ตลาดคอนโดฯในพัทยาอาจยังคงคาดการณ์ได้ยาก นักพัฒนาหลายแห่งเริ่มชะลอการเปิดตัวโครงการคอนโดฯใหม่ๆ
พจมาน วรกิจโภคาทร ผู้อำนวยการด้านการตลาดและงานขายด้านโครงการที่อยู่อาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดคอนโดฯในพัทยาอาจยังคงคาดการณ์ได้ยาก นักพัฒนาหลายแห่งเริ่มชะลอการเปิดตัวโครงการคอนโดฯใหม่ๆในช่วงครึ่งปีแรก 2016 โดยมีเพียง 182 หน่วยที่เปิดตัวไป ซึ่งคิดเป็นอุปทานรวม 60,696 ยูนิตในช่วงครึ่งปีแรก 2016 อัตราการครอบครองแสดงการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 66 ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2016 จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 62 ในปี 2015
ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเติบโตอย่างช้าๆของจำนวนอุปทานใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก 2016 โดยในช่วงนี้มีจำนวนคอนโดฯเพียง 2,876 ยูนิตที่สามารถขายออก ปริมาณยูนิตที่ขายออกแสดงการลดลงไปตั้งแต่ช่วงปี 2015 จนถึงช่วงครึ่งปีแรก 2016 จำนวนยูนิตที่ขายออกโดยเฉลี่ยในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 6,000-6,500 หน่วย สำหรับในปี 2015 ยูนิตใหม่ๆที่ขายออกลดลงไปที่ 5,733 ยูนิต นักพัฒนาหลายแห่งพยายามเคลียร์หน่วยที่ว่างอยู่โดยให้ยื่นข้อเสนอการันตรีผลตอบแทนค่าเช่าที่ร้อยละ 5-7 ภายในช่วงสามปีแรกหลังคอนโดฯเสร็จสมบูรณ์
สำหรับด้านราคาขาย ราคาคอนโดฯติดวิวทะเลในพัทยาเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ในช่วงครึ่งปีแรก 2016 โดยเพิ่มขึ้นจาก 117,466 บาทต่อตร.มในปี 2015 ไปที่ 119,795 บาทต่อตร.มในช่วงครึ่งปีแรก 2016 ส่วนราคาคอนโดฯที่วิวติดทะเลบางส่วนและแบบไม่มีวิวทะเลยังคงมีราคาค่อนข้างคงที่อยูที่ 67,900 บาท และ 66,925 บาทต่อตร.ม ตามลำดับ
แนวโน้มอุปทาน
การเปิดตัวของอุปทานคอนโดฯใหม่ๆในพัทยาแสดงการชะลอตัวลง โดยมีเพียง 182 หน่วยในช่วงครึ่งปีแรก 2016 โดยในช่วงนี้อุปทานสะสมของคอนโดฯในพัทยาถูกบันทึกไว้ที่ 60,696 หน่วย โครงการใหม่ๆที่เปิดตัวไปในช่วงครึ่งปีแรก 2016 อยู่ในเขตพระตำหนัก สำหรับสี่โครงการที่เปิดใหม่ไปในช่วงนี้ ได้แก่ Turtle Creek Pattaya, New Nordic C View Boutique, New Nordic Club 4, และParadise Ocean View Residence สำหรับด้านทำเลที่ตั้งคอนโดฯในพัทยา อุปทานใหม่ๆส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณหาดจอมเทียน โดยมีประมาณร้อยละ 37 จากจำนวนรวมทั้งหมด ตามติดมาด้วยบริเวณพัทยาใต้และเขตวงศ์อมาตย์ คิดเป็นอัตราประมาณร้อยละ 16 และ 14 ตามลำดับ
แนวโน้มอุปสงค์
กลุ่มผู้ซื้อคอนโดฯในพัทยามีการเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ช่วงปี 2010 โดยก่อนหน้านี้พัทยาเป็นเมืองที่พักและท่องเที่ยวที่ชื่นชอบของชาวรัสเซีย, ชาวเยอรมนี, ชาวตะวันออกกลาง, ชาวออสเตรเลีย, และชาวอินเดียที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ นอกจากนี้พัทยายังดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจซื้อบ้านไว้หลังการเกษียณหรือเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศติดชายทะเล ชาวรัสเซียนับเป็นผู้ซื้อรายหลักในตลาดอสังหาฯพัทยา แต่ปริมาณผู้ซื้อกลุ่มดังกล่าวมีการลดลงไปอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี 2014 หลังวิกฤติค่าเงินรูเบิลส่งผลกระทบแก่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียและกำลังซื้อของพวกเขา ซึ่งลดลงไปมากหากเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า
ริษิณี สาริกบุตร ผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยกล่าวเสริมว่า ผู้ซื้อคอนโดฯในพัทยากลุ่มใหม่คือชาวจีน แม้ว่าผู้ซื้อชาวจีนจะเป็นตัวทดแทนผู้ซื้อชาวรัสเซีย แต่ตลาดคอนโดฯในพัทยาก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ในปี 2015 ปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ไปเที่ยวพัทยาแสดงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.45 ในขณะที่ปริมาณนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียลดลงไปถึงร้อยละ 50 นักลงทุนชาวจีนเริ่มทำการซื้อคอนโดฯในพัทยาเพื่อการลงทุน คอนโดฯส่วนใหญ่ที่ผู้ซื้อชาวจีนซื้อไปมีเฟอร์นิเจอร์รวมอยู่ด้วยและราคาขายต่อหน่วยก็ไม่เกิน 5 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรก 2016 มีจำนวน 40,361 หน่วยที่ขายออกจาก 60,696 หน่วยรวมทั้งหมด หรือคิดเป็นอัตราการขายออกที่ร้อยละ 66 อัตราการขายออกแสดงการเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 62 ในปี 2015 ไปที่ร้อยละ 66 ในช่วงครึ่งปีแรก 2016 ทั้งนี้เป็นผลมาจากการชะลอตัวของหน่วยที่เพิ่งเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรก 2016
แนวโน้มราคา
สำหรับราคาขายคอนโดฯในพัทยา วิวคอนโดฯนับเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบด้านราคาเป็นอย่างมาก ยูนิตคอนโดฯติดวิวทะเลมีราคาขายเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 119,795 บาทต่อตร.ม.ในช่วงครึ่งปีแรก 2016 โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากเดิมอยู่ที่ 117,446 บาทต่อตร.ม.ในปี 2015 ส่วนยูนิตคอนโดฯที่ติดวิวทะเลบางส่วนและแบบไม่มีวิวทะเลมีราคาค่อนข้างคงที่หรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยอยู่ที่ 67,900 บาท และ 66,925 บาทต่อตร.ม. ตามลำดับ