ปีใหม่ เที่ยวเพลิน เงินหมดทำอย่างไรดี

วันหยุดปีใหม่ผ่านไปไวพอๆ กับเงินเดือนและโบนัสที่ผ่านเข้ามาในกระเป๋าสตางค์ หลังจากต้องเจอกับเทศกาลท่องเที่ยว เฉลิมฉลอง แจกของขวัญ และจับฉลาก เราเชื่อว่าคนทำงานจำนวนไม่น้อยกำลังประสบปัญหา “เงินเดือนหมด” แล้ววันที่เหลือกว่าจะถึงสิ้นเดือนล่ะจะทำยังไง

 

เงิน

 

บิสิเนสพลัสจึงขอนำเคล็ดลับยืดอายุเงินในกระเป๋าจาก  jobsDB มาฝากกันเพื่อจะได้ตั้งหลักใหม่ ให้กระเป๋าเงินที่กำลังแห้งเหี่ยว กลับมามีชีวิตชีวาได้ง่ายๆ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

 
1. ตั้งเป้าการใช้ชีวิตต่อไป

เงินหมดแต่คุณห้ามหมดหวัง เพราะอย่างไรชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อไป ฉะนั้นลำดับแรกเราควรมีการตั้งเป้าใช้ชีวิต เพื่อการเก็บเงินก้อนใหม่ แต่หลายคนอาจจะยังขาดแรงบันดาลใจ ลองใช้วิธีตั้งเป้าท่องเที่ยวทริปต่อไปไว้รอ เข้า Google หาที่เที่ยวที่โดนใจ แล้ววางแผนทริปใหม่ คำนวณช่วงเวลาที่จะไป คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด คราวนี้ล่ะแรงบันดาลใจมาเต็ม คุณจะตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินทุกบาทเพื่อที่จะให้ได้ไปทริปในฝันได้ตามเป้าอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วเงินก้อนใหม่ก็จะมาไวกว่าที่คุณคิดเสียอีก

 
2. ใช้โปรโมชั่นให้เป็นประโยชน์

ถึงเวลาของนักล่าโปรโมชั่นแล้ว ที่จริงจะบอกให้เราหยุดการใช้จ่ายเลยนั้นก็เป็นเรื่องยาก เพราะหากมีเรื่องจำเป็นที่ต้องซื้อต้องหาจริงๆ จะให้ทำอย่างไรได้ ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องสวมวิญญาณนักล่าโปรโมชั่นแบบเต็มตัว ต้องรู้จักเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อของ เพื่อให้ได้ของที่ถูกที่สุด ค่าโทรศัพท์หรือบัตรเครดิตต่างๆ ที่มีสิทธิพิเศษมอบให้กับลูกค้า เช่น ส่วนลดร้านค้า ร้านอาหาร หรือจะเป็นโปรโมชั่นจากสายการบิน ถ้ามีแพลนจะไปเที่ยวที่ไหน ไม่ควรมองข้ามโปรโมชั่นดีๆ เหล่านั้น งานนี้เรียกว่าจะใช้จ่ายอะไรมองหาโปรโมชั่นไว้ก่อนเลยจะได้เซฟๆ

 
3. วางแผนการใช้และเก็บเงิน

หลังจากที่ออกไปเจอโลกกว้าง ออกไปใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงกันมาแล้ว เงินก็หมดแล้วด้วย จากนี้ไปไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเก็บตัว กลับมาทำงานคราวนี้ลองเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ที่บ้าน เลิกงานแล้วกลับมานอนดูหนังฟังเพลง งดนัดเพื่อน งดเดินห้างดูบ้าง แบบนี้มันจะทำให้คุณได้พักผ่อนเต็มที่ร่างกายได้ฟื้นตัว เงินในกระเป๋าก็ฟื้นตาม เพราะไม่ได้ออกไปใช้จ่ายที่ไหน เป็นการยืดอายุเงินในกระเป๋าให้อยู่กับเราได้นานขึ้น

 

หรือลองใช้เทคนิคใช้เท่าไหร่หยอดกระปุกเท่านั้นดูก็ได้ โดยการคำนวณว่าตั้งแต่ออกจากบ้านจนถึงกลับถึงบ้านวันนี้ เรามีรายจ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ และให้นำยอดเดียวกันนั้นหยอดกระปุกไปซะ ทำแบบนี้สักหนึ่งเดือนรับรอง เงินก้อนใหม่เกิดขึ้นได้แน่ ๆ แต่ต้องมีวินัยและซื่อสัตย์กับตัวเองด้วยนะ

 
4. หารายได้เสริม

การมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่าทางเดียวเสมอ ฉะนั้นจังหวะนี้อย่ารอช้าลองหาอะไรทำเพิ่มเติมจากงานประจำ ไม่ว่าจะเป็นการดึงความสามารถด้านการทำงานประดิษฐ์ มาทำสินค้าแฮนด์เมดขาย หรือดึงความสามารถที่คุณมีอยู่ในตัวที่คิดว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อื่น แล้วประกาศลง Facebook ว่าคุณรับทำงานนี้ ไม่ว่าจะเป็นรับแปลงาน หรือสอนพิเศษเด็กในวิชาต่างๆ ที่คุณถนัด คราวนี้ล่ะ เพื่อนใน Facebook ที่เห็นแววเรา และหยิบยื่นงานเล็กๆ น้อยๆ ให้ทำได้บ้าง คุณก็จะมีรายได้หลายทางมากขึ้น

 
5. ลงทุนให้เงินงอกเงย

คราวนี้เราต้องมาคิดเรื่องการต่อยอดเงินที่เราพอมีเหลืออยู่ให้เพิ่มพูนขึ้นมา เช่นในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ลองใช้เวลาเก็บตู้เสื้อผ้า และชั้นรองเท้าของคุณ เลือกของที่ใส่ไม่ได้แล้ว หรือไม่ได้ใช้งานไปขายตามตลาดนัดมือ 2 ซึ่งนอกจากจะมีรายได้เสริมแล้ว ยังถือโอกาสทำความสะอาดบ้านของคุณรับปีใหม่ไปด้วย

 

หรือหากใครมีสามารถด้านการทำอาหาร ลองทำแล้วโพสต์ขายบน Facebook และInstragram ของคุณ ถ้าหากกลัวว่าทำแล้วจะขายไม่ได้ กลายเป็นเงินจม อาจเปลี่ยนไปใช้วิธีเปิดพรีออเดอร์ก่อนแล้วถ้าออเดอร์เข้าก็ทำตามจำนวนที่สั่ง แบบนี้ไม่ต้องกลัวขาดทุนเลยเพราะออเดอร์เท่าไหร่ก็ทำเท่านั้น ได้เงินเพิ่มแบบเก๋ๆ เผลอๆ คุณอาจจะกลายเป็นเจ้าของแบรนด์เล็ก ๆ ไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้

 

เอาเป็นว่าสำหรับใครที่เครียดกับเงินก้อนโตที่เพิ่งหมดไป คราวนี้ก็เลิกกังวลแล้วตั้งหน้าเก็บเงินก้อนใหม่ได้แล้ว jobsDB เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยาก หรือไม่คุณลองมองหางานในแบบที่คุณสนใจใน jobsDB ดูก็ได้นะ เอาที่คุณสบายใจได้เลย โชคดีปี 2017