เสรีภาพบังเกิด!!! ปลดล็อกหญิงซาอุฯ ในวันที่การขับรถไม่ใช่ข้อห้าม

เสรีภาพบังเกิด!!! ปลดล็อกหญิงซาอุฯ ในวันที่การขับรถไม่ใช่ข้อห้าม และความเท่าเทียมของโลกมุสลิมกำลังถูกเปิดออก

เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศซาอุดีอาระเบีย มีข้อบังคับที่เคร่งครัดตามหลักศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่แบบวะฮาบีย์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องกฎการแบ่งแยกเพศ เช่น ผู้หญิงต้องปฏิบัติตามระเบียบการแต่งกายที่เคร่งครัด ไม่ข้องเกี่ยวกับผู้ชายที่ไม่ใช่ญาติ และหากต้องการเดินทาง ทำงาน หรือรับบริการด้านสาธารณสุข ก็จะต้องมีชายผู้ดูแลไปด้วย หรือได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ดูแลซึ่งเป็นผู้ชายในครอบครัว เช่น สามี บิดา หรือพี่ชาย เป็นต้น

 

สิ่งเหล่านี้ ถ้าจะมองในเชิงของมนุษยธรรมก็คงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่นั่นคือเงื่อนไขของโลกมุสลิมที่มีการปฏิบัติตามกันมา แม้จะมีกลุ่มคนที่พยายามเรียกร้องและยกเลิกบางธรรมเนียมปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกก็ตาม

 

ทว่า ความน่าสนใจในช่วงที่ผ่านมา คือ การปลดล็อกข้อบังคับด้านการขับรถที่ทำให้ผู้หญิงซาอุฯ สามารถซื้อรถและขับรถได้ด้วยตนเอง ซึ่งที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ห้ามผู้หญิงขับรถ เพราะภายใต้กฎหมายปัจจุบันจะยอมให้ผู้ชายเท่านั้นที่สามารถทำใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ได้ ส่วนผู้หญิงที่ฝ่าฝืนจะถูกจับกุมและเสียค่าปรับ

 

นั่นทำให้หลายครอบครัวต้องจ้างคนขับรถส่วนตัวไว้รับส่งผู้หญิง ซึ่งเอาเข้าจริงๆ แล้ว ก็มีผลกระทบตามมาอยู่มาก เพราะผู้หญิงซาอุดิอาระเบียที่ต้องจ้างพนักงานขับรถไว้รับ-ส่ง จะต้องจ่ายค่าที่อยู่ ค่าอาหารและค่าประกันให้คนขับรถ ซึ่งคาดว่าอาจมีถึง 800,000 คน ทั่วประเทศ ทำให้ต้องสูญเสียเงินจำนวนมาก หรือต้องรบกวนญาติผู้ชายให้คอยขับรถให้

 

เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 23 มิถุนายน 2018 นับเป็นข่าวดีที่สุดของผู้หญิงชาวซาอุดีอาระเบียก็ว่าได้ เพราะเมื่อเข้าสู่วันที่ 24 มิถุนายนพวกเธอก็ได้เฉลิมฉลองการยุติการบังคับใช้กฎหมายห้ามผู้หญิงขับรถ ซึ่งนี่ถือเป็นก้าวสำคัญของการปลดสัญลักษณ์การกดขี่ผู้หญิงในประเทศอนุรักษ์นิยมอย่างซาอุดีอาระเบียลงระลอกแรกที่ยิ่งใหญ่ ภายใต้การยกเลิกกฎหมายข้อห้ามการขับขี่รถยนต์ของผู้หญิงจากกษัตริย์ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบียที่มีการประกาศให้ยกเลิกกฎหมายดังกล่าวเมื่อเดือนกันยายน 2017

 

ปัจจุบัน โรงเรียนสอนขับรถมหาวิทยาลัยเจ้าฟ้าหญิงนูราห์ เปิดเผยว่ามีผู้หญิงสมัครเรียนขับรถมากกว่า 85,000 คน โดยสมัครเรียนในระดับที่ต่างกัน เนื่องจากบางคนก็มีทักษะการขับรถและใบขับขี่จากต่างประเทศอยู่แล้ว และจนถึงขณะนี้ มีผู้หญิงที่ได้รับใบขับขี่ไปแล้ว 700 คน โดย มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2563 จะมีผู้หญิงซาอุดีอาระเบียราว 3,000,000 คน ได้รับการอนุมัติใบขับขี่ และจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศได้อย่างมาก เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการจ้างงานให้กับผู้หญิงชาวซาอุดีอาระเบียอีกด้วย

 

ขณะเดียวกัน เปิดทางให้ผู้หญิงขับรถแล้วยังเปิดทางให้ผู้หญิงขับรถจักรยานยนต์ รถตู้และรถบรรทุก ขณะที่สำนักงานจราจรซาอุดีอาระเบียระบุว่า ผู้หญิงที่มีใบขับขี่ของประเทศอาหรับจะต้องเปลี่ยนมาใช้ใบขับขี่ซาอุดีอาระเบีย ขณะที่ผู้ที่มีใบขับขี่่นานาชาติยังสามารถใช้ขับรถได้เป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่จะต้องสมัครใบขับขี่ของประเทศ โดยกำหนดอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีสำหรับรถส่วนบุคคล และไม่ต่ำกว่า 20 ปีสำหรับรถสาธารณะ

 

แน่นอนว่า นี่เป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับนักการตลาด และนักโฆษณาของบรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆ ที่อาจจะต้องเหลียวมามองตลาดซาอุดิอาเบียเสียใหม่ เพราะธรรมชาติของผู้หญิงถือเป็นกลุ่มที่มีการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค และมีกำลังซื้อสูงถึง85% ของค่าใช้จ่ายในครัวเรือนทั้งหมด เช่น บ้าน รถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าสุขภาพ และอาหาร

 

อย่างไรก็ตาม แม้ซาอุดีอาระเบียจะเตรียมยกเลิกกฎห้ามผู้หญิงขับรถ แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผู้หญิงในประเทศนี้ไม่สามารถทำได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ชาย ทั้งนี้แม้จะมีการยกเลิกกฎหมายห้ามผู้หญิงขับรถ ซาอุดีอาระเบียยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่สิทธิของผู้หญิงยังมีอยู่จำกัด เช่น จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากญาติผู้ชายในการทำธุรกรรมต่างๆ เช่นการเดินทางออกนอกประเทศหรือการแต่งงานเป็นต้น

 

ไม่มีสิทธิในการได้รับใบขับขี่ ข้อมูลนี้กำลังจะเป็นอดีตไปเพราะในปี 2017 ที่ผ่านมากษัตริย์ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศการเปลี่ยนกฎหมายที่อนุญาติให้ผู้หญิงขับรถได้โดยการเปลี่ยนแปลงจะมีผลในเดือนมิถุนายน 2018 อย่างไรก็ตามผู้หญิงยังต้องมีผู้ปกครองทำการอนุญาตให้ขับขี่ด้วย

 

ห้ามใช้ขนส่งสาธารณะ ขนส่งสาธารณะ เช่น การขึ้นรถไฟจะมีการแยกตู้ขบวนไว้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะที่ท้ายขบวน และบริษัทรถบัสส่วนใหญ่ปฎิเสธในการให้บริการกับผู้หญิงอีกด้วย นั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงในซาอุดิอาระเบียต้องเดินแทน

 

ต้องสวมใส่ชุดสีดำขนาดใหญ่ เมื่ออยู่บนท้องถนนผู้หญิงในซาอุดิอาระเบียต้องคลุมตัวเองทั้งตัวให้มิดชิดโดยเปิดได้แค่ส่วนรูปไข่บนใบหน้า,มือ และเท้าเท่านั้น

 

ออกไปไหนไม่ได้โดยไม่มีมะฮฺรอม หรือ ไม่สามารถไปไหนได้โดยไม่มีสามีหรือญาติที่เป็นเพศชายได้ ชายที่เดินทางไปกับผู้หญิงจะเรียกว่ามะฮฺรอม ถ้าไม่มีคำอนุญาตจากมะฮฺรอมผู้หญิงจะไม่สามารถออกจากประเทศ, มีงานทำ, แต่งงาน, เข้ามหาวิทยาลัยหรือแม้แต่รับการผ่าตัดได้

 

ไม่ทำงานมากนัก ถ้าอยากทำงานเธอต้องได้รับการอนุญาตจากทางผู้ชายซะก่อน

 

ไม่ได้แต่งงานเพราะความรัก แม้ว่าการบังคับให้แต่งงานนั้นจะเป็นสิ่งต้องห้ามแต่สัญญาของทางเจ้าบ่าวในอนาคตกับพ่อของเจ้าสาวนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งนัก

 

ห้ามตอบกลับทางประตู พวกเธอไม่สามารถรับแขกที่มาเยี่ยมบ้านได้

 

แยกเพศอย่างเด่นชัด เมื่อออกไปข้างนอก ต้องไม่ทำความรู้จักหรือสัมผัสกับผู้ชายที่ไม่รู้จัก ในสถานที่สาธารณะ

 

ถึงกระนั้น ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุว่าย่างก้าวดังกล่าวนับเป็นก้าวเล็กๆ ในเส้นทางที่ถูกต้อง และก็ยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลซาอุดีอาระเบียยกเลิกแนวทางที่เป็นการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงลงทั้งหมด

 

…นี่น่าจะเป็นก้าวแรกของการเปิดประตูสู่ความเท่าเทียมกันของโลกมุสลิมโดยแท้

 

ที่มา: https://www.theguardian.com/world/2018/jun/24/saudi-arabia-women-celebrate-as-driving-ban-lifted
https://brightside.me/wonder-places/11-prohibitions-for-women-in-saudi-arabia-that-are-hard-to-believe-516010/
https://www.autoinfo.co.th/online/229118/