AAS The Name You Can Trust กุญแจความสำเร็จ : Thailand Top Company Awards 2020 : รางวัล MOST ADMIRED COMPANY AWARD

“ขอแสดงความยินดีกับบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด หลังคว้างรางวัล Most Admired Company Award 2020 ไปครอง กับผลสำรวจความพึงพอใจต่อสินค้าและบริการในมุมมองผู้บริโภคชื่นชมอันดับ 1”


บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ได้พิสูจน์ผลงานเด่นชัดจนสามารถพิชิตรางวัลอันทรงเกียรติ Most Admired Company Award 2020 ไปครอง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า Key Driver หลักของบริษัทฯ คือ การมองภาพใหม่ สร้างให้เกิดความชัดเจนและผลักดันให้มุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน การคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตลอดจนห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) การบริหารประสิทธิภาพให้เกิดอย่างต่อเนื่อง และสิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคือ ความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกภาคส่วน ที่ช่วยขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจให้บริษัทฯ พัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ

วินธร บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด เปิดเผยว่า “แนวทางการบริหารของเราให้ความสำคัญ 3 ส่วน คือ

1.ลูกค้า โดยเอเอเอสให้ความสำคัญกับ Consumer Satisfaction ผ่าน Experience หรือประสบการณ์ตั้งแต่ก่อนเข้ารับบริการ ระหว่างเข้ารับบริการ และหลังเข้ารับบริการ

ต่อมาคือ 2.Employee Satisfaction คือการให้ความสำคัญเรื่องของ Learning โดยการทำให้พนักงานมีความรู้สึกของการเป็นเจ้าของ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้จะสะท้อนมาที่ส่วนสุดท้าย นั่นคือ

3.Company Satisfaction โดยเรามองด้านของ Development และ Improvement ส่วนงานเซอร์วิสด้วย

และเมื่อมองลงมาจาก Top Down จะเห็นว่าการเข้าถึงแบรนด์ปอร์เช่มีทิศทางที่ดีขึ้น จากการทำตลาดในกลุ่ม New Entry มากยิ่งขึ้น ซึ่ง Feedback ของผู้บริโภคที่กลับมาหาเราบ่อย ๆ นั้นมาจากการดำเนินธุรกิจตามนโยบายหลักของเราที่ว่า ‘AAS The Name You Can Trust’ จนลูกค้านำไปบอกต่อจนเกิดความเชื่อถือ และมีลูกค้ามาใช้บริการกับเรามากขึ้น”

นอกจาก Product Highlight แล้ว ถามว่าผู้บริโภคมองหาอะไรจากเอเอเอส ‘วินธร’ คุยกับเราพร้อมฉายภาพให้กระจ่ายขึ้นว่าทำไมลูกค้าถึงอยากจะใช้แบรนด์ปอร์เช่ หรือกล้าที่จะมาซื้อรถปอร์เช่มากขึ้น กล่าวคือ ส่วนหนึ่งเพราะด้านการบริการของเรา สิ่งที่บริษัทฯ ภูมิใจก็คือ เราเป็นผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่มีประวัติยาวนานที่สุด

สิ่งที่เราตอบสนองลูกค้ามาโดยตลอด คือการบริการที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ทั้งด้านอุปกรณ์ หรือการรับประกันสูงสุด 9 ปี และอะไหล่ที่เปลี่ยนไปรับประกัน 2 ปี กระทั่งทีมเซอร์วิส เราได้ รางวัล Porsche Service Excellent อย่างต่อเนื่องติดต่อกันถึง 7 ปี โดยสิ่งนี้สะท้อนให้ลูกค้ามั่นใจที่จะซื้อรถยนต์จากเรา ทำให้เรามีตัวเลขยอดขายอันดับ 1 ในเอเชีย – แปซิฟิก จำนวน 920 คัน

ทั้งนี้ เมื่อมองถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยน คือเข้าสู่ยุคของดิจิทัลมากขึ้น ผู้บริโภคย่อมคาดหวังบริการใหม่ ๆ จากผู้ให้บริการ ซึ่งวินธรก็ระบุว่า

“ด้วยโลกปัจจุบันที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่รับและใช้สื่อต่าง ๆ ผ่านดิจิทัล ทำให้เราได้ศึกษาและมองหาวิธีการที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้า และมอบการบริการได้อย่างรวดเร็ว เรานำเสนอข้อมูล สิทธิพิเศษ และกิจกรรมผ่านทางโลกออนไลน์มากขึ้น เราเชื่อว่าการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลในปัจจุบัน เป็นช่องทางที่อิมแพ็คและกว้างไกล พร้อมกันนี้สิ่งที่เรายังคงให้ความสำคัญมากที่สุด คือ การสร้างความพึงพอใจและสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า เราเชื่อว่าความรู้สึกที่คุณอยู่หลังพวงมาลัยคือคำตอบของการตัดสินใจ เป็นเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ เราจึงมีกิจกรรม Porsche Driving Experience ซึ่งจัดต่อเนื่องปีละ 4 ครั้ง เพื่อให้ผู้ที่สนใจซื้อรถยนต์ได้ทดลองสมรรถนะก่อนการตัดสินใจ และเมื่อเป็นเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่แล้ว เรายังนำเสนอโปรแกรม Porsche Driver’s Safety Training การฝึกอบรมการขับขี่ให้ลูกค้าทุกท่านด้วย

เพราะเรามีความเชื่อมั่นว่าแบรนด์ปอร์เช่เป็นรถยนต์ที่หลาย ๆ คนฝันถึง เราต้องเสริมในการสร้าง Brand Purpose ในเรื่องของประสบการณ์ให้มากขึ้น และสิ่งที่จะทำให้คำกล่าวนี้ชัดเจนคือ การได้ทดลองขับ ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือคนที่เป็นเจ้าของรถปอร์เช่อยู่แล้ว ก็สามารถซื้อคันที่ 2 หรือ 3 มากขึ้นนั่นเอง”