The Business Plus บิสิเนสพลัส
ป็นอีกหนึ่งข่าวที่เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี สำหรับกรณีบริษัท Berkshire Hathaway ของ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ เข้าซื้อหุ้น Taiwan Semiconductor Manufacturing Company หรือ ‘TSMC’ จำนวน 60 ล้านหุ้น ด้วยมูลค่าสูงถึง 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เกิดเป็นที่จับตามองจากผู้คนจากทั่วโลกทันที เนื่องจาก ‘TSMC’ ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวันและเป็นหนึ่งในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของโลก ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าขณะนี้ ทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนชิปที่ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะจบลงได้ในเร็ว ๆ นี้ การเข้ามาซื้อหุ้นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ จึงถือเป็นปรากฏการณ์ที่ชวนให้สงสัยว่านักลงทุนเศรษฐีรายนี้กำลังวานแผนจะทำอะไรเกี่ยวกับธุรกิจต่อจากนี้หรือไม่
ก่อนอื่นไปทำความรู้จักกับ ‘TSMC’ กันก่อน โดย ‘TSMC’ หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company ก่อตั้งขึ้นในปี 2530 ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ รับออกแบบและผลิตไมโครชิปที่ใช้ในอุปกรณ์สื่อสาร วิทยุ โทรทัศน์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ตลอดจนวิดีโอเกม เป็นต้น มีสำนักงานใหญ่ในเมืองซินจู่ ประเทศไต้หวัน โดยมีการซื้อขายหุ้นทั้งในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันและ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) จากรายงานประจำปี 2564 ระบุว่า ‘TSMC’ มีรายได้ 477 พันล้านดอลลาร์ และมีพนักงานมากกว่า 65,000 คน
‘TSMC’ เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์มากกว่า 12,300 รายการสำหรับลูกค้า 535 รายทั่วโลก โดยในจำนวนนี้มีลูกค้าในส่วนของเซมิคอนดักเตอร์เป็นบริษัทชั้นนำหลายรายด้วยกัน ได้แก่ Advanced Micro Devices, Broadcom, Intel, MediaTek, NVIDIA, NXP Semiconductors, OmniVision Technology, Qualcomm และ Renesas Electronics รวมถึงออกแบบและผลิตชิปให้กับบริษัทชื่อดังระดับโลกหลายแห่ง อาทิ ‘Apple’ (AAPL) ซึ่ง ‘TSMC’ เป็นบริษัทเดียวที่ผลิตชิป A-series ให้ ‘Apple’ อีกทั้ง ‘Apple’ ยังเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ ‘TSMC’ อีกด้วย โดยสร้างรายได้ที่คาดว่าจะได้รับมากกว่า 17,000 ล้านดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2565 เพิ่มขึ้นมากกว่า 23% ในปี 2564
หากจะพูดถึงความยิ่งใหญ่ของ ‘TSMC’ ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ก็คงต้องบอกว่าบริษัทนี้ไม่เพียงยิ่งใหญ่แค่ในไต้หวันเท่านั้น แต่ยังถือเป็นอีกบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญและยิ่งใหญ่ระดับโลก และเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงเป็นซัพพลายเออร์ที่สำคัญสำหรับสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกอื่น ๆ เช่นกัน ขณะที่สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระบุว่า ‘TSMC’ เป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ซึ่งร่วมกันผลิตชิปเทคโนโลยีสูงสุดของโลกมากกว่า 90% นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ‘TSMC’ ถือเป็นผู้นำของโลก โดยวิศวกรของ ‘TSMC’ เป็นผู้บุกเบิกวิธีการสร้างรูปแบบชิปด้วยความแม่นยำที่ไม่เคยมีมาก่อนในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้
‘TSMC’ มีส่วนแบ่งการตลาดสำหรับอุตสาหกรรมนี้ประมาณ 55% ของตลาดทั่วโลก สำหรับการผลิตชิปสัญญา ซึ่งสูงกว่าส่วนแบ่งตลาดน้ำมัน 40% ของ ‘OPEC’
โดยอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีความยิ่งใหญ่และสำคัญต่ออีกหลายอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกันอีกด้วย ส่วนบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์ที่มีบทบาทสำคัญต่อโลกเป็นอันดับต้น ๆ ได้แก่
1. Intel Corp. (INTC) เป็นผู้พัฒนาโปรเซสเซอร์สำหรับตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) และเซิร์ฟเวอร์องค์กรเป็นหลัก ส่วนงาน Client Computing Group ซึ่งจัดหาโปรเซสเซอร์ PC และส่วน Data Center Group ที่ให้บริการลูกค้าองค์กรรวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์คิดเป็น 51% และ 33% ของรายได้ในปีงบประมาณ 2564 ตามลำดับ ส่วนที่เหลือประกอบด้วยโซลูชันอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่งสำหรับตลาดค้าปลีก อุตสาหกรรม และการดูแลสุขภาพ ผลิตภัณฑ์หน่วยความจำและอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ และเซมิคอนดักเตอร์ที่ตั้งโปรแกรมได้ ด้านผลประกอบการ ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565 Intel มีรายได้สุทธิ 73.4 พันล้านดอลลาร์, มีกำไรสุทธิ 19.1 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 147.9 พันล้านดอลลาร์
2. Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. Ltd. (TSM) เป็นโรงหล่อเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยโรงหล่อ Pure-Play ผลิตวงจรรวมในนามของลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทเซมิคอนดักเตอร์หลายแห่งจ้างผลิตชิปเป็นของตัวเองจากที่นี่ ด้านผลประกอบการ ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565 มีรายได้ 61.5 พันล้านดอลลาร์, มีกำไรสุทธิ 23.7 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 446.2 พันล้านดอลลาร์
3. Qualcomm Inc. (QCOM) เป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์และโทรคมนาคมระดับโลกที่ออกแบบและทำการตลาดผลิตภัณฑ์และบริการด้านการสื่อสารไร้สาย โดยบริษัทโทรคมนาคมทั่วโลกใช้เทคโนโลยี CDMA (code department multi access) ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ Qualcomm ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการสื่อสารไร้สาย แม้แต่ชิปเซ็ต Snapdragon ที่เป็นที่นิยมและถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์พกพาหลายรุ่นก็มาจากบริษัทนี้ ด้านผลประกอบการ ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565 มีรายได้ 42.1 พันล้านดอลลาร์, มีกำไรสุทธิ 12.9 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 165.1 พันล้านดอลลาร์
4. Micron Technology Inc. (MU) เป็นผู้จัดหาชิปหน่วยความจำ รวมถึงผลิตภัณฑ์แฟลชแรมและโซลูชันการจัดเก็บดิสก์แบบเขียนซ้ำได้ โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้ถูกนำไปใช้ในคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ การสื่อสาร และเซิร์ฟเวอร์ ด้านผลประกอบการ ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565 มีรายได้ 32.4 พันล้านดอลลาร์, มีกำไรสุทธิ 9.9 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 68.9 พันล้านดอลลาร์
5. Broadcom Inc. (AVGO) เป็นผู้จัดหาเซมิคอนดักเตอร์แบบดิจิทัลและอะนาล็อก ตลอดจนซอฟต์แวร์สำหรับตลาดเครือข่าย โทรคมนาคม และศูนย์ข้อมูล มีอินเทอร์เฟซสำหรับการเชื่อมต่อบลูทูธ เราท์เตอร์ สวิตช์ โปรเซสเซอร์ และไฟเบอร์ออปติกของคอมพิวเตอร์ ด้านผลประกอบการ ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565 มีรายได้ 30 พันล้านดอลลาร์, มีกำไรสุทธิ 8.9 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 215.1 พันล้านดอลลาร์
6. NVIDIA Corp. (NVDA) เป็นผู้พัฒนาโปรเซสเซอร์กราฟิกชั้นนำสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและเซิร์ฟเวอร์องค์กร โดยหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือ GPU จากบริษัทนี้ให้ประสิทธิภาพระดับไฮเอนด์ซึ่งเป็นที่ต้องการของนักขุด Cryptocurrency รวมถึงนักเล่นเกมคอมพิวเตอร์ และผู้ที่ทำงานโดยใช้คอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการออกแบบ สำหรับผลประกอบการ ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565 มีรายได้ 29.5 พันล้านดอลลาร์, มีกำไรสุทธิ 9.5 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าตามราคาตลาด 463.2 พันล้านดอลลาร์
7. Applied Materials, Inc. (AMAT) เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านอุปกรณ์ทุนที่ใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ เช่นเดียวกับจอ LCD โดยเทคโนโลยีของบริษัทนี้ถูกนำมาใช้เพื่อผลิตเวเฟอร์ซิลิคอนคุณภาพสูงและเคลือบวงจรขนาดเล็กด้วยกล้องจุลทรรศน์ไว้บนพื้นผิวของเวเฟอร์ซิลิคอน ส่วนผลประกอบการ ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565 มีรายได้ 24.8 พันล้านดอลลาร์, มีกำไรสุทธิ 6.8 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 91.3 พันล้านดอลลาร์
8. ASE Technology Holding Co. Ltd. (ASX) เป็นบริษัทโฮลดิ้งในไต้หวันที่ให้บริการประกอบ บรรจุภัณฑ์ และทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ บริษัทก่อตั้งขึ้นโดยการรวมกันของ Advanced Semiconductor Engineering Inc. และ Siliconware Precision Industries Co., Ltd. ด้านผลประกอบการ ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565 มีรายได้ 22.2 พันล้านดอลลาร์, มีกำไรสุทธิ 2.6 พันล้านดอลลาร์ และมีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 12.4 พันล้านดอลลาร์
9. ASML Holding N.V. (ASML) ตั้งอยู่ในเนเธอร์แลนด์ เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านระบบการพิมพ์หินขั้นสูงที่ผู้ผลิตชิปใช้เพื่อเพิ่มวงจรให้กับเวเฟอร์ซิลิคอน เครื่องช่วยให้ผู้ผลิตชิปใช้เวเฟอร์ราคาแพงได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และปรับปรุงประสิทธิภาพของชิปของตัวเอง ด้านผลประกอบการ ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565 มีรายได้ 21.6 พันล้านดอลลาร์, มีกำไรสุทธิ 6.1 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 224.7 พันล้านดอลลาร์
10. Texas Instruments Inc. (TXN) เป็นผู้พัฒนาและผลิตชิปอะนาล็อกและโปรเซสเซอร์แบบฝังตัวสำหรับแอปพลิเคชันอุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายชิปสำหรับอุปกรณ์พกพา ตัวประมวลผลสัญญาณดิจิทัล และอุปกรณ์กึ่งตัวนำแบบอะนาล็อกรายใหญ่ มันยังคงผลิตเครื่องคิดเลขซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้บริษัทมีชื่อเสียง สำหรับผลประกอบการ ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565 มีรายได้ 19.6 พันล้านดอลลาร์, มีกำไรสุทธิ 8.6 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 161.9 พันล้านดอลลาร์
ที่มา : CNN, time, Investopedia
เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #TSMC #WarrenBuffett #วอร์เรนบัฟเฟตต์ #ไมโครชิป
