The Business Plus บิสิเนสพลัส
กสิกรไทยตั้งกองทุน 1,000 ล้านบาท เปิดตัว Beacon Venture Capital หวังใช้เป็นหน่วยงานที่ทำการร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพ ตั้งเป้าปี 60 เน้นลงทุนสตาร์ทอัพโดยตรง 3 – 5 แห่ง และลงทุนในกองทุน VC อื่น ๆ 2 – 3 แห่ง เริ่มลงทุนในรูปแบบ Venture Capital (VC) กับ “FlowAccount” สตาร์ทอัพของไทยเป็นรายแรก และยังมีแผนลงทุนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการอีก 2 ดีล รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
ขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยได้จัดตั้ง บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon Venture Capital Co.,Ltd.) หรือ Beacon VC ภายใต้แนวคิด The Next Building Block ขึ้น โดยธนาคารถือหุ้น 100% เพื่อร่วมลงทุนในกองทุน VC หรือสตาร์ทอัพ โดยมีวงเงินลงทุนเริ่มต้น 1,000 ล้านบาท และมีนโยบายการลงทุน 2 รูปแบบ ได้แก่การลงทุนโดยตรง (Direct Investment) ทั้งสตาร์ทอัพไทยและต่างประเทศ และการลงทุนผ่านกองทุนเงินร่วมลงทุน (Venture Capital Fund) ชั้นนำ
กสิกรไทยจะมุ่งสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงิน และเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ที่สอดคล้องและสามารถรองรับแผนยุทธศาสตร์ของธนาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการกำหนดยุทธศาสตร์หลักในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสนับสนุนธุรกิจของธนาคารในด้านต่าง ๆ ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความต้องการบริการดิจิทัล แบงกิ้งเพิ่มขึ้น และเป็นหนึ่งในความร่วมมือกับพันธมิตรสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวเพื่อการเติบโตของธุรกิจที่ยั่งยืน
ด้านธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด กล่าวว่า สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้นั้น บีคอนพร้อมที่จะลงทุนในฟินเทคสตาร์ทอัพประมาณ 3–5 แห่ง และลงทุนผ่านกองทุนเงินร่วมลงทุนประมาณ 2–3 แห่ง ซึ่งการจัดตั้งบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล นี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ของการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันเชิงกลยุทธ์ด้านดิจิทัล (Strategic Digital Capability) ให้แก่ธนาคาร ซึ่งที่ผ่านมากสิกรไทยได้ก่อตั้ง KBTG เพื่อมุ่งคิดค้นนวัตกรรม ร่วมกับพันธมิตรทางเทคโนโลยี และจับมือฟินเทคและเทคสตาร์ทอัพสร้างนวัตกรรมทางการเงินรองรับดิจิทัล แบงกิ้งที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
ล่าสุด บีคอนเวนเจอร์ ได้เป็น Corporate Venture Capital ของธนาคารแห่งแรกของไทยที่ได้เลือกลงทุนในรูปแบบร่วมลงทุน (VC) ในสตาร์ทอัพไทย คือ บริษัท FlowAccount โดยจะเป็นผู้ลงทุนหลัก (Lead Investor) พร้อมกับนักลงทุนอื่นอีก 3 ราย ซึ่ง FlowAccount เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพที่ได้ร่วมงานกับทางธนาคารอยู่แล้ว จึงถือเป็นความร่วมมือที่ลงตัวทั้งธนาคาร ลูกค้า และบริษัทที่เป็นสตาร์ทอัพ
นอกจากนี้ทาง Beacon VC ยังมีการลงทุนผ่านกองทุนเงินร่วมลงทุน (VC Fund) ในสิงคโปร์ชื่อ Dymon Asia ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนเงินร่วมลงทุนชั้นนำของเอเชียที่เน้นลงทุนทางด้านฟินเทค และยังมีแผนลงทุนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการอีก 2 ดีล รวมมูลค่าการลงทุนทั้งหมดกว่า 200 ล้านบาท
ธนพงษ์กล่าวว่า ด้วยการดำเนินงาน Beacon VC เมื่อรวมกับเทคโนโลยีดิจิทัลของ KBTG ผนวกกับความร่วมมือของธนาคารกสิกรไทยในรูปแบบ Digital Partnership จะช่วยเติมเต็มให้ระบบนิเวศน์ให้สมบูรณ์ทั้ง 3 หน่วยงานของธนาคาร คือ Digital Partnership KBTG และ Beacon VC จะช่วยส่งเสริมให้สตาร์ทอัพเติบโต มั่นคง และนำความยั่งยืนมาสู่ธนาคารในระยะยาว
นอกจากนี้ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทยได้อนุมัติให้ KBTG เข้าร่วมทดสอบบริการการเงินรูปแบบใหม่ใน เป็นรายแรก โดยเป็นบริการที่ดึงเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการพิจารณาออกหนังสือค้ำประกันให้ลูกค้า
