโต

‘บมจ.แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี’ (AIT) ประกาศชัดทีมผู้บริหารยังคงบริหารงานต่อเนื่อง หลังปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดย บมจ. เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส หรือ TKC จะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 24.95% (หลังธุรกรรมทุกอย่างเสร็จสิ้น) เพื่อเป็น Strategic Partner นำความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 บริษัทเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันรองรับงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในไทย เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเติบโต ด้าน “ศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์” ผู้บริหาร AIT ยืนยันไม่ได้ขายหุ้นในบริษัทฯ

AIT

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ AIT โดย บมจ.เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส หรือ TKC จะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 24.95% (หลังธุรกรรมทุกอย่างเสร็จสิ้น) เพื่อร่วมเป็น Strategic Partner ในการดำเนินธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจร หรือ System Integrator (SI) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้โครงสร้างการบริหารของทีมผู้บริหารชุดเดิมที่ยังคงทำหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการดำเนินงานและบริหารงานเช่นเดิม โดยตนเองและกลุ่มอุ่นทรพันธุ์ยังคงถือหุ้นในบริษัทฯ รวมคิดเป็นสัดส่วน 7.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ในขณะเดียวกันกลุ่มอุ่นทรพันธุ์เข้าถือหุ้น TKC โดยคิดเป็นสัดส่วน 4.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดเช่นกัน

การเข้ามาถือหุ้น AIT ของ TKC จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและศักยภาพการเติบโตที่ดียิ่งขึ้น จากการผสานความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 บริษัทฯ เพื่อร่วมกันขยายธุรกิจเพื่อก้าวสู่ผู้นำอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทยในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทฯ ถือเป็นเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับต้นๆ ของประเทศในการออกแบบและติดตั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญระดับประเทศ ที่ผ่านมาได้ลงทุนพัฒนา platform เกี่ยวกับ IOT (Internet of Things) Big Data และAI/Data Analytics พร้อมมุ่งมั่นสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจทางวิศวกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการรับเหมาสายสัญญาณลงดิน การสร้างสถานีไฟฟ้า รวมถึงการติดตั้ง Core ICT ในหลายๆ หน่วยงาน ส่วน TKC ก็มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ

“การผนึกกำลังกันของ AIT และ TKC จะช่วยเสริมความแข็งแกร่ง และขีดความสามารถการแข่งขันเพื่อรองรับแผนงานขยายธุรกิจในอนาคต ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้อย่างรวดเร็ว เป็นการตอกย้ำภาพผู้ประกอบการชั้นนำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร” นายศิริพงษ์ กล่าว