การร่วมมือครั้งใหญ่ของ AIS กับภาครัฐ! ยกระดับชีวิตคนไทย-ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วย “ภารกิจคิดเผื่อ”

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของคนทั่วโลกมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้นเท่านั้น AIS ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ประกาศความร่วมมือระหว่าง AIS Academy กับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อที่จะขับเคลื่อนโครงการ “ภารกิจคิดเผื่อ” เพื่อให้ AIS สามารถส่งต่อขีดความสามารถของบุคลากรและเทคโนโลยีดิจิทัลไปช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต แก้วิกฤตประชากรด้วยการลดทอนความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย

ซึ่งความร่วมมือนี้ทำให้ทาง AIS สามารถให้ความช่วยเหลือกับประชาชนในกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น จากความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. และ AIS Academy ที่มีเป้าหมายสำคัญในการนำศักยภาพของ AIS ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลชั้นนำมาสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิต แก้วิกฤติประชาชน ด้วยโครงการที่ดำเนินงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 ทั้ง AIS Academy for THAIS, อุ่นใจอาสาพัฒนาชีพ และ ห้องสมุดดิจิทัล

ล่าสุดได้สานต่อความร่วมมืออีกครั้ง ตอกย้ำ “ภารกิจคิดเผื่อ” ซึ่งเป็นการร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างนวัตกรรม ทักษะความรู้ และโอกาสใหม่ๆ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต และแก้ไขปัญหาสังคมได้อย่างยั่งยืน

ซึ่งผลลัพธ์จากความร่วมมือกับภาครัฐที่เราสามารถมองเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมนั้น AIS ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการห้องสมุดดิจิทัล ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้สื่อดิจิทัลในการสร้างอาชีพ และช่วยให้โรงเรียนชายขอบเข้าถึงการศึกษามีผู้เข้าร่วมโครงการและได้รับผลประโยชน์จากการร่วมมือครั้งนี้มากถึง 700,000 คน ส่วนทางกระทรวง พม.หลังจากร่วมมือกับ AIS ก็ทำให้สามารถเคลื่อนตัวได้อย่างรวดเร็วและทันสมัย จึงถือว่าเป็นการร่วมมือกันที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคมไทยเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ทาง AIS เองยังจัดส่งอุปกรณ์เทคโนโลยีอย่างแทปเล็ตให้กับกลุ่มเป้าหมาย จนทำให้เกิดการเรียนเสมือนจริงเลย ทำให้เกิดประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย โดยทางภาครัฐจะได้รับเครื่องมือมาประกอบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ ส่วนโครงการห้องสมุดดิจิทัลก็ทำให้เทคโนโลยีที่ AIS สามารถนำเทคโนโลยีมาพัฒนาจนสามารถนำมาใช้งานได้จริง และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ทาง AIS ยังช่วยเหลือด้วยการสร้างเครือข่าย Marketplace อย่าง Shopee มาเข้าร่วม เพื่อให้เป็นช่องทางขายให้กลุ่มเป้าหมาย และนำไปต่อยอดได้จึงเป็นการขยายอาชีพของกลุ่มเป้าหมายไปยังที่อื่นๆ ได้มากขึ้น

คุณอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตประชากรของไทย ทั้งอัตราเด็กเกิดน้อยลง จำนวนวัยแรงงานลดลง ผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่า ปี 2579 ประเทศไทย จะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) คือมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่า 30% ท้าทายการทำงานของ พม.เป็นอย่างมาก

ดังนั้น ทาง พม. จึงให้ความสำคัญ และเร่งดำเนินมาตรการต่างๆ ครอบคลุมเรื่องการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพ การพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ และคนพิการ เพื่อเป็นกำลังแรงงานให้กับประเทศ รวมถึงการเสริมพลังวัยทำงาน โดยจะต้องตั้งตัวได้ เพื่อสามารถสร้างครอบครัว และดูแลสมาชิกในครอบครัวได้ ตลอดจนคำนึงถึงการพัฒนาระบบที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาความมั่นคงของครอบครัว เอื้อให้ประชาชนมีหลักประกันในการดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมที่มีคุณภาพ อันเป็นรากฐานที่สำคัญยิ่งของสังคมไทย

นอกจากนี้ คุณอนุกูล ยังกล่าวถึงเป้าหมายของรัฐบาลว่า ทางภาครัฐมีนโยบาย และสวัสดิการที่ต้องการให้เกิดความครอบคลุมคนในทุกๆ กลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางหรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่กระทรวม พม. ดูแล ดังนั้น จึงต้องมุ่งไปที่การลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่จะตอบโจทย์ความเป็นอยู่ของกลุ่มคนเหล้านี้ เพื่อให้คนเหล่านี้ใช้ชีวิตได้ปกติบนพื้นฐานของความเท่าเทียม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มคนพิการ

เพราะฉะนั้น กระทรวม พม.จึงต้องมุ่งเน้น และพัฒนาแผนการแก้ไขวิกฤตความเหลื่อมล้ำ ด้วยการให้ความสำคัญกับ 5 เรื่องหลักๆ ที่ต้องอาศัยความร่วมมือกับภาครัฐภาคเอกชน นั่นคือ 1.เด็กและเยาวชน 2.วัยทำงาน 3.ผู้สูงอายุ 4.คนพิการ 5.ระบบนิเวศน์ (Ecosystem)

“ในวันนี้เราได้ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆทุกภาคส่วน เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงบริการ และสิทธิสวัสดิการของภาครัฐอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวก ทั้งในเรื่องการให้บริการประชาชน การพัฒนาเครื่องมือเพื่อช่วยบริหารจัดการองค์กร นำไปสู่ประสิทธิภาพในการดูแลประชาชนทุกช่วงวัย เราเชื่อว่าความร่วมมือกับ AIS ภายใต้โครงการ “ภารกิจคิดเผื่อ” จะเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญ ที่สะท้อนให้เห็นถึงภาพความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน ในการหนุนเสริมการทำงานระหว่างกัน  เพื่อนำไปสู่เสริมสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมสร้างความเท่าเทียม อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยได้อย่างยั่งยืน” กล่าวในตอนท้าย

คุณกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และกลุ่มอินทัช กล่าวว่า ภายใต้การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ AIS เราให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการเติบโตแบบร่วมกันของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการสร้างการเข้าถึงดิจิทัลให้กับคนไทยทุกกลุ่ม เพราะเราเชื่อว่าการมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแรงไม่ได้สร้างการเติบโตให้กับภาคธุรกิจเท่านั้น แต่ศักยภาพของดิจิทัลเทคโนโลยีและนวัตกรรมยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มโอกาส และลดช่องว่างในการแสดงศักยภาพเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโอกาสต่างๆ รวมทั้งการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน หรือ Digital Inclusion อีกด้วย

ซึ่งการดำเนินงานภายใต้ “ภารกิจคิดเผื่อ” โดย AIS Academy นั้น สอดคล้องกับ SDGs เป้าหมายที่ 10  คือ การลดความไม่เสมอภาคภายในและระหว่างประเทศ (Reduce Inequalities) รวมถึง ข้อ 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และ ข้อ 4 การศึกษาที่มีคุณภาพ โดยส่งเสริมการรวมกลุ่มทางสังคม ซึ่งพนักงาน AIS พร้อมจะมีส่วนช่วยลดช่องว่างระหว่างกลุ่มคนต่างๆ  ขจัดความเหลื่อมล้ำ ทางเศรษฐกิจ และการเมือง เพื่อให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ดังนั้นการร่วมทำงาน กับ กระทรวง พม. ตั้งแต่ปี 2564 จึงเป็นการนำศักยภาพ จุดแข็งของพนักงานและองค์กร ในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม มาส่งต่อ แบ่งปัน ในฐานะเครื่องมือ (Solutions) ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม ยกระดับขีดความสามารถประชาชนและสังคม ให้ผ่านพ้นวิกฤติประชากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแน่นอนว่าตลอดระยะเวลาที่ได้ทำงานร่วมกัน ทำให้เราเข้าใจถึงปัญหาของแต่ละกลุ่มได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้สามารถนำองค์ความรู้มาสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนคนไทยกลุ่มต่างๆได้อย่างตรงจุด ซึ่งประกอบไปด้วยแนวทางการทำงานในแกนต่างๆ ดังนี้

1. สร้างนวัตกรรมยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่คนพิการและผู้สูงอายุ ผ่านโครงการ Jump Thailand Hackathon 2024
2. สร้างทักษะยกระดับการพัฒนาอาชีพผ่านโครงการ Train The Trainer จากโค้ชอุ่นใจอาสา ให้แก่เจ้าหน้าที่กระทรวงฯเพื่อส่งต่อไปยังประชาชนในการพัฒนาอาชีพต่อไป
3. สร้างความรู้เพื่อครอบครัวเข้มแข็งจาก Digital Content ในรูปแบบของบทเรียน โดยพนักงานอุ่นใจอาสา
4. สร้างโอกาสเข้าถึงความรู้อย่างยั่งยืน ผ่านโครงการห้องสมุดดิจิทัล ปันความรู้ ด้วยแพลตฟอร์ม AIS ReadDi พร้อมมอบแท็บเล็ตเพื่อเป็นช่องทางในการเข้าถึงองค์ความรู้ผ่านโลก Digital อีกด้วย

“ตอนนี้โครงการห้องสมุดดิจิทัลของเราสามารถครอบคลุมคนที่เข้ามาอยู่ในกระบวนการเราได้มากกว่า 7 แสนคน ซึ่งเป็นการเติบโตมาก โดย AIS มุ่งมั่นที่จะสานต่อโครงการที่เคยทำมาทั้งหมด เพื่อให้คนทุกกลุ่มได้เข้าถึงความรู้ด้วยเทคโนโลยีที่เสมอภาค ซึ่งทัพของ AIS ภารกิจคิดเผื่อไม่ได้มีแค่เราแต่มีทุกภาคส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องและช่วยเหลือกัน ดังนั้นการทำงานจึงเป็นการทำงานด้วย Ecosystem ซึ่งความร่วมมือกับกระทรวงพม.ได้ทำให้กลุ่มคนที่อยู่ภายในการดูแลของพม.สามารถใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมด้วยตนเอง ไม่ใช่แค่นามธรรมแต่สามารถนำไปใช้งานได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม

AIS Academy ขอปวารณาตัวเป็นเสมือนไม้ขีดไฟเล็กๆ ที่พร้อมจะจุดประกายการรวมพลังของสังคมในการร่วมทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย จากศักยภาพของพนักงาน , เทคโนโลยีดิจิทัลทันสมัยและโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล, การมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยช่องทางการเข้าถึงประชาชนมากกว่า 45 ล้านรายทั่วประเทศที่จะเป็นเสมือนโอกาสในการ ลดช่องว่าง ขจัดความเหลื่อมล้ำ อันจะเป็นการสร้างโอกาสให้เค้าได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ รวมถึงเป็นการส่งต่อพลังใจไปสู่กลุ่มประชาชนที่ยังคงอยู่ในภาวะพึ่งพิง ให้ก้าวพ้นจากปัญหาวิกฤติประชากรได้ในท้ายที่สุด” คุณกานติมา กล่าวในตอนท้าย

ในมุมมองของ Business+ กลุ่มบริษัท AIS เป็นองค์กรที่ได้ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการส่งต่อสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปลูกฝังวัฒนธรรมนี้ภายในองค์กรได้กลายเป็น DNA ที่ส่งต่อไปยังพนักงานทุกคน ในการสร้างแรงบันดาลใจที่จะนำศักยภาพที่ AIS มีส่งต่อไปยังสังคม หากให้ยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนคือโครงการ AIS Academy ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมภายในของเอไอเอส ที่พัฒนาบุคลากรภายในองค์กรกว่า 13,000 คน และมีหมายที่สำคัญคือการส่งต่อสู่สังคมไทย โดยเราจะสามารถพบเห็นพนักงานของ AIS ในนาม “อุ่นใจอาสา” ที่พร้อมนำขีดความสามารถของตัวเองและจิตใจที่พร้อมทำเพื่อสังคม ผ่านโครงการต่างๆ มากมาย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา AIS Academy มีเป้าหมายในการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ด้วยการนำจุดแข็งของแต่ละองค์กรมาผลักดันให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทยของ AIS นั้น ถือเป็นการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ และความเหลื่อมล้ำให้กับประเทศได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย