7 เรื่องสำคัญจาก ‘ปูติน’ นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนที่ทุกคนควรรู้

นับตั้งแต่รัสเซียได้ประกาศปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนเพื่อปกป้องชาวยูเครนเชื้อสายรัสเซียที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคดอนบาส (แคว้นโดแนตสก์และลูฮันสค์) จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยรัฐบาลยูเครน จนถึงวันนี้ก็เป็นเวลามากกว่า 4 เดือนแล้ว ล่าสุดในช่วงวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2022 ที่ผ่านมา คุณวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ก็ได้ขึ้นเวทีกล่าวสุนทรพจน์ที่ the St. Petersburg International Economic Forum (SPIEF) ซึ่งเป็นการออกมาพูดในที่สาธารณะครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น โดยว่ากันว่าการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้เป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งโลกทั้งใบควรพิจารณา

1. ระเบียบโลกเก่าจบแล้วและจากไปพร้อมสายลม

นับตั้งแต่สหรัฐฯ ประกาศชัยชนะในสงครามเย็น อเมริกาได้กำหนดให้ตัวเองอยู่ในฐานะผู้ส่งสาส์นของพระเจ้าบนโลก ผลประโยชน์ของพวกเขาถูกพิจารณาว่าจะล่วงละเมิดไม่ได้และไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ นับตั้งแต่ศูนย์กลางอำนาจใหม่ ๆ ได้เกิดขึ้น พวกเขาได้สิทธิปกป้องระบบของพวกเขา รูปแบบทางเศรษฐกิจของพวกเขา และอำนาจอธิปไตยของพวกเขา “นี่เกี่ยวกับการปฏิวัติที่แท้จริง มันคือเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมในแง่ทั้งภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจโลก และระบบทางเทคโนโลยี ในระบบทั้งหมดของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นี่เป็นทั้งพื้นฐาน แกนกลาง และไม่อาจหยุดยั้ง” ประธานาธิบดีปูติน “และมันคงเป็นสิ่งที่ผิดพลาดที่จะแนะนำใครให้รอจนหมดเวลาของการเปลี่ยนแปลงอันวุ่นวายแล้วเสร็จ และสิ่งต่าง ๆ ก็จะกลับไปตามปกติ สิ่งต่าง ๆ จะเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น”

2.การแซงก์ชั่นรัสเซียจะส่งผลตรงข้ามกับที่ตั้งใจเอาไว้

เมื่อสหรัฐฯ และพันธมิตรได้ออกแคมเปญแบนรัสเซียจากเหตุการณ์ความขัดแย้งในยูเครน พวกเขาหวังว่าทำลายและกร่อนเศรษฐกิจและสังคมรัสเซียได้ การแซงก์ชั่นตอนนี้กลายเป็นบูมเมอแรงสะท้อนกลับไปที่ผู้สร้างมันขึ้นมา พร้อมกันนั้นมันได้ไปซ้ำเติมปัญหาต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจและสังคม ผลักดันให้ต้นทุนของอาหาร ไฟฟ้า และพลังงานสูงขึ้น และได้สร้างความเจ็บปวดให้กับคุณภาพชีวิตทั่วทั้งโลกตะวันตก โดยเฉพาะทวีปยุโรป “สหภาพยุโรปได้สูญเสียอำนาจอธิปไตยทางการเมืองโดยสมบูรณ์แล้ว และระบบราชการชนชั้นพิเศษก็กำลังทำให้ตัวเองถูกควบคุมจากผู้อื่น การยอมรับที่เกิดขึ้นทั้งหมด พวกเขาถูกสั่งมาจากข้างบนที่เหนือกว่า สาเหตุมาจากความเจ็บปวดของประชากรของพวกเขาและเศรษฐกิจของพวกเขา” ปูติน เพิ่มเติมอีกว่า ประชาชนชาวอียูจะต้องจ่ายราคาสำหรับการตัดสินใจแซงก์ชั่นและเป็นศัตรู (กับรัสเซีย) ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ต้องเกิดขึ้น โดยความสูญเสียจากมาตรการแซงก์ชั่นในตอนนี้คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าไปแล้ว

3.ราคาพลังงานที่พุ่งและเงินเฟ้อเกิดจากความโง่ของตัวเอง

การตำหนิเรื่องราคาพลังงานและเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในยุโรปมาที่รัสเซียเป็นเรื่องงี่เง่า ขณะที่ทำเนียบขาวได้ทำเรื่องโง่ ๆ และสร้างเรื่องราวสำหรับคนที่อ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ “ตำหนิตัวพวกคุณเอง ไม่ใช่เรา” ปูตินกล่าว สหภาพยุโรปเลือกเส้นทางการวิ่งหาพลังงานทดแทน และละทิ้งสัญญาแก๊สธรรมชาติระยะยาวที่ทำไว้กับรัสเซียตรงนี้นำไปสู่ราคาพลังงานที่พุ่งในยุโรป ที่สำคัญคือทั้งสหรัฐฯ และอียูต่างก็พิมพ์เงินนับล้านล้านออกมาแก้ไขมาตรการโคโรนาไวรัส

4.การเปลี่ยนแปลงจากชนชั้นปกครองเฝ้ารอตะวันตก

นโยบายที่สร้างภาระขึ้นมามากมายของผู้นำสหรัฐฯ และผู้นำสหภาพยุโรปกำลังทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและการแบ่งแยกในสังคมทรุดหนักลง ไม่ใช่แค่ในแง่ของความสุข แต่ยังรวมไปถึงในมิติของคุณค่าและการเข้าความหลากหลายของกลุ่มต่าง ๆ “การไม่แยแสจากความเป็นจริง จากความต้องการของสังคม เลี่ยงไม่ได้ที่จะนำไปสู่การพุ่งขึ้นมาของลัทธิประชานิยมและการเติบโตขึ้นของการเคลื่อนไหวที่รุนแรงทางการเมือง และจะนำไปสู่วิกฤตทางสังคมและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และการทำลายในอนาคตอันใกล้ และการเปลี่ยนของชนชั้นนำทั้งหลาย”

5. ถ้ามีภาวะข้าวยากหมากแพง มันไม่ใช่ความผิดของรัสเซีย

การที่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปแซงก์ชั่นรัสเซียผ่านการแบนไม่ให้ส่งออกปุ๋ยเคมีและข้าวสาลี เป็นหนึ่งในหลายสาเหตุของความไม่มั่นคงด้านอาหารของโลก ถ้ามีสถานการณ์ข้าวยากหมากแพงในประเทศยากจนเกิดขึ้น “นี่คือทั้งหมดของความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของกลุ่มบริหารประเทศอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป” ปูติน เพิ่มเติมว่าปัญหาอุปทานอาหารนี้เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว ไม่ใช่แค่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการกระทำที่มองเพียงอะไรสั้น ๆ ผ่านการกระทำอันเคยชินในการแก้ปัญหาของพวกเขาที่ให้ใครบางคนจ่าย โดยการบิดเบือนการค้าขายด้วยการพิมพ์เงิน “นโยบายปล้นอาณานิคม” ปูติน ย้ำว่ารัสซียพร้อมเสมอที่จะส่งอาหารไปยังแอฟริกาและตะวันออกกลางที่ซึ่งภาวะข้าวยากหมากแพงคุกคามอย่างรุนแรง แต่ตอนนี้ปัญหาก็คือ โลจิสติกส์ การเงิน และการขนส่ง ที่เป็นอุปสรรคซึ่งกำหนดขึ้นโดยตะวันตก

6. เหตุผลต่าง ๆ สำหรับความขัดแย้งในยูเครน

รัสเซียส่งกองทัพเข้าไปในยูเครนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเพราะตะวันตกไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้ และมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบรรลุข้อตกลงใหม่ ๆ กับพวกเขา การตัดสินใจถูกบังคับอยู่บนความจำเป็น ขณะที่รัสเซียมีสิทธิทุก ๆ อย่างในฐานะประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยที่จะสามารถปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยของพลเรือนและผู้พักอาศัยในพื้นที่ดอนบาส จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยระบบการปกครองเคียฟและกลุ่มนีโอนาซีซึ่งได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่จากตะวันตก ตะวันตกใช้เวลาหลายปีมากในการเปลี่ยนยูเครนให้หันมาต่อต้านรัสเซีย พร้อมสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์และที่ปรึกษาทางทหาร ปูติน เพิ่มเติมว่า พวกเขาไม่ได้ให้อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของยูเครนและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเลย แต่เลือกที่จะสงวนไว้เพื่อสร้างฐานที่มั่นนาโต้เพื่อใช้ต่อต้านรัสเซีย เพื่อใช้บุกรุก และสร้างความเกลียดชัง “ปฏิบัติการพิเศษทางทหารทั้งหมดจะต้องบรรลุผลสำเร็จอย่างไม่มีเงื่อนไข”

7. การพัฒนาของเศรษฐกิจคือการแสดงออกถึงอำนาจอธิปไตย

ในศตวรรษที่ 21 อำนาจอธิปไตยไม่ใช่เรื่องของอคติ ปูตินให้เหตุผลว่า ทั้งหมดขององค์ประกอบของมันสำคัญอย่างเท่าเทียมและส่งเสริมซึ่งกันและกัน และเศรษฐกิจก็คือหนึ่งในนั้น โดยมี 5 เรื่องสำคัญที่รัสเซียจะทำในการพัฒนาเศรษฐกิจ คือ เปิดกว้าง อิสระเสรี ความยุติธรรมทางสังคม โครงสร้างพื้นฐาน และอำนาจอธิปไตยทางเทคโนโลยี รัสเซียจะไม่มีวันเดินอยู่บนเส้นทางแยกตัวเองออกมาโดดเดี่ยวและการพึ่งตนเองทางเศรษฐกิจ รัสเซียจะขยายการมีปฏิสัมพันธ์กับทุกฝ่ายที่ปรารถนาที่อยากจะค้าขายด้วย ซึ่งตอนนี้มีหลายประเทศ (สนใจ) นอกจากนั้นมอสโกจะสนับสนุนภาคเอกชน การสร้างและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม หาทางลดความไม่เท่าเทียมในสังคม พร้อมกับทำให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีที่เป็นหัวใจสำคัญของประเทศจะไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างชาติ “รัฐเอกราชจะให้คำมั่นสัญญาอย่างเท่าเทียมกับพันธมิตรทั้งหลาย” ขณะที่พวกเขาเหล่านั้นกำลังอ่อนแอและต้องพึ่งพา กำลังเฝ้ารอศัตรู และเกลียดสิ่งที่เป็นของต่างถิ่น สุดท้ายแล้วพวกเขาจะสูญเสียความแปลกใหม่ ความเป็นอิสระ และมองไม่เห็นการกระทำของผู้มีอำนาจเหนือผู้อื่น

แปลและเรียบเรียง : เอกพล มงคลพัฒนกุล

ที่มา RT

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #ปูติน #รัสเซีย #สงครามรัสเซียยูเครน