ตราหัวม้าลาย VS ตรานกนางนวล 2 แบรนด์สเตนเลส ที่อยู่กับคนไทยมากว่า 50 ปี

April 22, 2025

หนึ่งในเครื่องครัวที่คนไทยแทบจะทุกบ้านมีไว้ใช้สอยคงหนีไม่พ้น “ช้อนส้อมสเตนเลส” โดยตลาดเครื่องครัวสเตนเลสของไทยนั้น ก็จะมีผู้เล่นหลัก ๆ อยู่สองรายซึ่งก็คือ บมจ. เสถียรสเตนเลสสตีล และ บ. ไทยสเตนเลสสตีล หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า “ตราหัวม้าลาย” และ “ตรานกนางนวล” ตามลำดับ นั่นเอง

สำหรับบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์หัวม้าลายมีจุดเริ่มต้นในปี 2509 โดยคุณเสถียร ยังวาณิช เริ่มก่อตั้งบริษัทรับจ้างผลิตตู้แช่หรือชุดครัวสเตนเลส หรือ OEM ให้กิจการต่าง ๆ แต่ต่อมามองเห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงนำเศษสเตนเลสที่เหลือจากการรับจ้างผลิตสินค้า มาใช้ผลิตเป็นสินค้าช้อนสเตนเลสในปี 2511 นับเป็นสินค้าเริ่มแรกของบริษัท แล้วถึงเริ่มขยายไลน์การผลิตไปยังเครื่องครัวสเตนเลสต่าง ๆ

จนถึงปัจจุบัน บริษัทของคุณเสถียรได้ดำเนินธุรกิจมาแล้ว 57 ปี และได้มีการส่งออกสินค้าไปขายตามประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก นอกจากนี้บริษัทยังแตกแบรนด์ใหม่ ๆ เพื่อจับผู้บริโภคในแต่ละตลาด ได้แก่ แบรนด์ SUN’z ที่เน้นจำหน่ายเครื่องครัวสเตนเลสในราคาที่จับต้องได้มากกว่า และ Estio ที่เข้ามาจับตลาด Premium

สำหรับบริษัทเจ้าของเครื่องครัวสเตนเลสตรานกนางนวลก็เริ่มดำเนินกิจการปี 2514 โดยที่สินค้าแรกสุดของบริษัทก็คือ ช้อนสเตนเลส เหมือนกับ บมจ. เสถียรสเตนเลสสตีล โดยการใช้ตราสินค้านกนางนวล ที่สื่อถึงความเป็นอิสระและไม่ยึดติดกรอบ ตามคอนเซปต์ของหนังสือของโจนาธาน ลิฟวิงสตัน

ต่อมาบริษัทได้ขยายไลน์การผลิตไปยังเครื่องครัวสเตนเลสต่าง ๆ พร้อมแตกแบรนด์เป็น ตราจรวด เพื่อออกมาจับผู้บริโภคในตลาดสินค้าราคาย่อมเยา นอกจากนี้บริษัทขยายการส่งออกสินค้าไปขายยังหลาย ๆ ประเทศ จึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อตราสินค้าจาก นกนางนวล เป็น Seagull เพื่อความเป็นสากล

สำหรับผลประกอบการของทั้งสองบริษัทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คือ

บมจ. เสถียรสเตนเลสสตีล เจ้าของตราหัวม้าลาย

ปี 2564 รายได้ 1,394 ล้านบาท กำไร 162 ล้านบาท

ปี 2565 รายได้ 1,369 ล้านบาท กำไร 164 ล้านบาท

ปี 2566 รายได้ 1,191 ล้านบาท กำไร 104 ล้านบาท

บ. ไทยสเตนเลสสตีล เจ้าของตรานกนางนวล

ปี 2564 รายได้ 1,139 ล้านบาท กำไร 92 ล้านบาท

ปี 2565 รายได้ 1,065 ล้านบาท กำไร 52 ล้านบาท

ปี 2566 รายได้ 857 ล้านบาท กำไร 4.4 ล้านบาท

ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งสองบริษัทต่างกำลังประสบปัญหารายได้และกำไรที่ลดลง ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นการแข่งขันในตลาดเครื่องครัวสเตนเลสที่สูงขึ้น ประกอบกับการที่เริ่มมีสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศเข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไทย