ไอซ์แลนด์ ประเทศที่ใครหลายคนๆ ใฝ่ฝันว่าสักวันจะต้องไปเยือนให้ได้ โดยเฉพาะคนที่หลงใหลในความมหัศจรรย์ของออโลร่า หรือ แสงเหนือ ความแปลกประหลาดที่ธรรมชาติสรรค์สร้างและแต่งแต้มความงามสีเขียวมรกตบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

ไอซ์แลนด์ เป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มนอร์ดิก (Nordic) ซึ่งประกอบไปด้วยนอร์เวย์, สวีเดน, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์ และดินแดนปกครองตนเองอย่าง กรีนแลนด์ หมู่เกาะแฟโร (Færøerne) และหมู่เกาะโอลันด์ (Åland)

ไอซ์แลนด์มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะที่มีขนาดไม่ใหญ่มากและมีประชากรเบาบาง และมีธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น ธารน้ำตก ภูเขาไฟที่รอวันปะทุ ถ้ำน้ำแข็ง เทือกเขา ป่าสน แสงเหนือ รวมไปถึงปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน

ถ้าพูดถึงสภาพอากาศของไอซ์แลนด์นั้นมีความแปรปรวนอย่างมาก ภายในวันเดียวอาจจะพบสภาพอากาศหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฝนตก ลูกเห็บตก สลับกับแดดออกหรือลมหนาว และกลับไปฟ้าเปิดและฝนตก หรือหิมะลงหนักอีกก็ได้ ดังนั้นควรจะเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับสภาพต่างๆ ด้วย

สภาพอากาศฤดูต่างๆ ของไอซ์แลนด์

ฤดูหนาว – อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ -3 ถึง 2 องศาเซลเซียส ช่วงเดือนธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ ไปจนถึงต้นเดือนมีนาคม อากาศหนาวจะหนาวเย็น ท้องฟ้ามืด และในคืนที่ฟ้าปลอดโปร่งสามารถมองเห็นแสงเหนือ (Aurora) ได้ชัดเจนและมีความเข้มข้นของแสงสูง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ด้วย

ฤดูใบไม้ผลิ – อุณหภูมิเฉลี่ย 4-9 องศาเซลเซียส เริ่มต้นตั้งแต่เดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม ภาพของหิมะขาวโพลนจะเหลือเพียงหิมะขาว ๆ ประปรายตัดสลับกับหิมะละลายทำให้เห็นสีสันของพื้นดิน ต้นไม้ ใบหญ้า

ฤดูร้อน – อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 13-20 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม จะเป็นช่วงที่อากาศกำลังอุ่นสบาย ๆ และเป็นช่วงเวลายอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต่างหลั่งใหลกันเข้ามาสัมผัสประสบการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนที่ยาวนาน

ส่วนฤดูใบไม้ร่วง – อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ราว ๆ 10-12 องศาเซลเซียส ช่วงเดือนกันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน สีสันของใบไม้ก่อนร่วงหล่นที่ทั้งสีส้ม สีแดงอ่อนไปจนถึงแดงจัด สีเหลืองอ่อนไปจนเข้มจัดเป็นอีกบรรยากาศที่น่าสนใจ

สถานที่แรกที่แนะนำคือ แหลมสแนเฟลล์เนส ภูเขาเคิร์คจู (Bardur Snaefellsas) ทางภาคตะวันตกของไอซ์แลนด์ ที่นี่เราสามารถชมความงามของ น้ำตกฮรุนฟอสส์ ที่เป็นชั้นลดหลั่นกันลงมา

 

ภูเขาเคิร์คจูเฟล (Kirkjufell) ทางตอนเหนือของแหลมสแนเฟลล์เนสที่หลาย ๆ เป็นยอดเขารูปกรวยคว่ำ มีน้ำตก และธารน้ำรายรอบเป็นภาพสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ก็ว่าได้

เส้นทางยอดนิยมหรือที่รู้จักดีในชื่อ เส้นทางแห่งวงแหวนทองคำ หรือ Golden Circle เก็บภาพภูมิทัศน์ตลอดสองข้างทางยาวไปจนถึงมรดกโลกซิงเควลลิร์ (Thingvellir) ตั้งอยู่ตรงรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และภูเขาไฟเฮนกิลล์ (Hengill)

 

น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (GullfossX) น้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ความกว้างกว่า 1 กิโลเมตร ลดหลั่นเป็นชั้น ๆ รวม 3 ชั้น โดยช่วงแรกมีความสูง 11 เมตร และช่วงที่สองสูง 21 เมตร มีรอยแยกอันเป็นทางเดินของน้ำกว้างประมาณ 20 เมตร ลึก 32 เมตร ยาวโดยรวมประมาณ 2.5 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางเลียบน้ำตกจะมีละอองน้ำจำนวนมากโปรยปรายตลอดเส้นทาง ทำให้เก็บภาพกันยากสักหน่อยแถมเปียกปอนกันเป็นแถว ๆ

 

 

น้ำพุร้อนกีเซอร์ (สโตรกคัวร์) Strokkur Geyser อย่างที่เกริ่นก่อนหน้านี้ว่าประเทศไอซ์แลนด์เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟมากกว่า 120 ลูก จึงไม่แปลกที่เกือบทั่วประเทศจะมีพุน้ำร้อนกีเซอร์ โดยกีเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ มีชื่อเรียกว่า สโตรกคัวร์ เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ ทำให้พื้นที่โดยรอบปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันจากไอร้อนที่พวยพุ่งขึ้นมาจากใต้ผิวโลกตลอดทั้งวัน พร้อม ๆ กับกลิ่นกำมะถันที่ลอยออกมาพร้อมกับละอองน้ำ ซึ่งจะพบได้เพียงไม่กี่แห่งทั่วโลก จัดได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมมชาติที่หาดูได้ยากชนิดหนึ่งรับรองว่ามาแล้วคุ้มแน่นอน

 

 

น้ำตก Bruarfoss Waterfall น้ำตกที่งดงามมากแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ ก่อนเข้าชมปากปล่องภูเขาไฟเคิร์ธ มีถนนลาดยางอย่างดีไปจนถึงปากปล่อง สามารถเดินวนรอบปล่องภูเขาไฟที่มีทะเลสาบมรกตอยู่ตรงกลางได้ จุดนี้ใช้เวลาเดินราว 20 นาที เป็นหนึ่งในสถานที่มหัศจรรย์ของไอซ์แลนด์

 

 

จุดหมายสุดท้ายของEp.นี้คือ น้ำตกสโคร์กาฟอส์ส Skogarfoss Falls ซึ่งน้ำตกแห่งนี้มีขนาดใหญ่ สูงถึง 61 เมตร เป็นน้ำตกที่ชั้นสูงที่สุดในไอซ์เเลนด์ ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลที่ถาโถมลงมาทำให้น้ำตกแห่งนี้ยิ่งดูอลังการ ดังนั้นจุดนี้จึงเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพ รวมทั้งสารคดีหรือนิตยสารก็ชอบมาเก็บภาพที่น้ำตกแห่งนี้ไปเผยแพร่ทั่วโลก

 

Ep.หน้าเราจะพาผู้อ่านไปสัมผัสความงาม หาดทรายดำ และบลูลากูลอันขึ้นชื่อ รวมทั้งชื่นชมความสวยงามและสถานที่น่าสนใจของเมืองเรคยาวิก (Reykjavík)

 

ผู้เขียน : ศตวรรษ