ปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในโลกสมัยใหม่ที่เรียกว่า VUCA World เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจที่ต่อสู้อย่างดุเดือด ความเปลี่ยนแปลงครอบงำทุกหย่อมหญ้า เราต่างถูกบังคับให้ ‘เปลี่ยนเพื่อปรับตัวอยู่รอด’ ไม่อย่างนั้นก็ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และต้องลงจากสังเวียนไป แล้วเราจะรับมืออย่างไรกับมรสุมแห่งความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงนี้ ทั้งการทำงานและการดำเนินชีวิต…
ธุรกิจเปลี่ยน ความต้องการขององค์กรก็เปลี่ยน พนักงานต้องอัปเกรดความสามารถและความรู้อย่างเร่งด่วน ตามมาด้วยการปรับวิถีชีวิตตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปโดยไม่ตั้งตัว จนเราต้องเร่งหาวิธีในการปรับสภาพจิตใจตัวเองสำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างปัจจุบันทันด่วน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจก่อนว่า VUCA World นั้นประกอบไปด้วยความไม่แน่นอนอะไรบ้าง ที่ทำเกิดจากภาวะความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน อันส่งผลให้เราเกิดความเครียดและความกังวลใจ
Volatility = ความผันผวน
Uncertainty = ความไม่แน่นอน คาดเดาไม่ได้
Complexity = ความซับซ้อน เข้าใจยาก
Ambiguity = ความกำกวม ไม่ชัดเจน
จากปรากฏการณ์ดังกล่าว เรามี 5 ข้อที่จะมาแนะนำเพื่อปรับสภาพจิตใจให้พร้อมรับมรสุมแห่งความเปลี่ยนแปลง เตรียมกายและใจพร้อมลุยทุกอุปสรรคที่เกิดขึ้น
1.ตกใจได้ แต่อย่านาน
หากจู่ ๆ โดนบริษัทร่อนจดหมาย Layoff ย้ายบ้านย้ายงานกะทันหัน หรือแม้แต่สูญเสียคนใกล้ชิด สิ่งแรกที่เกิดขึ้นก็คือความตกใจแน่นอน สมองชา หาทางออกไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จงใช้เวลาเท่าที่มีอยู่รีบทบทวนทางหนีทีไล่ของตัวเอง อย่าตกใจนานเกินไป ในช่วงเวลาที่ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนนั้น เราควรตั้งสติพร้อมสตาร์ทเสมอ
2.ประเมินตัวเองและสถานการณ์รอบด้าน
ไตร่ตรองตัวเองว่าเราทำอะไรได้บ้างในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการคิดในหัวอาจเป็นเพียงเส้นขยุกขยุยมองภาพรวมไม่สะดวก แนะนำให้จดทุกอย่างที่คิดออกบนกระดาษสักแผ่น เพื่อให้ตัวเราเองได้มองเห็นภาพกว้าง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วเราจะแก้ปัญหาได้อย่างไรบ้าง
3.ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น
บางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเราทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับมัน แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ยอมจำนน การยอมรับในบางครั้งแทบจะเท่ากับการปล่อยวาง ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามที่มันควรจะเป็น ส่วนตัวเรามีหน้าที่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึกเข้าไปตัดสิน เพราะสิ่งที่ควรโฟกัสคือการหาหนทางแก้ไขนั่นเอง
อีกหนึ่งสิ่งที่ควรยอมรับก็คือ ตัวเราเอง ยอมรับว่ามีอะไรที่เราทำได้และทำไม่ได้ หรือคือการรู้จุดแข็งจุดอ่อนของตัวเอง การตระหนักรู้ในตัวเองจะทำให้เราสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากรู้กำลังของตัวเองดีพอ
4.ต่อรอง และหาตัวช่วยเพื่อแก้ไขปัญหา
แน่นอนว่าทุกคนล้วนมีจุดอ่อน และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่องเสมอไป การต่อรองและหาตัวช่วยเป็นเรื่องปกติ จุดนี้การมีคอนเนคชันที่ดีจะสามารถช่วยได้มาก และจำไว้ว่าการขอความช่วยเหลือไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคนขี้แพ้ แต่เป็นการสนับสนุนกันและกันต่างหาก
5.เรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน เป็นเรื่องจริงที่สุด ในขณะที่โลกเปลี่ยนแต่คุณไม่เปลี่ยน สุดท้ายคุณก็จะแพ้และไร้ที่ยืน คนที่หมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ อัปสกิลอยู่เสมอ และเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ ก็ย่อมมีทางเลือกมากกว่าคนที่เอ้อระเหยลอยชายไปวัน ๆ แน่นอน
สิ่งที่ยั่งยืนเสมอตลอดไปคือความเปลี่ยนแปลง หากคุณไม่อยากเป็นฝ่ายแพ้ทั้งกายและใจ ก็ต้องลุกขึ้นมาพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และนอกจากความสามารถในการเอาตัวรอดแล้ว จิตใจของเราก็ต้องแข็งแกร่งไปด้วย เพียงเท่านี้เราก็พร้อมที่จะบุกตะลุยกับมรสุมแห่งการ Disrupt แล้ว!!!