เมื่อพูดถึง จุฑาศรี คูวินิชกุล แน่นอนว่าทุกคนรู้จักเธอดีในนามของผู้ร่วมก่อตั้ง แกร๊บแท็กซี่ และอีกบทบาทที่พิสูจน์ความแข็งแกร่งของสาวสวยคนเก่งนั่นคือเก้าอี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมททา กรุ๊ป
จุฑาศรี คูวินิชกุล หรือจูน ลูกสาวคนเก่งของคุณพ่อ ธเนศ และคุณแม่อัญชัน คูวินิชกุล เจ้าของธุรกิจอลูมิเนียมมูลค่าหลายพันล้าน ในนาม “อลูเม็ท”ความเป็นสาวนักบริหารของ จูน เริ่มฉายแววตั้งแต่อายุ14 ปีด้วยความที่คลุกคลีในธุรกิจครอบครัวตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอเลือกศึกษาในคณะเศรษฐศาตร์ หลักสูตรอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนเข้าร่วมงานกับบริษัทเทรดดิ้ง Mitsubishi Corperation ประเทศญี่ปุ่นนานถึง3ปี

ก่อนจะเริ่มเข้าศึกษาและเรียนรู้ทางด้านการเงินและการตลาดของอุตสาหกรรมอลูมิเนียมระดับโลก แน่นอนว่าเป็นการปูทางเพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัวนั่นเอง และเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอจริงจังกับธุรกิจครอบครัวมากแค่ไหน จุฑาศรีตัดสินใจเข้าเก็บเกี่ยวความรู้ทางด้านบริหารธุรกิจอย่างจริงจังที่ Harward Business School
นอกจากเรียนMBAอย่างเข้มข้น จูนยังได้แบ่งเวลาช่วงSummer เข้าเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ Venture Capital ประเทศเยอรมันนี และที่ Harward นี้เองที่ทำให้จูนได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนร่วมชั้นอย่างAnthony Tan และHooi Ling Tanชาวมาเลเซีย ผู้คิดค้นธุรกิจ แกร๊บแท็กซี่
ด้วยความที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นคนเอเชียเหมือนกัน ทำให้จูนและสองหนุ่ม Anthony Tan และHooi Ling Tanมีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดียต่างๆ กระทั่ง สองหนุ่มตัดสินใจนำไอเดียแกร๊บแท็กซี่นี้เข้าประกวด Harvard Business Plan Competition และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งมาครองได้สำเร็จ
และในปี2012 สองหนุ่มชาวมาเลเชียก็เริ่มต่อยอดจากแผนธุรกิจนั้น ในประเทศมาเลเซียและไรับผลตอบรับในทางบวก และเมื่อแกร๊บมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปในประเทศต่างๆ จูนก็ไม่รอช้าติดต่อนำโมเดลนี้เข้ามาให้บริการในประเทศไทยได้สำเร็จ
“จูนเห็นแล้วว่าสิ่งที่เราเห็นในกระดาษสมัยเรียนมันออกมาเป็นความจริง และได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อนๆเลยจับมือกันในทุกทวีป เอาเข้าไปในแต่ละประเทศ อย่างจูนอยู่เมืองไทย ก็จับมือกับเขา เอาเข้าเมืองไทย เพราะจริงๆจูนสนใจ Techอยู่แล้วตั้งแต่สมัยเรียน ก็ไปทำ Venture Capital ทำให้เห็นว่าโลกของ Techมันสามารถเอาเข้ามาแก้ไขปัญหาอะไรต่างๆได้ค่อนข้างเร็ว ”
และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชื่อ จุฑาศรี คูวินิชกุล เป็นที่รู้จักกว้างขวางทั้งในแวดวงธุรกิจและกลายเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองจากธุรกิจ Tech start up หลังจากแกร๊บประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ก็ถึงเวลาที่ จูน จะปล่อยให้ แกร๊บเติบโตต่อไปภายใต้มือการดูแลของอาชีพ เพราะเธอมีโปรเจ็คที่ใหญ่กว่ารออยู่นั่นคือ โปรเจ็ค เมททากรุ๊ป ที่รวบรวมเอาธุรกิจครอบครัวสาขาต่างๆเข้ามาจัดระบบใหม่นั่นเอง
“เมททากรุ๊ปเป็นโปรเจ็ค เป็นธุรกิจของครอบครัว เป็นโปรเจ็คระยะยาวที่วางตั้งแต่สมัยเรียน จริงๆตอนนั้นคือต้องการ จัดระเบียบกลุ่มธุรกิจของที่บ้านทั้งหมด เลยออกมาเป็นโครงสร้างต่างๆ เราก็เรียกตัวใหม่นี้ว่า เมททากรุ๊ป จริงๆจุดมุ่งหมายของ เมททากรุ๊ป คือ กลุ่ม ธุรกิจที่สร้างคุณค่าเพื่อพัฒนาชีวิตที่ก้าวไปข้างหน้า เพราะฉนั้นเราจะลงทุนหรือทำอะไร กับตัวที่create value เท่านั้น
ปัจจุบันมีทั้งธุรกิจที่เราขายออก และสร้างขึ้นใหม่ การเข้ามาจัดโครงสร้างใหม่ ให้ทั้งกลุ่มตอบโจทย์ทั้งคนในครอบครัว คนในองค์กร และสิ่งที่เราสร้างให้สังคม อันนั้นเป็นที่มาของเมททา กรุ๊ป อย่างที่บอกว่า เมททา เป็นโปรเจ็คระยะยาวการที่เราจะบอกคนรุ่นเก่าว่าเราต้องขายธุรกิจตัวใดตัวหนึ่งออก มันต้องใช้เวลาในการสื่อสารให้เขาเข้าใจและยอมรับแนวทางการบริหารของเรา”
สำหรับเมททา กรุ๊ป จุฑาศรีได้นำธุรกิจของครอบครัวทั้งหมดมาจัดหมวดหมู่เป็น 7ยูนิตอันได้แก่ เมททา เทค ,เมททา เฮอริเทจ ,เมททา อลูมิเนียม มีแบรนด์อลูเมทที่เป็นคอหลัก ,เมททาไฟแนนซ์ ,เมททาพร็อพเพอร์ตี้ ,เมททาเฮลท์ และเมททากรีน
“ บิสิเนสในแต่ละยูนิตก็จะมีธุรกิจ และพาร์ทเนอร์ที่ต่างกันในทุกสายเช่น แกร๊บ ก็เป็นธุรกิจหนึ่งในยูนิต เมททาเทค หรือแคนดี้เครปและพิมมาไล ที่ตอนนี้เรากำลังโปรโมตหนักๆก็เป็นสายหนึ่งของเมททา เฮอริเทจ ที่มีพี่สาว(เจนนิสสา คูวินิชกุล)เป็นผู้ดูแล ซึ่งตอนนี้เราได้รับการตอบรับจากแฟนไซน์ทั่วโลกยกเว้นแอฟริกา ซึ่งเรามองแล้วว่ามันสามารถไปได้ไกลกว่า Techอีก”
เคล็ดลับการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จของจูน เธอบอกว่า พาร์ทเนอร์คือส่วนสำคัญ เพราเธอจะไม่ยอมเป็นพาร์ทเนอร์กับใครง่ายๆถ้าหากคู่ค้าไม่มีความพร้อมและมั่นคง
“ปกติถ้าเราจะลงทุน หรือเข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์กับใคร เราต้องมั่นใจว่าคู่ค้าของเรามีทีมที่แข็ง ถึงจะทำให้ปัญหาถูกแก้ไข ออกมาได้เร็วขึ้น หรือกลุ่มที่ไม่ได้มีฐานที่แข็งมา หรือมีธุรกิจครอบครัวมาก่อนเราก็สนับสนุน อันนั้นก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเราก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะกระตุ้นให้เกิด Ego System เงินลงทุนกับผู้ผลิตจับมือกันแล้วเกิดอะไรใหม่ได้ อย่างตอนนี้จูนก็กำลังหาเวลาปั้นตัวใหม่เหมือนกัน”
นี่คงเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า สาวสวยรวยความสามารถคนนี้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับธุรกิจครอบครัวเพื่อให้สามารถเติบโตไปได้อย่างแข็งแกร่ง