อรชุมา ดุรงค์เดช สมการความสุข

อรชุมา ดุรงค์เดช เป็นที่คุ้นเคยกันดีในแวดวงสังคมที่มักปรากฎตัวบนสื่อให้เห็นกันบ่อยๆจนหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า เธอทำงานบ้างหรือเปล่า แต่ใครจะรู้ว่า อรชุมา ดุรงค์เดชหรือ เฟย์ทำงานหนักตลอด7 วันไม่มีหยุดกับบทบาทผู้บริหารใน 3 ธุรกิจ และด้วยลุคสุดเปรี้ยวใครเลยนึกถึงว่าเธอคือสาวนักการเงินตัวจริง

อรชุมา ดุรงค์เดช
อรชุมา ลูกสาวคนกลาง ของคุณพ่อฤทธิชัย และคุณแม่เพชรา ดุรงค์เดช ที่มีดีกรีปริญญาโทด้านการเงินจาก University of Auckland New Zealand หลังจากเรียนจบ อรชุมาเข้าร่วมงานในตำแหน่งCorporate Finance Division Bank of New Zealand ถึงสองปี ก่อนกลับมาดำรงตำแหน่ง Corporate Financial Division KPMG Thailand

หลังจากโลดแล่นในวงการการเงินที่เธอรักได้สักพัก คุณพ่อฤทธิชัยก็เอ่ยปากให้กลับมาช่วยงานธุรกิจครอบครัวอย่างบริษัท มาซูม่า จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจน้ำครบวงจรในเมืองไทย(Professional water Solusion)และทันทีที่ก้าวเข้ามารับตำแหน่งคุณพ่อฤทธิชัยกลับไม่ให้เธอทำงานด้านการเงินตามที่เธอถนัด แต่กลับให้เริ่มเรียนรู้งานในตำแหน่งฝ่ายขายและการตลาด นับว่ายากและท้าทายความสามารถและสร้างแรงกดดันให้อรชุมาไม่น้อยเลยทีเดียว

“คุณพ่อเอ่ยปากให้กลับมาช่วยธุรกิจที่บ้าน แต่กลับไม่ให้เฟย์ทำบัญชีการเงินเลย ให้ไปทำฝ่ายขาย การตลาด เพื่อจะได้ยากสำหรับเฟย์ ตอนนั้นเฟย์รู้สึกหงุดหงิดมากว่าทำไมให้เฟย์ไปทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวของเฟย์ แต่คุณพ่อบอกว่าทำไปก่อนเรียนรู้ไปก่อนแล้วเราจะเข้าใจเองว่าอีกหน่อยมันจะดียังไง ในหลักการของคุณพ่อคือลูกๆทุกคนควรจะทำได้มากกว่า1 ตำแหน่งเพราะเวลามีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นงานจะได้ไม่สะดุด ซึ่งมันก็เกิดขึ้นจริงๆ

ในช่วงที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ พี่ชายเฟย์คนที่ดูโรงงานไม่สามารถออกจากโรงงานได้ ทำให้ไม่สามารถเข้ามาบริหารงานในส่วนอื่นได้ ณตอนนั้นเฟย์และพี่ชายอีกคนก็ต้องเข้าไปดูแทน ซึ่งงานที่ออกมาก็ไม่สะดุดเป็นไปตามแผนที่คุณพ่อวางไว้ ”

อรชุมา ดุรงค์เดช

หลังจากเรียนรู้งานครบในทุกตำแหน่ง อรชุมาก็กลับมาบริหารงานในด้านการเงินที่เธอถนัดอีกครั้ง แต่คุณพ่อฤทธิชัยก็มองออกว่าง่ายเกินไปสำหรับลูกสาวคนเก่ง จึงมอบหมายให้เธอดูแลด้านการเงินของธุรกิจโรงรับจำนำ มี มันนี่ ธุรกิจแรกเริ่มอายุเก่าแก่กว่า50ปีของคุณพ่อฤทธิชัย ซึ่งเปิดตัวสาขาที่5ไปหมาดๆเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมกับนั่งตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ (ดูแลด้านฝ่ายการเงินและบัญชี) บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) จำกัด

และอีกหนึ่งธุรกิจที่หลายคนคุ้นหน้ากันดีคือ ไอซ์แลนด์สปริง ซึ่งอรชุมา นั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช ทู โอ ไฮโดร จำกัด

“มันมีความน่าสนใจและตลกเกิดขึ้นเพราะไม่ได้ตั้งใจจะทำเลย แต่เมื่อประมาน4-5ปีที่แล้ว เฟย์ได้เดินทางไปสัมนาที่ไอซ์แลนด์ กับพี่ชาย และได้เจอกับCEOของไอซ์แลนด์สปริง ซึ่งแนะนำให้พี่ชายคนโตที่ไปด้วยกันซึ่งเป็นโรคภูมิแพ้อย่างหนักดื่มน้ำแร่ตัวนี้วันละ4ขวด เป็นเวลา3เดือน ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่เชื่อแต่ 3เดือนผ่านไปอาการพี่ชายดีขึ้นจริงๆ เลยติดต่อกลับไปถามว่า ในน้ำมีอะไรรึเปล่า เค้าก็บอกว่าน้ำนี้มีคุณสมบัติที่ต่างจากน้ำยี่ห้ออื่นคือ มีค่าPHที่สูงที่สุดในโลก8.88 คือความเป็นด่าง และค่าของความบริสุทธิ์ ที่บริสุทธิ์มากๆ ทำให้เป็นน้ำเพื่อสุขภาพที่แท้จริง จากนั้นเราก็ตามไปดูถึงแหล่งผลิต ทีนี้คุณพ่อเลยสั่งแบบยกตู้คอนเทนเนอร์มาเลย”

อรชุมา ดุรงค์เดช

และแน่นอนว่าด้วยวิสัยทัศน์ทางด้านธุรกิจของคุณพ่อที่มองเห็นโอกาสธุรกิจจึงแนะนำให้ อรชุมา เป็นตัวแทนในประเทศไทย เมื่อนำเข้ามาอรชุมาได้กระจายสินค้าไปตามซูเปอร์มาร์เก็ต รวมทั้งร้านอาหารและโรงแรมระดับไฮเอนด์ รวมทั้งบริการเดลิเวอรี่ตามบ้าน แน่นอนว่าเป็นธุรกิจของตัวเองย่อมเหนื่อยมากเป็นธรรมดาเพราะนอกจากการเงินที่ถนัดยังต้องดูทั้งฝ่ายขาย การตลาด สต็อก คลังสินค้าที่กินเวลาทำงานของเธอถึง70% และยังต้องเอา30%ไปกระจายให้กับอีก2 บริษัท

ถึงจะต้องบริหารงานถึง3บริษัทพร้อมกันแต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับอรชุมาเพราะซึมซับหลักการทำงานและการใช้ชีวิตจากเวิร์กกิ้งแมน อย่างคุณพ่อ มาตั้งแต่เด็ก

“ คุณพ่อจะทำให้เราเห็นว่าใช้ชีวิตยังไง เวลาท่านทำอะไรแต่ละอย่าง ท่านจะกลับมาวิเคราะห์ว่า งานชิ้นนี้ทำแล้วได้อะไร อะไรดีหรือไม่ดีก็จะวิเคราะห์ มันคือนิสัยของคุณพ่อ เช่นเวลาที่เราไปเที่ยวต้องกลับมาวิเคราะห์ว่าได้อะไร มันทำให้เราคิดตลอดเวลา”

อรชุมา ดุรงค์เดช

แม้ว่าจะทำงานหนักตลอด 7วัน แต่ชื่อของอรชุมาไม่เคยว่างเว้นบนพื้นที่สื่อเลย นั่นเป็นเพราะวิธีแบ่งเวลาแบบนักการเงินที่ถอดออกมาเป็นสมการ หรือที่อรชุมาเรียกมันว่าสมการความสุข

“หลักการแบ่งเวลาได้มาจากคุณพ่อ หัวใจหลักคือการแบ่งเวลา จัดลำดับความสำคัญของงาน เฟย์ต้องวางแผนหรือจัดเวลาให้ลงตัว สมัยที่ทำงานแบงค์เฟย์ใช้ชีวิต 95%คือทำงานอีก5%คือการพักผ่อน ซึ่งมันหนักจนทำให้ไม่สบาย พอถึงจุดๆนึง ต้องมาจัดเวลาใหม่ เพราะสัดส่วนสมการความสุขเราต้องคิดดีดี ไม่ใช่ใช้ชีวิตตามน้ำไหล ตามกระแสสังคม เฟย์ปรับลดเวลาทำงานลงเหลือ65% และอีก35%ให้ครอบครัว เพื่อน สังคม และเพื่อส่วนตัว

ดั้งนั้นทุกต้นปีเฟย์จะวางแพลนว่าแต่ละบริษัทต้องทำอะไรบ้าง มีเวลา 7 วันวันละ2บริษัท และอีกหนึ่งวันสำหรับการใช้ชีวิต เฟย์จะเซ็ทไว้เลยว่าทุกปีต้องเที่ยว2สถานที่ใหม่ที่ยังไม่เคยไป และไปสถานที่เก่าที่เราชอบซึ่งก็จะมีการแพลนนิ่งให้มันเกิดขึ้นในทุกๆควอเตอร์

หรือในแต่ละวันก็ต้องวางแผนทุกเช้า เช่นตื่นมาต้องออกกำลังกาย ไปเข้าประชุม ออกมาสัมภาษณ์สื่อ แล้วกลับไปประชุม ถ้าช่วงไหนสอดแทรกได้ก็อาจไปนวดหน้านวดตัว ทุกคนรู้หลักการตัวนี้อยู่แล้ว แต่คำถามคือ ทำได้หรือเปล่า ”

อรชุมา ดุรงค์เดช

เรียกว่างานเต็มไม้เต็มมือแต่ก็จัดสรรเวลาใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว และช่วงนี้ อรชุมา คงต้องเหนื่อยหน่อยเพราะมาซูม่า กำลังเร่งปรับโครงสร้างเพื่อเดินเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตอันใกล้ และอีกหนึ่งความฝันของ5 พี่น้องดุรงค์เดชที่ตั้งใจทำให้ได้ภายใน5ปี คือการทำให้คุณพ่อฤทธิ์ชัยวางมือจากธุรกิจ และพักผ่อนกับลูกๆนั่นเอง