ดร. สุริยา พูลวรลักษณ์ ดาวจรัสแสงแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์

ปี 2559 ที่ผ่านมาโดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง วงการอสังหาริมทรัพย์เรียกว่าคึกคักกันพอสมควรกับการทยอยเปิดโครงการใหม่ โดยเฉพาะคอนโดระดับลักซ์ชัวรี่ และดาวจรัสแสงที่ถูกจับตามองในวงการอสังหาริมทรัพย์ในปีที่ผ่านมาคงไม่พ้นชื่อของ ดร. สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

ภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ที่กล้าลงทุนในโครงการใหญ่มูลค่าหลายพันล้าน ทำให้ ดร. สุริยา พูลวรลักษณ์ ถูกจับตามองจากผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์อยู่ไม่น้อย สำหรับทายาทคนสุดท้ายของราชาวงการภาพยนตร์ จำเริญ พูลวรลักษณ์

แม้ว่าจะเติบโตขึ้นมาภายใต้ธุรกิจภาพยนตร์ของครอบครัว แต่ดร. สุริยา กล้าคิด กล้าทำ จึงลุกขึ้นมาฉีกแนวธุรกิจครอบครัวและปลุกปั้นธุรกิจของตัวเองกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

โครงการแรกของเส้นทางดีเวลลอปเปอร์ของดร. สุริยาเริ่มจากโครงการโฮมทาวน์ ภายใต้ชื่อ Garden View Carter Home ย่านรามคำแหง เมื่อปีพ.ศ. 2542 และเพียง 2 ปีต่อมาก็ขยายไปสู่ธุรกิจคอนโดกับโครงการ Hampton คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมในย่านทองหล่อ ซอย 10

เกือบ 20 ปีบนเส้นทางดีเวลลอปเปอร์ ดร. สุริยาพิสูจน์ความสามารถของการบริการธุรกิจมูลค่าหลายหมื่นล้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะที่เป็นคลื่นลูกหลัง และไม่แปลกเลยที่เขาจะคว้ารางวัลบุคคลแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ ประจำปี 2016 (Real Estate Personality of the Year) จากงานประกาศผล ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ 2016 ครั้งที่ 11 (Thailand Property Awards 2016) และยังส่งผลให้โครงการของเมเจอร์ฯ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในประเภทรางวัล Best Ultra Luxury Condo Development (Bangkok) อีกด้วย

“เมเจอร์ฯ ประสบความสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับ สภาพตลาดกำลังซื้อในเมืองไทยเป็นเรื่องที่นักลงทุนหลายคนให้ความสนใจ เพราะในช่วงปลายปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงที่ยากสำหรับธุรกิจอสังหาฯ แต่โครงการของเรากลับเติบโตไปได้ด้วยดี เป็นเพราะเรายึดวิชั่นที่ต้องการจะเป็น Top 5 สำหรับตลาดกลุ่มพรีเมียมที่เราโฟกัสมาตั้งแต่แรกแล้วว่า ตลาดกลุ่มพรีเมียมเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ เพราะมีกำลังซื้อ ทั้งซื้อเพื่อลงทุนหรือซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง จึงไม่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ

โจทย์หลักของเราคือการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและนำมาพัฒนาสินค้า หาอินโนเวชั่นใหม่เข้ามาเพิ่มมูลค่าให้โครงการ พัฒนาสินค้าให้ทันกับเทรนด์และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป สำคัญที่ต้องบริหารต้นทุนให้เกิดกำไรมากขึ้น เพราะต้นทุนสำหรับโครงการระดับพรีเมียมนั้น ส่วนใหญ่เป็นทำเลทองที่มีราคาที่ดินสูงมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เองที่จะทำอย่างไรให้แข่งขันได้ เช่นเดียวกันกับตลาดในภูมิภาคอาเซียนที่จะมีความหลากหลายขึ้นในอนาคต นักลงทุนจึงต้องโฟกัสกลุ่มลูกค้าของตนให้ชัดเจนเพื่อสร้างโอกาสที่เหนือกว่า”

เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ ส่วนหนึ่งอาจมาจากความสำเร็จของ 2 โครงการใหญ่ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมาอย่างโครงการ MARQUE Sukhumvit และ MUNIQ ซึ่งมาจากความทุ่มเทของดร. สุริยาและทีมงาน

ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำรุ่นใหม่ที่ว่า “วิสัยทัศน์ที่ปราศจากการลงมือปฏิบัติมันเป็นเพียงแค่ความฝัน” ส่งผลให้เกิดการสร้างแนวทางความคิด “อยู่ อย่าง ดี” ซึ่งเป็นหลักการคิดที่ง่ายและนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงกับโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ที่ให้ความสนใจในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย ภายใต้พื้นที่ใช้สอยที่จัดวางด้วยวัสดุคุณภาพอย่างลงตัว ใช้งานได้จริง ตอบทุกโจทย์ของการอยู่อาศัยแบบลักซ์ชัวรี่คอนเซ็ปต์ ทำให้ ดร.สุริยาเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหม่แห่งปีที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จอย่างงดงามในที่สุด

สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเมเจอร์ฯ มีแบรนด์ใหม่อย่าง มิวนีค (MUNIQ) โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ (Young Generation) และกลุ่มสตาร์ทอัพ (Startup) เป็นเจ้าของธุรกิจ ที่สนใจความก้าวหน้า คนกลุ่มนี้เลือกให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยที่มีความเป็นส่วนตัว โดยให้ความสนใจในเรื่องของวัสดุพรีเมียมและมีคุณภาพสูง การคมนาคมสะดวก เมเจอร์ฯ นิยามศัพท์ใหม่ว่า “Sensible Luxury” ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ภายใต้แนวคิด Live as Art ผสมผสานระหว่างศิลปะการใช้ชีวิตกับการออกแบบบนพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัว และตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่

ส่วนโครงการ มาร์ค สุขุมวิท (MARQUE Sukhumvit) ที่เปิดตัวพร้อมความโดดเด่นของวิวสกายไลน์ที่มีมูลค่าสูงที่สุด และมอบความเป็นส่วนตัวมากที่สุด ด้วยพื้นที่เกือบ 4 ไร่ ติดหน้าถนนหลักสุขุมวิท เรียกว่าลงตัวในทุกองค์ประกอบจนได้รับการตอบรับจากลูกค้าระดับไฮเอนด์เป็นอย่างดี

ความสำเร็จของเมเจอร์ฯ ในปัจจุบันอาจเป็นภาพสะท้อนของคลื่นลูกหลัง กับมุมมองแบบแตกต่างที่ดร. สุริยากล้าคิดและแสดงออก นั่นเพราะเขามุ่งมั่นที่จะเป็น Top 5 ของตลาดไฮเอนด์อย่างที่เขาบอกไว้นั่นเอง