The Business Plus บิสิเนสพลัส
ผู้นำบริษัทประกันที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมมาอย่างยาวนาน จนได้ชื่อว่าเป็น ‘Green Insurer’ คือ ‘กรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต’ และสิ่งที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ มาจากการดำเนินธุรกิจโดยไม่ได้คาดหวังเพียงกำไรหรือการได้รับรางวัล แต่เป็นการทำธุรกิจโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างแท้จริง
คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และภาพลักษณ์องค์กร และการสื่อสารองค์กร บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวกับเราว่า กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ได้ดำเนินแผนงานด้านความยั่งยืนมาอย่างยาวนาน โดย กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เป็นบริษัทที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดอันดับ 1 ในทวีปเอเชีย ในด้านความรับผิดชอบต่อองค์กร (CR) จากการประเมินดัชนีชี้วัดความยั่งยืนด้านความรับผิดชอบต่อองค์กรของกลุ่มแอกซ่า (AXA Sustainability Index 2021) ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 ซึ่ง AXA Sustainability Index เป็นตัววัดของกลุ่ม AXA เป็นส่วนหนึ่งของ DJSI (Dow Jones Sustainability Index) ซึ่งเป็นการวัดใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. สิ่งแวดล้อม 2. สังคม และ3. เศรษฐกิจ
ในส่วนของแผนงานด้านสังคม กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ดำเนินธุรกิจโดยมีแนวคิดที่ว่า ‘Payer-to-Partner’ นั่นคือ การเปลี่ยนลูกค้าจากคู่ค้ามาเป็นเพื่อนคู่คิด รวมถึงบริษัทฯ มีเป้าหมายสูงสุด คือ เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป บริษัทฯ เชื่อว่า หากสามารถดูแลพนักงานและลูกค้าได้เป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้จะสะท้อนกลับสู่สังคม โดย กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ได้ช่วยเหลือสังคมผ่านโครงการต่าง ๆ มากมาย อาทิ โครงการแผ่นดินทองเพื่อน้อง ๆ บ้านนานา ที่เป็นโครงการที่ทำอย่างต่อเนื่องกว่า 13 ปี ในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงการศึกษา และการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชนจนสามารถพึ่งพาตนเองได้
“เราปลูกฝังการรับผิดชอบต่อสังคม และการรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงานมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคนในองค์กรต่างร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคม ตั้งแต่ระดับผู้บริหารมาจนถึงพนักงาน และดูแลในทุกภาคส่วนไม่ใช่แค่ในบริษัทฯ แต่ยังรวมไปถึงลูกค้าด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งหลักการของเราคือ Give Opportunity not Charity นั่นคือ การให้โอกาสไม่ใช่ทำเพื่อการกุศล” คุณบุปผาวดี กล่าว
สำหรับด้านของสิ่งแวดล้อม กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เน้นไปที่เรื่องของสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป หรือ Climate Change โดยพนักงานทุกคนจะได้ตระหนักรู้ถึงเรื่องนี้ ผ่าน E-Learning ของ AXA Climate Change Academy ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้ และนำมาปฏิบัติในชีวิตจริง
อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจของ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต คือ โครงการ Go Green “ปลูกป่าปลูกความดี 3 ปี 100,000ต้น” โดยจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ปลูกต้นไม้ไปแล้ว 90,000 ต้นทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Green4Good คือการให้ความรู้ทางด้านการเงิน และสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กนักเรียนทั่วประเทศไทย โดยปัจจุบันมีนักเรียนเข้าโครงการแล้วกว่า 2 พันกว่าคน รวมถึงโครงการที่ร่วมมือกับ Green Wave 106.5 เอฟเอ็ม กับกิจกรรม ‘Green Power ลดเพื่อโลก ปลูกเพื่อปลอด’ รณรงค์ให้ทุกคนลดการใช้พลังงาน
ในด้านของสิ่งแวดล้อมจะเห็นได้ว่า กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต มีกิจกรรมมากมายที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม จนขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำบริษัทประกันที่ให้ความสนใจในสิ่งแวดล้อม หรือ Green Insurer โดยเรื่องของ Climate Change ถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน 5 กลยุทธ์หลักของบริษัทฯ และกลุ่ม AXA “พนักงานของเราต้องเข้าใจก่อนถึงจะสามารถส่งต่อไปสู่สังคมเราตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า พนักงานของ AXA ทั่วโลกจะต้องเรียนรู้ และบรรลุวัตถุประสงค์ด้าน Climate Change ให้ครบ 100% ภายในเดือนมิถุนายนปี 2565 แต่ในส่วนของ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต สามารถเรียนรู้จนครบ 100% แล้ว ตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคมของปี 2564 ที่ผ่านมา” คุณบุปผาวดี กล่าว
สำหรับด้านเศรษฐกิจ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ดำเนินธุรกิจในแนวทางแบบ Circular Economy จะทำอย่างไรให้สามารถหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยอาศัยการดำเนินการตามแผน 3 ขั้นตอนหลัก ๆ นั่นคือ การสร้าง (Make) การใช้งาน (Use) และการนำกลับมาใช้ (Return)
นอกจากนี้ ในแง่ของการจัดสรรการลงทุน กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จะใช้กลยุทธ์ Sustainable Investment โดยยุติการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น ถ่านหิน ยาสูบ หรือธุรกิจที่ปล่อยมลพิษ แต่จะเน้นการลงทุนในส่วนของบริษัทฯ หรือสินทรัพย์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมแทน เมื่อถูกถามถึงเหตุผลที่ทำให้ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ได้มุ่งเน้นด้านสิ่งแวดล้อม คุณบุปผาวดี กล่าวว่า “เราให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของบริษัทฯ แต่เป็นเรื่องของคนทั้งโลก หากเราต้องการทำเพื่อประชาชนคนไทย และลูกค้าของเรา เราต้องรักษาสภาพแวดล้อมควบคู่กันไปถ้าหากว่าสภาพแวดล้อมไม่ดี ก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คน”
เดินหน้าธุรกิจสู่ความยั่งยืนด้วย 4 แคมเปญใหญ่
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนในปี 2565 กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จะเน้นเรื่องของ Climate Change ด้วยการจัดกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมผ่านแคมเปญ “Commit To Climate เราปรับ โลกเปลี่ยน” โดยไตรมาสที่ 1 เป็นโครงการ “Think ก่อนทิ้ง” ซึ่งจะเน้นไปที่การคัดกรองขยะก่อนที่จะทิ้ง ส่วนในไตรมาสที่ 2 เป็นโครงการ Live Green Save Green ซึ่งจะเน้นไปที่การประหยัดพลังงานไฟฟ้า และในไตรมาสที่ 3 คือ Green Road Good Life เช่น การรณรงค์ให้พนักงานลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวหันมาใช้รถสาธารณะ หรือรณรงค์การใช้บันไดแทนการใช้ลิฟต์ ส่วนไตรมาสที่ 4 จะเป็นโครงการ Green Food Good Health คือ การรณรงค์ให้พนักงานลดการทานเนื้อสัตว์ เพื่อช่วยลดการเผาไหม้ที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก
นอกจากนี้ ในอนาคต กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ไม่ได้หยุดเพียงแค่การปลูกต้นไม้ แต่ยังมีแผนสำหรับการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับมหาสมุทร เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีทั้งบนดินและใต้น้ำ
“การที่เราได้รับรางวัลด้านความยั่งยืนจำนวนมาก ถือว่าเป็นการการันตีด้านการดำเนินงานว่าเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจ และสำหรับ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการ Walk The Talk โดยการลงมือทำทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อส่งผลทั้งระดับองค์กรและระดับมหภาค สู่ความยั่งยืน ซึ่งสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดเป็นผลให้เราได้รับรางวัลมากมายทั้งระดับประเทศ และระดับนานาชาติ” คุณบุปผาวดี กล่าวในตอนท้าย
