อุตฯแพทย์กรุงเทพฯคึกคัก!! MEDICAL FAIR THAILAND 2025 เปิดฉากดึง 40 ชาติ ร่วมโชว์นวัตกรรมสุดล้ำ
กระตุ้นเศรษฐกิจสุขภาพและสาธารณสุขไทยช่วงโค้งสุดท้ายปี 68 พร้อมบิ๊กไฮไลต์ “AI & Digital Healthcare
และเทคฯรองรับบริบทสุขภาพใหม่” กว่าพันบูธ
- พาวิลเลียนแคลิฟอร์เนียและไต้หวัน นำทัพธุรกิจจัดแสดงนวัตกรรมเฮลท์เทคสุดล้ำกว่า 100 รายการ พร้อมด้วย 3 โซนไฮไลต์นำเสนอสุดยอดโซลูชันการแพทย์ล่าสุด
- กลุ่ม รพ.เอกชนไทย ตบเท้าโชว์ความพร้อมรองรับการรักษาจากทั่วโลก ตอกย้ำคุณภาพการแพทย์ไทยที่พร้อมแข่งขันระดับโกลบอล ด้านเครื่องมือแพทย์ไทยมั่นใจความเชื่อมั่นและการแข่งขันไทย ยังโตแรง มูลค่า GDP เป็นไปตามเป้า 6.9 แสนล้าน
กรุงเทพฯ 10 กันยายน 2568 – บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ร่วมกับพันธมิตรสำคัญทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เปิดมหกรรมแสดงสินค้านวัตกรรมทางการแพทย์และบริการสุขภาพระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “MEDICAL FAIR THAILAND 2025” ครั้งที่ 11 อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ระหว่างวันที่ 10–12 กันยายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ซึ่งนับเป็นเวทีสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรม การสร้างเครือข่าย และการต่อยอดธุรกิจในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และบริการสุขภาพชั้นนำนานาชาติ บนพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ครอบคลุมการนำเสนอเทคโนโลยีการแพทย์อัจฉริยะ โซลูชันด้านดิจิทัลเฮลท์ การวินิจฉัยโรค อุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ ตลอดจนนวัตกรรมการดูแลสุขภาพแบบเชื่อมต่อครบวงจร โดยในปีนี้ ได้รวบรวมผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพกว่า 1,000 ราย จากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการเข้าร่วมจากคณะผู้แทนกว่า 80 กลุ่ม ที่เป็นตัวแทนจากโรงพยาบาล สถานดูแลผู้สูงอายุ และสถานฟื้นฟูสมรรถภาพในกรุงเทพฯ จังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนจังหวัดสงขลาไปจนถึงภูเก็ต อีกทั้งยังมีแขกผู้มีเกียรติกว่า 100 รายภายใต้โครงการ Buyer Programme จากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ บรูไน อินโดนีเซีย ลาว เมียนมา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
นายเกอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย กล่าวว่า งานในปีนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่สุดนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2003 ซึ่งตลอดเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา MEDICAL FAIR THAILAND ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นเวทีระดับภูมิภาคที่เชื่อมโยงผู้แสดงสินค้า ผู้เชี่ยวชาญ และคณะผู้แทนจากนานาประเทศ เพื่อร่วมกันกำหนดอนาคตของระบบสุขภาพและเทคโนโลยีการแพทย์ ทั้งในอาเซียนและในเวทีโลก โดยในปีนี้ มีผู้ร่วมแสดงสินค้ากว่า 1,000 ราย จากกว่า 40 ประเทศ พร้อมด้วย 20 พาวิลเลียนนานาชาติ อาทิ แคลิฟอร์เนียร์พาวิลเลียน (California Pavillion) ที่มาร่วมงานเป็นครั้งแรก และไต้หวันพาวิลเลียน (Taiwan Pavillion) นำทัพผู้ประกอบการกว่า 100 ราย เข้าร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีการแพทย์ล้ำสมัย สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นต่อความร่วมมือข้ามพรมแดนในการกำหนดอนาคตของระบบสุขภาพในภูมิภาค
ผู้เข้าเยี่ยมชมงานจะได้พบ 3 โซนหลักที่เป็นไฮไลท์ ได้แก่
- LaunchPad Zone – โซนจัดแสดงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือและโอกาสทางธุรกิจระหว่างผู้จัดจำหน่าย ผู้ซื้อ และบุคลากรทางการแพทย์
- Community Care Zone – โซนจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านการดูแลผู้สูงอายุ การฟื้นฟูสมรรถภาพ การดูแลสุขภาพในชุมชน เพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตในสังคมผู้สูงอายุ
- Medical Manufacturing Zone –โซนจัดแสดงโซลูชันล้ำสมัยสำหรับการผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์ ครอบคลุมวิศวกรรมแม่นยำ ผลิตภัณฑ์การแพทย์มูลค่าสูง และเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังมีงานประชุมและสัมมนาอัดแน่นตลอดทั้ง 3 วันของการจัดงาน ที่นำเสนอโดยผู้เชี่ยวชาญในวงการแพทย์ด้านต่างๆ ระดับประเทศและนานาชาติ มาร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก อินไซต์ พร้อมอัพเดทเทรนด์ด้านการแพทย์ล่าสุด อาทิ WT | Wearable Technologies Conference (10 กันยายน 2568) – การประชุมว่าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่และการประยุกต์ใช้ในด้านสุขภาพ กีฬา และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ตั้งแต่การจัดการโรคเรื้อรังและการตรวจพบโรคในระยะเริ่มต้น ไปจนถึงการแพทย์ทางไกล (Telehealth) และการติดตามอาการผู้ป่วยจากระยะไกล GITEX DigiHealth 5.0 and Bio Tech Thailand 2025 (10-12 กันยายน 2568) – การเปิดตัวครั้งแรกในงาน MEDICAL FAIR THAILAND 2025 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงาน GITEX GLOBAL งานแสดงสตาร์ทอัพเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยงานประชุมครั้งนี้จะรวมผู้นำความคิดในด้านดิจิทัลเฮลท์มาร่วมกันเจาะลึกเรื่อง AI ด้านการวินิจฉัย โรงพยาบาลอัจฉริยะ และนวัตกรรม Health Tech ที่กำลังกำหนดอนาคตของการดูแลสุขภาพดิจิทัล งานประชุมสัมมนาจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่จะสร้างเครือข่ายที่ขับเคลื่อนโดยผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ อาทิ สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย สมาคมเวชสารสนเทศไทย ราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูแห่งประเทศไทย และสมาคมเวชศาสตร์ฟื้นฟู เป็นต้น เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์สุขภาพที่กำลังเกิดขึ้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี พัฒนาการของตลาดด้านสุขภาพดิจิทัล แนวปฏิบัติด้านการพยาบาลขั้นสูง การบริหารจัดการโรงพยาบาล อนาคตกับการดูแลผู้สูงอายุ และอื่น ๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานก้าวทันต่อภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า โรงพยาบาลเอกชนของไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ด้วยมาตรฐานการรักษาระดับสากล เทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการรับรองจากทั่วโลก ไม่เพียงแต่รองรับประชาชนในประเทศเท่านั้น แต่ยังทำให้ประเทศไทยได้รับชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ดีที่สุดในโลก โดยมีผู้ป่วยจากทั่วอาเซียนและประเทศต่าง ๆ เดินทางเข้ามายังประเทศไทย เพื่อใช้บริการด้านการรักษาและดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ ความปลอดภัย และความใส่ใจในการดูแลผู้ป่วยที่สร้างความประทับใจแก่ชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการแพทย์ของไทย กำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตั้งแต่การขยายตัวของผู้ป่วยสูงวัย ไปจนถึงการตื่นตัวด้านนวัตกรรมเอไอ ดิจิทัลเฮลธ์ และการแพทย์แม่นยำที่ทางโรงพยาบาลเอกชน ยังคงต้องรักษาบทบาทในการขับเคลื่อนการให้บริการทางการแพทย์และสุขภาพด้วยนวัตกรรมใหม่ การลงทุน และการบริการผู้ป่วยที่เป็นเลิศ
“สมาคมโรงพยาบาลเอกชนไทยมีความยินดีต่อการร่วมสนับสนุนการจัดงาน MEDICAL FAIR THAILAND 2025 ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการเปิดโอกาสให้ได้เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีใหม่ๆ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสร้างความร่วมมือกับนานาชาติ ที่จะส่งผลโดยตรงต่อการรักษาผู้ป่วย โดยเชื่อมั่นว่าด้วยการสนับสนุนระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และภาคเอกชน จะสามารถยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนให้ก้าวหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน” นพ.ไพบูลย์ กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช นายกสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ถือเป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจที่มีความเคลื่อนไหวและมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์มากที่สุดของประเทศไทย ปัจจุบัน ประเทศไทยไม่เพียงแต่เป็นผู้นำเข้าเทคโนโลยีขั้นสูงเท่านั้น แต่ยังพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องมือแพทย์ของอาเซียน โดยครอบคลุมห่วงโซ่มูลค่าทั้งหมด ตั้งแต่เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ตรวจวินิจฉัย ไปจนถึงอุปกรณ์มูลค่าสูง นวัตกรรมด้านดิจิทัลเฮลท์และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ การเติบโตนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายและมาตรการภาครัฐ ศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนความมุ่งมั่นของทั้งผู้ประกอบการไทยและนักลงทุนระดับโลกที่เข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งทำให้ประเทศของเรามีศักยภาพก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรม การผลิต และการส่งออกเครื่องมือแพทย์ของภูมิภาค รวมถึงการบรรลุเป้าที่จะสร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ (Health Economy) จำนวน 690,000 ล้านบาทในปี 2568 ซึ่งคิดเป็น 3.39% ของ GDP ประเทศไทย ขณะที่ตลาดการดูแลสุขภาพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะขยายตัวถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030
“งาน MEDICAL FAIR THAILAND 2025 มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ ผู้ผลิต นักวิจัย ซัพพลายเออร์ นักธุรกิจ บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่จะมาร่วมกำหนดทิศทางอนาคตด้านการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมทั้งเป็นเวทีแสดงศักยภาพ แลกเปลี่ยนความรู้ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมส่งมอบนวัตกรรมที่ยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพ ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่ยังครอบคลุมทั้งภูมิภาคอาเซียน” ภก.ปรีชา กล่าว
ทั้งนี้ ในพิธีเปิดงาน MEDICAL FAIR THAILAND 2025 อย่างเป็นทางการ ได้รับเกียรติจาก ภก. ดร. เชิญพร เต็งอำนวย รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นประธานพิธีเปิดงาน โดยกล่าวสนับสนุนว่า “ประเทศไทยได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานในฐานะศูนย์กลางด้านการดูแลสุขภาพของอาเซียน ที่มีโรงพยาบาลรับรองมาตรฐานสากลกว่า 60 แห่ง บุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง อีกทั้งประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชั้นนำ โดยคาดการณ์ตลาดเครื่องมือแพทย์ไทยจะโตสูงถึง 2.5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐภายในปีพ.ศ.2571 ซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้กำหนดยุทธศาสตร์สำคัญผ่านนโยบาย “4 GO” ได้แก่ GO Digital & AI, GO Innovation, GO Global และ GO Green ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมมีความเตรียมพร้อมในการแข่งขันเวทีสากลได้ นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งคลัสเตอร์อุตสาหกรรมสุขภาพและความงาน ประกอบด้วย 7 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ ยา อาหารและเครื่องดื่ม ผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ สมุนไพร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเทคโนโลยีชีวภาพ ขึ้น เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสุขภาพในอาเซียน ตลอดจนการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ปรับเปลี่ยนสายการผลิตจากชิ้นส่วนยานยนต์ไปสู่การผลิตเครื่องมือแพทย์ เช่น อุปกรณ์ช่วยหายใจ ชิ้นส่วนเครื่องมือวินิจฉัย และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ
งาน MEDICAL FAIR THAILAND 2025 จึงไม่ได้เป็นเพียงเวทีแสดงสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรม ความร่วมมือ และความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ผมเชื่อมั่นว่างานครั้งนี้จะช่วยเสริมบทบาทของไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีการแพทย์และระบบสุขภาพให้เติบโตและมั่นคงทั้งในภูมิภาคและระดับโลก”
สำหรับงาน MEDICAL FAIR THAILAND 2025 ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สมาคมเวชศาสตร์ฟื้นฟูแห่งประเทศไทย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สมาคมเวชสารสนเทศไทย สภาเทคนิคการแพทย์ สถาบันพลาสติก สมาคมการค้าเฮลท์เทคไทย สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย ศูนย์พัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และยังมีหน่วยงานชั้นนำจากนานาชาติอีกมากมาย
ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมงาน Medical Fair Thailand 2025 วันที่ 10-12 กันยายน 2568 ณ Hall 98-100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medicalfair-thailand.com