เมเจอร์ โพรเจกต์ ฉลองความสำเร็จ เปิดตัว YARD 49 เฟส 2 คอมมูนิตี้บนทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ กิน-ดื่ม-พักผ่อน บรรยากาศสวนป่ากลางกรุง

เมเจอร์ โพรเจกต์ ฉลองความสำเร็จ เปิดตัว YARD 49 เฟส 2
คอมมูนิตี้บนทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ กิน-ดื่ม-พักผ่อน บรรยากาศสวนป่ากลางกรุง

ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ บริษัท เมเจอร์ โพรเจกต์ จำกัด หลัง YARD 49 (ยาร์ด โฟร์ตี้ไนน์) เฟส 1 ย่านสุขุมวิท 49 ที่ประสบความสำเร็จในฐานะคอมมูนิตี้แนวราบ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ “ป่าใจกลางเมือง” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่แบบโดนใจ จนได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัท ฯ เปิดตัว YARD 49 เฟส 2 ทียังคงแนวคิด “ไม่ซ้ำ และ ไม่เหมือนใคร” โดยมาพร้อมร้านอาหารชื่อดัง พร้อมเติมเต็มสีสัน และทางเลือกใหม่ให้กับผู้ที่กำลังมองหา ความแปลกใหม่ ทั้งบรรยากาศ และรสชาติของอาหาร รวมถึงวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม ที่จะมารังสรรค์เป็นอาหารเลิศรส ให้กับลูกค้าได้อิ่มอร่อย ก่อนเผยในเร็วๆ นี้ เตรียมพบโครงการใหม่ในเร็วๆ นี้อีก 2 โครงการใหม่ คือ Prime Thonglor และ YARD แห่งใหม่ ที่จะเปิดให้บริการในปี 2569

คุณวิษณุ จิตศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เมเจอร์ โพรเจกต์ จำกัด เปิดเผยว่า วันนี้ โครงการ YARD 49 ถือว่า ได้รับความนิยมอย่างมากนับตั้งแต่เริ่มเปิดโครงการ เมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา “ความสำเร็จที่เกิดขึ้นของ YARD 49 ในวันนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจาก การทำคอนเซ็ปต์ ที่ไม่ซ้ำใคร และไม่มีใครเหมือน โดยเฉพาะ การให้ความสำคัญกับ พื้นที่สวน ที่เปรียบเสมือน ป่าใจกลางเมือง ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญ ที่มาตอบโจทย์ผู้บริโภคในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังมองหาธรรมชาติใกล้ตัว”

นั่นจึงเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของโครงการ YARD 49 “ตัวพื้นที่โครงการ คอมมูนิตี้ของเรา มีความแตกต่างไปจากคอมมูนิตี้อื่น เพราะเราให้ความสำคัญกับพื้นที่เช่า โดยโฟกัสที่พื้นที่สวน และส่วนกลางอยู่ที่ 50% และพื้นที่เช่าสำหรับร้านค้าอีก 50% ถือเป็นไฮไลท์สำคัญ ที่ดึงดูดลูกค้าเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งตามโจทย์ที่เราตั้งไว้ เราอยากให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการตั้งแต่เช้าประมาณ 07.00 น. ไปจนถึง ช่วงเวลาดึก ขณะเดียวกัน ผู้เช่า หรือ ผู้ประกอบการของเรา ก็เป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้โครงการ YARD 49 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยที่ผ่านมา ทั้งเราและผู้ประกอบการต่างร่วมกันคิดหาไอเดีย และคอนเซ็ปต์ การทำร้านร่วมกัน ทั้งการวางคอนเซ็ปต์ และ การตกแต่งร้าน โดยเฉพาะ สินค้า และอาหาร ที่แต่ละร้านต้องไม่ซ้ำกัน และมีเอกลักษณ์ในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มต่างๆ โดยวันนี้ เรามีผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร และแบรนด์ มาอยู่กับเราแล้วกว่า 15 แบรนด์ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร พิลาทิส สปา ร้านเสื้อผ้า เครื่องสำอาง และ คลินิกความงามและสุขภาพ โดยกลุ่มผู้ประกอบการของเรา แบ่งเป็นผู้ประกอบการที่เป็นคนไทยประมาณ 80% ส่วนที่เหลือ เป็นแบรนด์จากต่างประเทศ”

คุณวิษณุบอกด้วยว่า ล่าสุดโครงการได้เปิดเฟส 2 เพื่อรองรับการขยายตัวของแบรนด์ร้านอาหาร และกลุ่ม wellness spa เพื่อสุขภาพให้เข้ามาอยู่ในคอมมูนิตี้แห่งนี้ “เราขยายพื้นที่โครงการ เฟส 2 ขึ้น เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าและผู้ประกอบการที่เพิ่มขึ้น โดยวันนี้มีผู้เช่าเข้ามาเพิ่มอีก 6 ราย ที่เป็นแบรนด์ดัง อย่าง House of Emily ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องของ เส้นหมี่ไก่ฉีก โดยมาในรูปแบบใหม่ เฉพาะที่นี่ที่เดียว แม้เพิ่งเปิดตัวได้เพียงแค่ 2 เดือน แต่ก็มียอดจองเข้ามารับบริการยาวไปถึงสิ้นปีแล้ว”

นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ร้านอาหารประเภทปิ้งย่างเนื้อปลาสุดพรีเมี่ยมในสไตล์ญี่ปุ่น เจ้าแรกในประเทศไทย อย่าง Kayaki โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การชูวัตถุดิบเกรดซาซิมิ ส่งตรงจากญี่ปุ่น และกรรมวิธีการย่างแบบพิเศษ พร้อมเสิร์ฟคู่ข้าวญี่ปุ่น เติมได้ไม่อั้น และซอสสูตรเฉพาะ ที่ทำให้รสชาติเนื้อปลาแต่ละชนิดอร่อยกันแบบเต็มคำ”

Good Roots เป็นอีกหนึ่งร้านอาหาร ที่เปิดให้บริการอาหารเพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์คนทุกเพศ ทุกวัย ที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ และอาหารอร่อย ไปพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้คนรักสุขภาพรับประทานได้โดยที่ไม่รู้สึกผิด แถมด้วยความอร่อย รับรองได้ว่า ทุกคนจะมีความสุข และเพลิดเพลินกับรสชาติอันแสนประทับใจ รวมถึง ร้านอาหารจากเชฟดัง อย่าง Benebene ที่กำลังจะเปิดบริการในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยร้านนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ การนำอาหารที่เป็นวัตถุดิบอาหารของประเทศไทย มารังสรรค์เป็นอาหารอิตาเลียน รวมถึงยังมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ใหม่ ถือเป็นอีกเสน่ห์ที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารมากขึ้น”

“และ Stretch Studio สตูดิโอพิลาทิส โดยภายในสตูดิโอถูกตกแต่งตามสไตล์มินิมอล มีความเรียบง่าย แต่ในเวลาเดียวกันก็ยังเป็นบรรยากาศที่อบอุ่น ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายแบบสุดๆ ปิดท้ายด้วย Tavana Sanctuary เป็น wellness spa ตอบโจทย์สำหรับคนรักสุขภาพ มีทั้งนวดไทย นวดน้ำมันอโรมา และ ที่เป็นไฮไลท์ คือ red light therapy คือ การบำบัดด้วยแสงที่ใช้แสงสีแดง เรียกได้ว่าครบวงจรจริงๆ”

อย่างไรก็ดี คุณวิษณุ ตอกย้ำด้วยว่า ทุกโครงการ YARD มีความตั้งใจที่จะให้คนและธรรมชาติได้อยู่ใกล้ชิดกัน และมีความสุขภายในโครงการ “เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ YARD จะเติบโตและได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าทุกท่าน โดยผมคาดหวังจะพัฒนาโครงการของเรา ขยายออกไปในพื้นที่ชานเมืองและต่างจังหวัด เพื่อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันของผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่ ซึ่งไม่เพียงจะทำให้เกิดการพัฒนาที่ดินอย่างมีศักยภาพเท่านั้น แต่ยังจะทำให้ทุกโครงการของเรา เติบโตไปได้ไกลแบบยั่งยืนและถาวร ถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่เราตั้งไว้ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ”