เบนท์ลีย์ นำเทคโนโลยี ADAS ตามหากวางเรนเดียร์ของลูกค้า VVIP ที่หายไป

December 24, 2021

  • เบนท์ลีย์ได้รับข้อความเร่งด่วนให้ช่วยตามหากวางเรนเดียร์ที่หายตัวไป ณ ขั้วโลกเหนือ
  • เบนท์ลีย์ เบนเทก้าได้ใช้เทคโนโลยี Advanced Deer Alert System (ADAS) ในการช่วยเหลือ โดยติดตั้งเกือบสองในสามของรถยนต์ลูกค้า
  • ADAS ใช้เซ็นเซอร์จับความร้อนในการระบุคนและสัตว์
  • ระบบการมองเห็นในยามค่ำคืนมีความไวในการตรวจจับที่ระยะ 140 ม. จากด้านหน้ารถ ในอุณหภูมิ -40 ถึง +80 องศาเซลเซียส
  • แผงหน้าปัดของคนขับแสดงการมองเห็นพร้อมรหัสสีเพื่อการระบุวัตถุ
  • ระบบการมองเห็นในยามค่ำคืนเสริมด้วยไฟหน้าแบบเมทริกซ์พร้อมไฟ LED 110 ดวง โดยหนึ่งในสามของรุ่นนี้สามารถปรับลำแสงได้
  • ระบบทำความสะอาดเฉพาะตัวสำหรับกล้องมองกลางคืน

(ครูว์ 10 ธันวาคม 2564) หลังจากได้รับข้อความด่วนจากลูกค้า VVIP เบนท์ลีย์ได้ใช้อัครยนตรกรรมเอสยูวี เบนเทก้า ซึ่งติดตั้งด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบ ADAS เพื่อใช้ติดตามกวางเรนเดียร์ตัวพิเศษที่หายตัวไป ณ ขั้วโลกเหนือ

ลูกค้ารายนี้เป็นที่คุ้นเคยดีของเบนท์ลีย์ โดยติดต่อมาเมื่อปีก่อนเพื่อมองหาออปชั่นที่หรูหราให้กับอัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดาน ฟลายอิ้ง สเปอร์ วี8 เวอร์ชั่น Reindeer Eight แต่ในปีนี้เขาต้องเจอกับปัญหาเมื่อหนึ่งในสมาชิกตัวสำคัญของเขาได้หายสาบสูญไป

โชคดีของลูกค้าเบนท์ลีย์ โดยเกือบสองในสามของคำสั่งจองเบนท์ลีย์ เบนเทก้า ได้รวมถึงเทคโนโลยีซึ่งรู้จักกันในนาม ADAS หรือ Advanced Deer Alert System ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญ คือ ระบบการมองเห็นในยามค่ำคืน (Night Vision) ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นหาสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเด่น

ระบบการมองเห็นในยามค่ำคืน (Night Vision) ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก คือ จอภาพแบบ FIR หรือ ภาพแบบอินฟาเรด ชุดควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ และแผงหน้าปัดสำหรับคนขับ

FIR Imager คือ เครื่องถ่ายภาพจากความร้อนที่จับพลังงานอินฟราเรดได้ไกลถึง 140 ม. จากด้านหน้าตัวรถผ่านออปติกโฟกัสคงที่พร้อมมุมมองแนวนอน 24 องศาด้านหน้าตัวรถ ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในกระจังหน้าของเบนท์ลีย์ เบนเทก้า โดยเครื่องถ่ายภาพมีระบบทำความสะอาดเฉพาะตัวเพื่อขจัดสิ่งสกปรกจากท้องถนน ฝุ่นละออง และน้ำแข็ง

ชุดควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) จะควบคุมระหว่างเครื่องถ่ายภาพ (FIR Imager) และระบบของรถยนต์ ซึ่งชุดควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) ควบคุมการทำงานของเครื่องถ่ายภาพ (FIR Imager) และมีฟังก์ชั่นการประมวลผลภาพแบบดิจิทัล ฟังก์ชั่นตรวจจับสิ่งมีชิวิต และระบบเตือนคนข้ามถนน ในกรณีของสัตว์ขนาด 1 เมตร ระบบสามารถตรวจจับได้จากด้านหน้ารถในระยะ 7 เมตร ในขณะที่สัตว์ขนาด 2 เมตร ขึ้นไปสามารถตรวจพบได้ไกลถึง 140 เมตร โดยความละเอียดของการตรวจจับความร้อนเพียงพอที่จะตรวจจับลายดอกยาง และที่สำคัญคือความร้อนที่แผ่ออกมาจากจมูกของกวางเรนเดียร์ สำหรับภาพที่ประมวลผลแล้วนั้นจะถูกส่งออกเป็นรูปแบบวิดีโอเพื่อไปยังหน้าจอแสดงผล

มุมมองจากระบบการมองเห็นในยามค่ำคืนจะแสดงผลในแผงข้อมูลคนขับเป็นภาพขาวดำ โดยใช้วงเล็บสีและการไฮไลท์เพื่อการระบุวัตถุ โดยขึ้นอยู่กับระยะห่าง

ระบบการมองเห็นในยามค่ำคืน (Night Vision) จะทำงานเมื่อมีการเปิดใช้งานไฟหน้าด้วยตัวผู้ขับขี่เองหรือผ่านฟังก์ชั่นอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นของผู้ขับขี่ในยามค่ำคืน โดยปราศจากการควบคุมจากตัวรถ ระบบการมองเห็นในยามค่ำคืนจะช่วยในเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ และการหลีกเลี่ยงการชนเมื่อเกิดทัศนวิสัยไม่ดีหรือเมื่อมีกิจกรรมของกลุ่มสัตว์บนถนนเช่นในเขตชนบท

ในกรณีที่ระบบการมองเห็นในยามค่ำคืน (Night Vision) ตรวจพบว่าตัวรถอยู่ใกล้กวางเรนเดียร์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นใดมากเกินไป แม่ปั๊มเบรกจะเติมน้ำมันเบรกไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมให้ผู้ขับขี่หยุดรถได้อย่างทันท่วงที คุณสมบัตินี้จะช่วยลดระยะการเบรก ไม่ว่าจะใช้ในการค้นหากวางเรนเดียร์ที่หายไปหรือวัตถุขนาดเล็ก

ตัวช่วยของเทคโนโลยี ADAS ในการค้นหาคือไฟหน้าแบบเมทริกซ์ LED จำนวน 110 ดวง การใช้กล้องด้านหน้าที่ได้รับการปรับปรุงมาโดยเฉพาะเพื่อการตรวจจับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทำให้หลอดไฟ LED ทั้งหมดสามารถปรับลำแสงหลักแยกกันได้ ซึ่งการเปิด–ปิดการใช้งานของหลอดไฟ LED จำนวน 27 ดวงต่อหนึ่งหลอดจะสามารถปรับรูปแบบลำแสงได้ ซึ่งช่วยให้ไฟส่องสว่างหลักทำงานอยู่ตลอดเวลา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร 02 261 1050 หรือ LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V