เป๊ปซี่โคขยายพอร์ตฯแตกไลน์ “ซันไบทส์”

เป๊ปซี่โค รุกตลาดถั่ว ขขยายพอร์ตฯขนมขบเคี้ยว เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ “ซันไบทส์”เจาะตลาด ‘มิลเลนเนียล’(Millennials)

บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวในเครือเป๊ปซี่โค ที่คนไทยคุ้นเคยกับสินค้าเป็นอย่างดีอย่าง มันฝรั่งทอดกรอบ “เลย์” และขนมมัลติเกรนอบกรอบ “ซันไบทส์” ที่ส่งออกมารุกตลาดรักสุขภาพก่อนหน้านี้ และด้วยเล็งเห็นศักยภาพของตลาดรักสุขภาพที่ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากธัญพืชที่เป็นทางเลือกของคนรุ่นใหม่ในระยะหลังมานี้
ล่าสุดเป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) จึงลุกขึ้นมาขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าภายใต้แบรนด์ “ซันไบทส์” โดยต่อยอดแบรนด์ไปในตลาดถั่วที่มีมูลค่าสูงถึง 3.5 พันล้านบาท ด้วยการเปิดตัวสองผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อบเกลือ และถั่วอัลมอนด์อบเกลือ ซึ่งการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ครั้งนี้เป็นไปเพื่อสอดรับกับนโยบายระดับโกลบอล ที่ต้องการสร้างการเติบโตทางธุรกิจไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและโภชนาการ และตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำแบรนด์ขนมขบเคี้ยวสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพ

วิชาล คาอูล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “ในฐานะผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศไทย เป๊ปซี่โคถือเป็นรายแรกที่ริเริ่มการบุกตลาดขนมขึ้นรูปเพื่อตอบสนองผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ขนมมัลติเกรนอบกรอบแบรนด์ ‘ซันไบทส์’ นับตั้งแต่ 2553 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและกลายเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง1ที่คนไทยนึกถึงในฐานะขนม ขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ (Healthier snack choice)”

“ในปีนี้ เราได้ขยายพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ซันไบทส์ไปในตลาดถั่วซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 3,500 ล้านบาท โดยเริ่มจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 ประเภท ได้แก่ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อบเกลือ และถั่วอัลมอนด์อบเกลือในไตรมาสสุดท้าย ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นตลาดแรกในโลกที่เป๊ปซี่โคที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประเภทถั่วภายใต้แบรนด์นี้ ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์การสร้างการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาวที่มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่หลากหลายและดีต่อสุขภาพให้กับผู้บริโภค” วิชาล กล่าวเสริม

ปัจจุบัน ตลาดขนมขบเคี้ยวประเภทถั่วถือเป็นหนึ่งในเซ็กเมนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด โดยในปีที่ผ่านมา (2558) เติบโตสูงถึงร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า3 ซึ่งเป็นผลมาจากเทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพและให้ความสำคัญกับการเลือกบริโภคมากขึ้น โดยรวมไปถึงขนมขบเคี้ยวที่ผู้บริโภคไม่เพียงมองหาทางเลือกใหม่ๆ ที่ต้องตอบโจทย์ทั้งความอร่อยและดีต่อสุขภาพควบคู่กัน

ทางด้านนิติน บันห์ดารี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวเสริมว่า “สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทถั่วภายใต้แบรนด์ซันไบทส์ เรามุ่งเจาะผู้บริโภคในกลุ่ม ‘มิลเลนเนียล’(Millennials) หรือคนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 20 – 35 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกิดมาในยุคดิจิตอล พึ่งพาเทคโนโลยีและการหาข้อมูลจากโลกออนไลน์ ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญอย่างมากกับการเลือกรับประทานอาหาร การดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ดังนั้น เราจึงได้เลือกเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราภายใต้แคมเปญที่ชื่อว่า ‘กินเมื่อไหร่…ก็รู้สึกดี’ โดยเน้นไปที่กิจกรรมสื่อสารการตลาดผ่านสื่อดิจิตอลและออนไลน์ รวมไปถึงสื่อ ณ จุดขายและในร้านค้าเป็นหลัก”
ทั้งนี้ ซันไบทส์เปิดตัวทั้งสองผลิตภัณฑ์ในขนาดซิงเกิ้ลเสิร์ฟ (Single-serving) ที่เหมาะสำหรับการบริโภคคนเดียว โดยเมล็ดมะม่วงหิมพานต์อบเกลือบรรจุในซองขนาด 35 กรัม ในขณะที่ถั่วอัลมอนด์อบเกลือบรรจุในซองขนาด 30 กรัม ในราคา 32 บาท มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ
“นอกจากขนมมัลติเกรนอบกรอบ ขนมข้าวกล้องอบกรอบ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์และถั่วอัลมอนด์แล้ว เรายังเตรียมศึกษาและพัฒนาสินค้าประเภทถั่วให้มีความหลากหลายและโดนใจคนรุ่นใหม่ เพื่อตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอของบริษัทในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ (good-for-you portfolio) ในอนาคต” นิติน กล่าวสรุป

5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ถั่วจากแบรนด์ “ซันไบทส์”

1. เป๊ปซี่โค (ผู้ผลิตมันฝรั่งทอดกรอบ เลย์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรุกตลาดขนมขบเคี้ยวประเภทถั่ว คือ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ และถั่วอัลมอนด์อบเกลือ ภายใต้แบรนด์ ‘ซันไบทส์’ โดยประเทศไทยถือเป็นตลาดแรกในโลกที่เป๊ปซี่โคเลือกเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประเภทถั่วภายใต้แบรนด์นี้ในแคมเปญที่ชื่อว่า “กินเมื่อไหร่…ก็รู้สึกดี”

2.ตลาดขนมขบเคี้ยวประเภทถั่วมีมูลค่าสูงถึง 3,500 ล้านบาท และถือเป็นหนึ่งในเซ็กเมนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด โดยในปี 2558 ที่ผ่านมาเติบโตสูงถึงร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงเทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและให้ความสำคัญกับการเลือกบริโภคมากขึ้น

3.เป๊ปซี่โค เลือกเปิดใช้แบรนด์ “ซันไบทส์” เพราะเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในฐานะขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ (Healthier snack choice) หลังเป็นผู้บุกเบิกทำตลาดขนมขบเคี้ยวสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพในเมืองไทยมาตั้งแต่ปี 2553 ปัจจุบันมีสองผลิตภัณฑ์หลัก คือ ขนมมัลติเกรนอบกรอบ ‘ซันไบทส์’ และขนมข้าวกล้องอบกรอบ ‘ซันไบทส์ ไรซ์’

4. ผลิตภัณฑ์ถั่วของซันไบทส์มุ่งเจาะกลุ่ม ‘มิลเลนเนียล’(Millennials) หรือคนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 20 – 35 ปี ซึ่งเกิดในยุคดิจิตอล (Digital native) พึ่งพาเทคโนโลยีและชอบหาข้อมูลจากโลกออนไลน์ ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญอย่างมากกับการเลือกรับประทานอาหาร การดูแลสุขภาพและการออกกำลังกาย

5. การขยายพอร์ตโฟลิโอของซันไบทส์ในครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ระดับโกลบอลของเป๊ปซี่โคที่มุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและโภชนาการ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่หลากหลายและดีต่อสุขภาพ (Good-for-you portfolio) ให้กับผู้บริโภคมากขึ้น