ขับรถผ่านสำนักงานงานใหญ่บริษัทการบินไทยฯ ริมถนนวิภาวดีรังสิตไปไม่ไกล ชิดซ้ายสังเกตปั้มน้ำมัน Susco ปากซอยวิภาวดี 20 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพบกับสามแยกเลี้ยวขวาขับตามถนนสังเกตป้ายปากซอยแยก 4 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ VIP Condo เจ้าของเดียวกันกับร้านอาหารเวียดนามรสชาติสุดล้ำ ‘คาเฟ่ ลาเมซอง’
บนพื้นที่เดียวกัน แบ่งเป็นอาคาร 2 หลังที่เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินโดยรอบ หลังคาสูงโปร่งโล่งสบายตา ฝั่งหนึ่ง คือ ‘บ้านกาแฟ’ เข้มข้นกับเอสเปรสโซ หรือจะเป็นอเมริกาโน ลาเต้ คาปูชิโน จะจิบแบบร้อน เย็น หรือปั่น นั่งจิบกาแฟทอดอารมณ์ฟินได้แบบไม่ต้องเร่งรีบ
ขณะที่อีกฝั่งมี 2 ชั้น ด้านล่างคือ ร้านอาหารเวียดนาม ‘คาเฟ ลาเมซอง’ ส่วนชั้นบนเป็นห้องอเนกประสงค์ รับจัดงานสัมมนา จัดเลี้ยง 30-50 คนได้สบายๆ หรือจะใช้เป็นสถานที่เปิดตัวสินค้าก็มีพื้นที่รองรับได้เพียงพอ
ปีนี้ลมหนาวมาสาย ระเบียงไม้ด้านนอกร้านฝั่ง ‘บ้านกาแฟ’ จึงยังขาดความเริงร่าเคียงคู่กับเบียร์สดเย็นยะเยียบ มีเพียงเมนู ‘เฝอหม้อไฟ’ ที่ทางร้านพร้อมเสิร์ฟเตรียมไว้รอท่า น้ำซุปเฝอร้อนๆ จะหมู แฮม หรือเนื้อสไลด์มาบางเบา ขนาดพอดีคำก็เลือกสั่งได้ หรือจะสั่งแยกมาลวกพร้อมเส้นก็ฟินไปอีกแบบ…
หรือจะสั่งมาแบบยกชุดทะเลวางเรียงด้วย กุ้ง ปลาหมึก ปลาเก๋าสไลด์เนื้อออกมาบางๆ คีบจุ่มลงไปในหม้อที่น้ำกำลังเดือดปุดปุด เนื้อปลาสะดุ้งพบกับความร้อน อย่ารีรอรีบจุ่มลงไปในน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้าน กับและอีกหลายอย่างสั่งเพิ่มแยกเป็นจานๆ
น้ำจิ้มสูตรล้ำของทางร้าน เสริมเพิ่มเติมให้ถูกกับจริตในรสชาติของคนไทย ไม่เผ็ดจี๊ดจ๊าด ไม่เปรี้ยวกระโดดกำแพง แต่คงด้วยรสชาติพอดีๆ แบบพอเพียง เด็กก็ทานได้ ผู้ใหญ่ก็กวาดจนเกลี้ยงถ้วย…

ทานเฝออุ่นๆ สุกี้สไตล์เวียดนาม ลมหัวค่ำพัดเอื่อยๆ จิบเครื่องดี่มที่คุณชอบอีกสักแก้ว ชิลล์เลย…
กวาดสายตา ชี้นิ้วไปที่ ‘หมูย่างใบชะพลู’ หมูและมันหมูบด เนียนนุ่มละไมลิ้น กลิ่นรากผักชี กระเทียม พริกไทย ตะไคร้โชยออกมาอย่างบางเบา สั่งซ้ำจานสอง เหตุผล…เพราะอร่อย!!
จานที่อยู่ใกล้ตัว ‘ข้าวเกรียบปากหม้อเวียดนาม’ อาหารว่างของเวียดนามอีกหนึ่งเมนูที่นิยมทานกันมากในประเทศไทย ตัวแป้งที่คล้ายกับปากหม้อไทย ต่างกันที่ตัวไส้ ปากหม้อญวนจะใช้หมูบด ต้นหอมนำมาปรุงรสผัดรวมกัน ทานกับหมูยอ และผักเคียง
พิถีพิถันกับวัตถุดิบ นำด้วยแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน แป้งท้าวยายม่อม ตัวแป้งจับตัวห่มคลุมมิดกับเหล่าไส้นำด้วยกระเทียมส่งกลิ่นหอมฉุ๋ย ต้นหอม (ซอย) ซีอิ๊วขาว และน้ำมันหอย ปิดท้ายด้วยพริกไทย ส่วนประกอบน้ำจิ้ม พริกชี้ฟ้าแดง แครอท (ขูดฝอย) ไชเท้า (ขูดฝอย) ถั่วลิสง (คั่ว-ป่น) ทานกับ เครื่องเคียงสารพัดผัก ผักกาดหอม ใบโหระพา ใบสะระแหน่ แผล็บเดียว เกลี้ยงจาน!!…
ชี้นิ้วไปยัง ‘ขนมจีนหมูย่าง’ อาหารนี้เป็นของชาวเวียดนามภาคเหนือ มีชื่อเสียงมากที่ฮานอย ไม่ได้มีแต่หมูย่าง ที่กลบมิดเส้นขนมจีนเสริมปอเปี๊ยะทอด แหนมเนือง เวียดนามเรียกว่า ‘บู๊นจ๋า’ เป็นขนมจีนชนิดหนึ่งในเวียดนาม โดยเป็นการรับประทานขนมจีนกับหมูย่าง ซึ่งมีทั้งหมูสับเป็นก้อนย่างหรือหมูสามชั้นย่าง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และกินคู่กับซอสรสเค็มหวานที่ใส่มะละกอดองและแครอทดอง ทานแกล้มกับผักหลายชนิดที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้
ยังมีอีก 2 จานเด่น ที่ทางร้านส่งลงเป็นตัวจริงทุกวัน ‘หมูสเต็ก’ สูตรของทางร้านหมักเอง ย่างส่งควันฉุยอยู่หลังร้าน สูตรเฉพาะของทางร้าน ส่วนประกอบที่มีอยู่แน่ๆ คือ ถั่วลิสงบด กะทิ น้ำตาลปี๊ป น้ำมะขามเปียก ออกมาจากครัวด้านในให้รีบทานทันที จะได้ความชุ่มฉ่ำของเนื้อหมูอยู่ครบถ้วน
อีกหนึ่งจานสูตรเฉพาะของทางร้าน ‘หมูคลุกฝุ่น’ ฝุ่นที่ว่าก็คือ ‘ข้าวคั่ว’ ที่หอมฟุ้ง ย่างไฟคลุกเคล้าไปกับข้าวคั่วที่เกาะอยู่ที่ริมขอบหมูทุกชิ้น กรอบ เนียน นุ่ม เคี้ยวเพลินแผล็บเดียวเกลี้ยงไปอีกจาน

เมนูนี้ไม่สั่งก็ไม่รู้ว่าจะมาทานอาหารเวียดนาม หาสวรรค์ วิมาน ชั้นไหนหรืออย่างไร ‘แหมนเนือง’ ร้านอาหารเวียดนามทุกร้านในเมืองไทยต้องมีอยู่คู่เมนูอันดับต้นๆ
หากแต่ว่าทีเด็ดของแหนมเนืองร้าน คาเฟ ลาเมซอง อยู่ตรงที่ว่า ผู้ทำแหนมเนืองนำส่งตรงเข้าร้านอยู่ทุกวัน เป็นชาวเวียดนามแท้ๆ ที่รักชอบพอกันกับทางร้าน แหนมเนืองที่นี่เสิร์ฟมาแบบเป็นก้อนลูกชิ้น เต็มปาก เต็มคำ กดไลท์ถึงความอร่อยกันได้เลย
สิ่งสำคัญที่ไม่ง่ายเลยอีกอย่างหนึ่งของอาหารเวียดนาม ก็คือ น้ำจิ้ม และน้ำจิ้มแต่ละตัวก็มีสัดส่วน วิธีทำ อีกทั้งสูตรลับและไม่ลับต่างๆ อีกมากมาย ที่แตกต่างหลากหลายกันไปอีกด้วย
ช่วงนี้มีมะเฟืองเป็นเครื่องเคียงเสริม ไว้กลบความขื่นของกล้วยดิบเสียอยู่หมัด จะซัดกันแบบจานเล็ก หรือจะจัดมาแบบชุดใหญ่ ที่มีแหนมเนืองนอนเรียงกันมาเป็นลูกๆ ก็สุดแท้แต่…
ของหวานเป็นผลไม้ตามฤดูกาล ช่วงนี้ทางร้านนำเสนอ ‘ฟักข้าว ลองกอง น้อยหน่า ลอยแก้ว หวานชุ่มลื่นคอและดีต่อสุขภาพ